หญิงหน่อยประกาศ “แก้หนี้เติมทุน” คนจน ด้วย”กองทุนเครดิตประชาชน” ไม่แจกบัตรคนจน ขอแจก ”บัตรเครดิตประชาชน” เป็น”เงินด่วนประชาชน”เพื่อใช้ล้างหนี้นอกระบบ เป็นทุนตั้งตัวและเป็นหลักประกันทางการเงินตลอดชีวิต มั่นใจช่วยฟื้นเศรษฐกิจชุมชนให้หมุนเวียน ไม่สูญเปล่าเหมือนการแจกเงินแบบประชารัฐ ประชานิยม
19 ก.พ. 2566 – คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยนายวรวุฒิ ศรีนนท์ นายอนุศักดิ์ เรืองชู ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนนทบุรี พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรีตลาดวัดพุฒ และตลาดท่าทราย พร้อมเยี่ยมชมวิถีชุมชนแหล่งท่องเที่ยวตลาดน้ำวัดตะเคียนและพบปะผู้สูงอายุชมรมผู้สูงอายุพิบูลสงครามซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับพี่น้องประชาชน พ่อค้าแม่ขายพบว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังคงฝืดเคืองต่อเนื่องโดยเฉพาะกำลังซื้อของประชาชนที่หดหายไป นับแต่เกิดสถานการณ์โควิด ซึ่งกินเวลาต่อเนื่องกว่า 3 ปี พ่อค้าแม่ขาย ต้องหยุดกิจการชั่วคราว หรือปิดกิจการ เนื่องจากเงินทุนหมุนเวียนที่ใช้ในการประกอบอาชีพไม่เพียงพอ
สอดคล้องกับสถานการณ์หนี้ของประเทศไทยในขณะนี้มีความน่ากังวลเป็นอย่างมาก เพราะประเทศไทยมีหนี้ แตะ 10ล้านๆบาท ถือเป็นหนี้สาธารณะของประเทศ ที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือนที่พุ่งเกิน30% ในรอบ 10 ปีเกินระดับเฝ้าระวังที่ร้อยละ 80% ต่อ GDP มาอยู่ที่ร้อยละ 86.8% ต่อ GDP ในไตรมาส 3 ของปี 2565 ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายของประเทศ
สถานการณ์เหล่านี้ทำให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยหรือคนตัวเล็กซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศเป็นหนี้นอกระบบต้องแบบรับภาระดอกเบี้ยมหาโหดถึงร้อยละ 20 ต่อเดือนหรือประมาณ 240 เท่าต่อปี บางรายถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยเป็นรายวัน ดังนั้นคนที่เป็นหนี้ในลักษณะเช่นนี้จึงไม่มีโอกาสใช้หนี้ได้หมดและไม่สามารถตั้งตัวได้ต้องเป็นคนจนต่อไป ต่างจากนักธุรกิจรายใหญ่ที่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำได้เพียงร้อยละ 2- 3 ต่อปี นี่คือความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น
พรรคไทยสร้างไทยจึงมีนโยบายกองทุนเครดิตประชาชนหรือกองทุนคนตัวเล็ก เป็นการมอบเครดิตให้ประชาชนเพื่อล้างหนี้นอกระบบ ช่วยคนไทยหลุดพ้นจากอุปสรรคทางการเงิน ที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ ยิ่งไปกว่านั้น เงินส่วนนี้จะหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้หลายรอบ ไม่สูญเปล่าเหมือนการแจกเงินแบบ ประชารัฐหรือประชานิยม
สำหรับ เงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยของกองทุนคนตัวเล็ก จะมีอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 1 ต่อเดือน ที่สำคัญคือ ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สามารถเริ่มต้นกู้ได้ไม่เกิน 5,000 บาท และถ้ารักษาเครดิตได้ดีจะสามารถกู้ได้ถึง 50,000 บาท
โดยเงินจำนวนนี้ อาจกู้ยืมไปใช้ในยามวิกฤติ กู้ยืมไปใช้ในการตั้งตัว หรือเอาไปเป็นทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจขนาดเล็กของตน
“พรรคไทยสร้างไทย จะไม่แจกบัตรคนจนแต่จะแจกบัตรเครดิตประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้อุ่นใจว่า เมื่อเดือดร้อนเงินเมื่อใด สามารถไปกู้เงินจากกองทุนเครดิตประชาชน หรือกองทุนคนตัวเล็กได้ทันที และกู้ได้ตลอดชีวิตหากไม่เบี้ยวหนี้” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โหวตงบ67วันโลกาวินาศ สะท้อนเสถียรภาพฝ่ายค้าน?
หลังเสร็จสิ้น ภารกิจเดินทางมาราธอน ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางเยือนต่างประเทศร่วมเกือบ 2 สัปดาห์ ภารกิจกลับเชียงใหม่ บ้านเกิดในรอบ 17ปี
ไทยสร้างไทย แจงยิบ 3 สส. โหวตแหกมติฝ่ายค้าน!
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี3สส.ของพรรค ได้แก่ นางสุภาพร สลับ
'สุดารัตน์' ไม่เห็นด้วยรัฐบาลแจกเงินดิจิทัล แนะหยิบนโยบายพรรคไทยสร้างไทยไปใช้แทน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงอุดมการณ์ของพรรคว่า ขอให้สส. อดีตผู้สมัคร สส. สมาชิกของพรรคทุกคน ยืนหยัดทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ร่วมกันรักษาประชาธิปไตย และรักษาสถาบันหลักของบ้านเมือง ประกอบด้วย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
'ไทยสร้างไทย' ปลุกรัฐบาลเลิกขายฝันเงินดิจิทัล แนะแจกเครดิตกระตุ้น ศก.
'ไทยสร้างไทย' ห่วงธุรกิจร้านอาหารซบเซาหนัก จี้รัฐบาลอย่ามัวขายฝันเงินดิจิทัล 1 หมื่น แนะแจกเครดิตประชาชน 2 พันบาท กระตุ้นท่องเที่ยวและบริโภค
'หญิงหน่อย' ชี้ 'กู้มาแจก' ไม่ใช่ยาวิเศษ เตือนหนี้ครัวเรือน ระเบิดเวลา ศก.ไทย
'ไทยสร้างไทย' เตือนรัฐบาล หนี้ครัวเรือน-หนี้ SMEs ระเบิดเวลาเศรษฐกิจไทย จี้เร่งช่วยคนตัวเล็ก 'แจกเครดิต' ให้ทำทุน ชี้ 'กู้เงินมาแจก' ไม่ใช่ยาวิเศษ ย้ำต้องเป็นเงินให้เฉพาะผู้มีรายได้น้อย
'สุดารัตน์' วอนรัฐบาลจริงใจเร่งแก้ รธน. อย่าดึงเรื่องทำประชามติเสียงบประมาณ
"สุดารัตน์" ขอรัฐบาลจริงใจ เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ แนะทำต่อจากร่างที่เคยเสนอไว้ ขออย่ามองเป็นของไทยสร้างไทย เพื่อให้ประเทศเดินหน้าและอำนาจกลับมาเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ชี้ตั้งคณะกรรมการศึกษา ยิ่งเสียเวลา เสียเงิน และสร้างความขัดแย้ง