แล้วกัน! แดงอีสานเมิน 'คุณหนูอิ๊งค์' ชวนกลับบ้าน หันโบกธงเชียร์รวมไทยสร้างชาติ

28 พ.ย.2565 - เฟซบุ๊กเพจ พรรครวมไทยสร้างชาติ United Thai Nation Party ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าพรรค ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความว่า นปช.พื้นที่อีสานโบกธงหนุน รทสช. เสนอเป็นตัวแทนกว่า 20 คนพีระพันธุ์ ตั้งเป้าหมายเน้นรวมใจทุกสีร่วมพัฒนาชาติ

“พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ควง “วิทยา แก้วภราดรัย” พบปะพี่น้องอีสาน หวังรวมใจคนทุกสีร่วมพัฒนาชาติด้วยกัน ขณะแกนนำ นปช. อีสานหลายจังหวัด นำสมาชิกสวมเสื้อแดง โลโก้ “รวมไทยสร้างชาติ” โบกธงสนับสนุนเต็มห้องประชุม ระบุแม้การทำงานในอดีตจะมีแนวทางที่แตกต่างแต่มีเป้าหมายเพื่อประเทศไทยเหมือนกัน ชี้รู้ปัญหาเดือดร้อนสำคัญเรื่อง “หนี้กองทุนหมู่บ้าน” จนทำคนเดือดร้อนทั่วประเทศ เตรียมหาข้อมูลและแนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนแล้ว แจงตอนนี้มีคนเสนอเป็นตัวแทนสนับสนุนพรรคกว่า 20 คนแล้ว

เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ศูนย์ประชุมมณฑาทิพย์ฮอลล์ อ.เมือง จ.อุดรธานี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ,นายวิทยา แก้วภราดรัย รองหน้าหน้าพรรค พร้อมด้วยผู้บริหารพรรค เดินทางพบปะผู้สนับสนุนพร้อมร่วมประชุมชี้แจงนโยบายและแนวทางการทำงานของพรรคกับผู้แสดงความจำนงที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ

ท่ามกลางสมาชิกพรรคและประชาชนผู้สนับสนุนโดยเฉพาะภาคอีสานตอนบน ทั้ง อุดรธานี ,ร้อยเอ็ด,หนองคาย,สกลนคร,กาฬสินธุ์ และ จ.มุกดาหาร รวมทั้งนางรัตนาวรรณ สุขศาลา อดีตประธาน นปช. อุดร สมาชิก นปช.นางบุญญาพร นาตะธนภัทร ส.ส.พลังชาติไทย มาสังเกตการณ์ด้วย โดยผู้สนับสนุนต่างสวมเสื้อโลโก้พรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งสีน้ำเงินและสีแดง มารวมประชุมกัน

นายพีระพันธุ์ ได้ขึ้นกล่าวกับผู้สนับสนุนว่า ตนเคยมาอีสานหลายครั้งแต่ไม่ได้มาเรื่องการเมืองเพราะตั้งแต่เด็กก็ไม่เคยคิดเป็นนักการเมืองแต่ได้รับการปลูกฝังเรื่องความเป็นธรรม และเชื่อว่าประชาชนจำนวนมากยังคงมีปัญหาความเดือดร้อน ไม่ได้รับความยุติธรรมทั้งที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะปัญหาหนี้สิน ปัญหาเรื่องที่ทำกิน และอยากทำพรรคที่สู้เพื่อประชาชน จนกระทั่งเกิดเป็นพรรครวมไทยสร้างชาตินี้ขึ้นมา ซึ่งตนเชื่อว่าในใจของทุกคนต้องการเห็นชาติบ้านเมืองดีขึ้นเหมือนกัน แต่กลับถูกแบ่งสีให้ต่างกันทั้งที่เป็นคนไทยเหมือนกัน ดังนั้นตอนนี้จึงถึงเวลาแล้วที่จะเลิกแบ่งสี แต่ควรรวมใจกันมาพัฒนาบ้านเมืองให้ไปสู่เป้าหมายเดียวคือการพัฒนาชาติบ้านเมืองต่อไป

