นักกฎหมาย คลี่เงื่อนเวลา ยุบสภา-ผู้สมัคร ส.ส.ย้ายพรรคหลังวันสงกรานต์

11 มี.ค.2566 - ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักฎหมายมหาชน กล่าวว่า กระบวนการตัดสินใจในการยุบสภา เป็นอํานาจของฝ่ายบริหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยเสนอเป็นพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรในการกระทํา ครั้งเดียวในเหตุการณ์เดียว หมายความว่า เหตุในการยุบสภา ในเหตุเดียวกัน รัฐธรรมนูญไมได้บัญญัติ เหตุการณ์เอาไว้ ซึ่งมีหลายสาเหตุในการยุบสภา โดยพิจารณาถึงประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริยทรงเป็นประมุข โดย พล.อ.ประยุทธ์ฯ นายกรัฐมนตรี สามารถอ้างเหตุผลใดก็ได้ในการยุบสภาก่อนครบวาระโดยให้เข้าเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 103 วรรคสอง การกําหนดวันยุบสภา จะต้องสานสัมพันธ์กับการกําหนดวันเลือกตั้งของ กกต.

กล่าวคือ ภายใน 5 วันนับแต่วันที่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภา ให้ กกต.ประกาศกําหนดวันเลือกตั้งทั่วไปในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน นับแต่วันที่มีพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวใช้บังคับ ส่งผลให้กรณีการเลือกตั้งทั่วไปเพราะหตุยุบสภา ทําให้ ผู้สมัคร ส.ส.ย้ายพรรคใหม่ไม่น้อยกว่า 30 วันนับถึงวันเลือกตั้ง ตามความในมาตรา 97(3)

ยกตัวอย่าง เช่น ประกาศยุบสภา วันที่ 21 มีนาคม 2566 กกต.สามารถกําหนดวันเลือกตั้ง ไม่น้อยกว่า 45 วันแต่ไม่เกิน 60 วันนับแต่วันยุบสภา โดยจะกําหนดในวันที่ 21 พฤษภาคม 2566 ตรงกับวันอาทิตย์ก็ได้ ดังนั้นเกณฑ์ในการ พิจารณาสังกัดพรรคการเมือง การยุบสภา จะต้องสังกัดพรรคการเมืองหนึ่งการเมืองใด ไม่น้อยกว่า 30 วันนับ ถึงวันเลือกตั้ง ผู้สมัคร ส.ส.จะต้องสังกัดพรรคภายในวันที่ 21 เมษายน 2566

ทั้งนี้ การประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ไม่ได้กําหนดให้นายกรัฐมนตรี ผู้นําฝ่ายบริหาร ประกาศเป็นทางการให้ประชาชนทราบล่วงหน้า เพราะเป็นดุลพินิจเด็ดขาดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาและประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้ประชาชนทราบ

ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวว่าการยุบสภาและกําหนดวันเลือกตั้ง จะต้องสานสัมพันธ์กัน หมายความว่า รัฐธรรมนูญให้อํานาจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกําหนดวันยุบสภา ซึ่งจะต้องพิจารณาถึงตัวแปรในสนามการเลือกตั้งและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี(พรรครวมไทยสร้างชาติ) ตามบัญชีรายชื่อบุคคลซึ่งพรรคการเมืองนั้นมีมติว่าจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ กกต.ก่อนปิดวันสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 88 ด้วยว่าพรรคการเมืองที่สังกัด มีความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งเพียงใด เพราะตัวแปรสําคัญ เงื่อนไขบังคับก่อน คือจะต้องคว้าที่นั่ง ส.ส.ในสัดส่วนสภาไม่ น้อยกว่า 25 ที่นั่ง จึงจะมีโอกาสกลับมานั่งตําแหน่งนายกรัฐมนตรีได้

ดร.ณัฐวุฒิ ย้ำว่าการยุบสภา หาก พล.อ.ประยุทธ์ฯ ประกาศยุบสภาในวันที่ 21 มีนาคม 2566 ก่อนครบกําหนดอายุสภาในวันที่ 23 มีนาคม 2566 ในอดีต ที่ผ่านมา สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เคยยุบสภาผู้แทนราษฎรใกล้ครบกําหนดวาระมาแล้ว ไม่เป็นเรื่อง ผิดปกติทางการเมือง หากยุบสภาในวนั ที่ 21 มีนาคม 2566 กกต.สามารถกําหนดวันเลือกตั้งทั่วไปใน วันที่ 21 พฤษภาคม 2566 ได้