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนได้รับรู้ปัญหาสำคัญของประชาชนนั้นคือเรื่องของหนี้กองทุนหมู่บ้าน ซึ่งเห็นว่าเป็นปัญหาสำคัญที่จะต้องหาแนวทางแก้ไขความเดือดร้อนนี้ ตอนนี้ทางพรรคได้ทำการศึกษารายละเอียดเรื่องนี้แล้วและเตรียมที่จะแก้ไขปัญหา โดยจะต้องดูเรื่องของขอบเขตและแนวทางกฎหมายให้รอบคอบ เพื่อปลดหนี้กองทุนหมู่บ้านให้กับผู้ที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในทุกวันนี้และไม่เพียงแต่อีสาน แต่ยังพบว่ามีอยู่ทุกที แนวทางสำคัญคือนอกจากจะปลดหนี้แล้ว ทางพรรคยังมีแนวทางที่จะสร้างกองทุนใหม่ที่มีความยั่งยืน ขึ้นมาทดแทนอีกด้วย

“ทั้งหมดนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ จะศึกษารายละเอียดที่จะปลดหนี้ให้กับประชาชน เพราะผมเข้าใจเรื่องระบบบัญชีที่ต้องแบกหนี้เพื่อปิดบัญชี ทำให้เป็นหนี้ไม่สิ้นสุด ตอนนี้เรากำลังหาข้อมูลรายละเอียดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป” นายพีระพันธุ์กล่าว

ต่อมานายพีระพันธุ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า สำหรับการเดินทางมา จ.อุดรธานี ในครั้งนี้ ตนพูดมาตลอดว่าเป้าหมายสำคัญคือหวังการเลิกการทะเลาะกันจากสีเสื้อทุกฝ่าย ทั้งแดง ทั้งเหลือง เพราะทุกคนมีเป้าหมายเหมือนกัน คือการพัฒนาชาติบ้านเมือง ดังนั้นควรเอาความสามารถมาแก้ดีกว่า เหมือนที่ตนพูดบนเวที ทั้งนี้ไม่ได้มองเรื่องว่าจะไปเจาะไข่แดงอะไร โดยเฉพาะอีสาน แต่มองเพียงเรื่องความสามัคคี ต้องการให้เข้าใจกันไม่ว่าจะเป็นสีใด แต่ทุกคนคือคนไทย ตนไม่อยากให้ใช้คำว่าดึงใครมาร่วมงาน เพราะทุกคนมีแนวทางเป็นของตัวเอง วิธีการอาจจะต่างกันแต่เป้าหมายเหมือนกันก็สามารถทำงานด้วยได้ โดยที่ผ่านมานายวิทยา รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ประสานงานกับแกนนำใน จ.อุดรธานีจากมา 5-6 เดือน

เมื่อถามว่ามีนักการเมือง อดีต ส.ส.หรือ ส.ส.มีร่วมงานด้วยหรือไม่ นายพีระพันธุ์ตอบว่า ตอนแรกยังคิดว่าจะมีหรือไม่แต่ตอนนี้ทราบว่ามีจำนวนมากจนล้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับข่าวของนายกรัฐมนตรี แต่เป็นการประสานงานมาก่อนจะเปิดตัวพรรคมานานแล้ว ส่วนที่มีข่าวว่านายกฯ จะตั้งให้ตนเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนั้น ตอนนี้ตนไม่รู้ เพราะมีความสุขกับการทำงานอยู่แล้ว และที่ผ่านมาเพิ่งได้เจอท่านนายกฯ ก็แค่ถามความเห็นเรื่องกฎหมายเรื่องศาลรัฐธรรมนูญมีความเห็นมา ส่วนเรื่องอื่นไม่ได้มีพูดอะไรกันเลย ซึ่งหากจะได้รับการแต่งตั้งเป็นอะไรก็ทำงานได้ทั้งหมด แม้ไม่มีตำแหน่งก็ทำได้ทั้งหมดอยู่แล้ว

“ส่วนเรื่องเทียบเชิญ ไม่กล้าที่จะทำหากท่าน ยังไม่พูด แต่การตัดสินใจเป็นอย่างไรไม่รู้ ต้องรอ เพราะท่านเป็นผู้บังคับบัญชา ซึ่งเห็นว่าไม่ว่าท่านจะมาหรือไม่มาก็ไม่ได้กระทบพรรค เพราะพรรคมีเป้าหมายอยู่แล้วในการทำงานไม่ได้มองว่าใครจะมาหรือไป พรรคนี้ตั้งใจมาทำงานด้วยตัวเองและอยากปักธงที่นี่” นายพีระพันธุ์ กล่าว

ด้านนายวิทยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาการแบ่งแยกแบ่งสี ทำให้ตนในฐานะเป็นแกนนำ กปปส.ทีทำให้ที่ผ่านมาไม่เคยได้มีโอกาสมาพูดคุยกับพี่น้องชาวอุดรฯเลย แต่เมื่อได้ตั้งใจจะสร้างพรรคใหม่ร่วมกับนายพีระพันธุ์ และนายพีระพันธุ์ก็มีความหวังที่จะสร้างความสามัคคีปรองดองของคนไทยทุกฝ่ายมาร่วมกันพัฒนาชาติตามนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงได้รับปากว่าจะประสานงานพูดคุยกับทุกฝ่าย จนในที่สุดได้มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็น นักการเมืองในพื้นที่,แกนนำ นปช. รวมไปถึงพี่น้องประชาชนชาวอุดรฯ และชาวอีสานอีกหลายคนจึงทำให้เห็นว่า แม้ในอดีตแนวทางการทำงานจะแตกต่างกันแต่ทุกคนมีความมุ่งหมายเดียวกันคือต้องการให้ชาติ และบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าเหมือนกัน ในที่สุดก็ตกลงร่วมกันว่าจะจับมือกันเพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศไทย รักษาสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และสร้างนักการเมืองที่ดี มีความซื่อสัตย์ไปด้วยกัน

“พรรคนี้ชื่อรวมไทยสร้างชาติ คือการรวมทุกฝ่ายทุกคนเพื่อสร้างชาติของเรา เราจะหลอมรวมจิตใจก้าวไปข้างหน้า ขอบคุณพี่น้องอีสานทุกคนที่สนับสนุน ตอนนี้ทราบว่าใน จ.อุดรธานี ทั้ง 9 เขต มีผู้เสนอตัวเข้ามาทำงานและลงสมัครแล้ว เกือบ 20 คนมีทั้งอดีต ส.ส. สจ. แกนนำ นปช. ถือว่ามากที่สุดในประวัติการณ์ วันนี้จึงเป็นวันเริ่มต้นที่คนทุกสีเสื้อที่จะมารวมตัวกัน รวมใจกันเป็นรวมไทยสร้างชาติ เพื่อพัฒนาชาติบ้านเมืองร่วมกันต่อไป” นายวิทยากล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พีระพันธุ์-เอกนัฏ' ถกโผ รทสช. สะพัด 'สุชาติ' กรอกคุณสมบัติแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.45 น. นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางเข้าพบ นายพีระพันธุ์ สา

'สุวัจน์' หวนคืนชื่อเดิม 'พรรคชาติพัฒนา' แต่งตั้ง สส.แจ้ เป็นรองหัวหน้าพรรค

พรรคชาติพัฒนากล้า เปิดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า , นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ,

'ชัยเกษม' ออกตัวไม่เกี่ยวปรับครม. ผู้บริหารพรรคจะใช้ให้ทำอะไรก็ได้ สบายๆ

นายชัยเกษม นิติสิริ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เดินทางมาไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การเดินทางมาไหว้วันนี้เกี่ยวอะไรกับการปรับ ครม.หรือไม่

ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 20: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสายตาผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส)

(ต่อจากตอนที่แล้ว) ในรายงานลงวันที่ 24 กันยายน 1932 (พ.ศ. 2475) ของพันโท อองรี รูซ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกและทหารเรือประจำสยาม ประจำสถานอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสยาม มีความว่า

'เผ่าภูมิ' ปัดนายกฯ ส่งสัญญาณนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวได้เดินทางมารับเอกสารกรอกแบบฟอร์มตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว ว่า ตนไม่ให้คอมเมนท์ ยืนยันว่าขณะ