"อันนี้ ผมคิดในใจดังๆให้ได้ยินถึง พล.อ.ประยุทธ์ฯ นายกรัฐมนตรี โดยทางการเมือง จะต้องชิงความได้เปรียบทางการเมือง ไม่มีเหตุผลความจําเป็นที่ กกต.จะกําหนดเลือกตั้งในวันที่ 7 พฤษภาคม 2566เพราะเป็นการกําหนดไว้ล่วงหน้าเฉพาะกรณีครบอายุสภาเท่านั้น ตามกระแสข่าว หาก พล.อ.ประยทธ์ จันทร์โอชา ประกาศยุสภาในวันที่ 20 มีนาคม2566 และกระแสข่าว กกต.กําหนดวัน เลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม ก็สามารถกระทําได้ โดยเฉพาะกรอบเวลาขยายออกไป ย่อมมีผลต่อการย้าย ขั้วการเมืองของผู้สมัคร ส.ส. จะก่อให้เกิดพลังดูดซ้อนพลังดูด ประชาชนจะพบเห็นปรากฎการณ์ทางการเมือง นักการเมืองย้ายพรรค ย้ายขั้วการเมือง ที่ว่าพรรคการเมืองนั้นเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ลงเขตนั้น ลงเขตนี้ เปิดช่อง ให้ผู้สมัครย้ายพรรคได้ โดยมีกรอบระยะเวลาถึงวันที่ 21 เมษายน 2566 เป็นระยะเวลาภายหลังวัน สงกรานต์ ทําให้นักการเมืองระดับชาติ มีเวลาเตรียมตัว เตรียมความพร้ออม ในการย้ายพรรคตามอุดมการณ์ ทางการเมืองมากขึ้น

แต่หากยุบสภาวันที่ 20 มีนาคม 2566 และกกต.กําหนดวันเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ผู้สมัครจะต้องสังกัดพรรคการเมอื งภายในวันที่ 14 เมษายน 2566(ระยะเวลา 30 วันนับถึงวันเลือกตั้ง) ตรงนี้ พล.ประยุทธ์ฯ ชิงความได้เปรียบทางการเมือง ภายหลังยุบสภา ยังเป็นรัฐบาลรักษาการ อยู่จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าทําหน้าที่ แม้จะมีข้อห้ามตามรัฐธรรมนูญบางประการก็ตาม


ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่าในรัฐธรรมนูญ 256 ฉบับปัจจุบัน ย่อมมีความแตกต่างจากรัฐธรรมนูญในอดีต โดย รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ให้อํานาจ กกต.กําหนดวันเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไป เป็นดุลพินิจเด็ดขาดของ กกต. ซึ่ง เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญไม่ได้ให้อํานาจรัฐบาลกําหนดวันเลือกตั้งเหมือนในอดีต

ทั้งยังกําหนด เครื่องมือในการปราบปรามทุจริตการเลือกตั้ง โดยเพิ่ม ดาบแจกใบส้มและใบดํา จะเห็นได้จาก การแจกใบดํา เป็นการตัดสิทธิการเมืองตลอดชีพ ทั้งยังนําไปบัญญัติไว้ในหมวดที่ 4 ว่าด้วย ปปช. มาตรา 235 วรรคสี่ เป็น การยกระดับการปราบโกงการเลือกตั้ง แต่การกําหนดวันเลือกตั้งทั่วไปตามที่รัฐธรรมนูญกําหนดไว้ให้อํานาจ กกต. จําต้องพิจารณาถึงความพร้อมทุกด้านและความเป็นมืออาชีพของ กกต.ด้วย

อาทิ งบประมาณในการจัดการเลือกตั้ง การแบ่งเขตเลือกตั้ง การประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง การจัดเตรียมบุคลากรคณะกรรมการ ประจําหน่วยเลือกตั้ง รวมถึงอุปกรณ์และกําหนดสถานที่เลือกตั้ง

ทั้งนี้ ในการสืบสวน การไต่สวนและวินิจฉัยชี้ขาด คดีเลือกตั้ง ส.ส.ตามระเบียบใหม่ จะต้องมีความพร้อม ไมว่าการสืบสวนการลงพื้นที่เป้าหมายการทุจริต การเลือกตั้งการทํางานเชิงรุกของผู้ตรวจการเลือกตั้งประจําจังหวัด และคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ประจําจังหวัดเพื่อจัดการเลือกตั้งให้สุจริตและเที่ยงธรรมแก่ผู้สมัคร ส.ส.และทุกพรรคการเมืองด้วย หาก พิจารณาถึงข้อดี ข้อเสีย และกรอบเวลาในการกําหนดวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 45 วันแต่ไม่เกิน 60 วันนับแต่มี พระราชกฤษฎีกายุบสภา หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ตัดสินใจประกาศยุบสภา ในวันที่ 21 มีนาคม 2566 กกต.ย่อมสามารถกําหนดวันเลือกตั้ง ตามความในมาตรา 103 วรรคสาม แห่งรัฐธรรมนูญ คือ วันที่ 21 พฤษภาคม 2566 ตรงกับวันอาทิตย์ ส่งผลให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเดินทางกลับ ภูมิลําเนาไปใช้สิทธิเลือกตั้ง จะมีสถิติสูงขึ้น

ตรงนี้ ไม่ไดพูดชี้นํา แต่พูดตามบริบททั้งปวง มองถึงองคาพยพ ภาพรวมทั้งหมด หากระยะเวลาสั้น ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2566จะทําให้ไม่เกิดความพร้อมในส่วนของพรรค การเมืองส่วนใหญ่จะต้องจัดทําไพรมารีโหวตทุกจังหวัด โดยเฉพาะพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ที่มีความพร้อม เพียง 3 ถึง 4 พรรคเท่านั้น หากพิจารณาภาพรวมถึงพรรคการเมือง ที่ กกต.จดทะเบียนในปัจจุบัน มีพรรค การเมือง ไม่น้อยกว่า 80 พรรค ที่จะเข้าสู่สนามการเลือกตั้ง ส่งผลทําให้ประชาชนผู้มีสิทธิการเลือกตั้งย่อมมี กระบวนการตัดสินใจเลือกผู้แทนฯโดยมีตัวเลือกพรรคการเมืองและผู้สมัคร ส.ส.ในระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบมากขึ้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัยเกษม' ออกตัวไม่เกี่ยวปรับครม. ผู้บริหารพรรคจะใช้ให้ทำอะไรก็ได้ สบายๆ

นายชัยเกษม นิติสิริ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เดินทางมาไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การเดินทางมาไหว้วันนี้เกี่ยวอะไรกับการปรับ ครม.หรือไม่

ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 20: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสายตาผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส)

(ต่อจากตอนที่แล้ว) ในรายงานลงวันที่ 24 กันยายน 1932 (พ.ศ. 2475) ของพันโท อองรี รูซ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกและทหารเรือประจำสยาม ประจำสถานอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสยาม มีความว่า

'เผ่าภูมิ' ปัดนายกฯ ส่งสัญญาณนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวได้เดินทางมารับเอกสารกรอกแบบฟอร์มตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว ว่า ตนไม่ให้คอมเมนท์ ยืนยันว่าขณะ

อดีตบิ๊กข่าวกรองเตือนสติ! อย่าหลับตาพูดลืมตาดูสถานการณ์โลกด้วย

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ

'หมอชัย' สยบข่าวเปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาล ยันนายกฯไม่ส่งสัญญาณ

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงโฆษกรัฐบาล ว่า ไม่มีนะ ตนไม่เคยได้ยินข่าว และขอย้ำว่าไม่มีตนกองเชียร์ไม่เยอะ

'เศรษฐา' แพลมโผครม.นิ่งแล้ว ไม่มีแกว่ง อุบตอบเก้าอี้หดเหลือแค่ตำแหน่งนายกฯ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ระบุว่าส่งรายชื่อบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรีถึงนายกฯ โดยนายกฯย้อนถามว่า “หรือครับ ไม่ทราบ”