‘สว.ประพันธ์’ แนะพรรคก้าวไกล ทบทวนบทบาทตัวเอง หลังเดินทางผิดมานาน เชื่อหากปรับท่าที จะผงาดขึ้นมาแทนเพื่อไทย
19 มี.ค.2566-นายประพันธ์ คูณมี สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) อดีตนักเคลื่อนไหวการเมืองนอกรัฐสภาชื่อดังตั้งแต่ยุค 14 ตุลาคม 2516 -6 ตุลาคม 2519 -เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 -กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้ความเห็นทางการเมืองถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของพรรคก้าวไกล(ก.ก.)ว่า จริงๆแล้วพรรคก้าวไกล ก็เป็นพรรคการเมืองที่ดีพรรคการเมืองหนึ่ง มีความตั้งใจที่จะสร้างพรรคขึ้นมาทำงานในเชิงมีหลักการและอุดมการณ์ทางการเมือง แต่ว่ามันเหมือนสมัยพวกเราเป็นนักศึกษาหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ที่มีความตื่นตัว และมีความเร่าร้อนเกินความจำเป็น มักจะมีอาการออกไปทางสุ่มเสี่ยงเอียงซ้าย ตามภาษานักทฤษฎีการเมืองและมักจะมองคนอื่นเป็นพวกปฏิกิริยาล้าหลัง
แนวความคิดแบบนี้ไม่ต่างอะไรจากพวกเรดการ์ดในจีนสมัยหนึ่ง พรรคก้าวไกลต้องปรับตัวเองและสลัดคราบความคิดที่จะไปถึงขนาดจะไปเปลี่ยนแปลงระบอบโครงสร้างการปกครองประเทศ เปลี่ยนแปลงระบอบสถาบันฯ ยกเลิกกฎหมายอะไรต่างๆที่มันยังไม่ใช่สิ่งที่เป็นข้อเรียกร้องของประชาชน ในฐานะพรรคการเมืองที่เข้ามาตามระบอบของรัฐสภาและการเลือกตั้ง ที่มันไม่ได้มวลชน ไม่ได้แนวร่วม ไม่ได้ผู้สนับสนุนทำให้ตัวเองโดดเดี่ยว เรียกว่า เดินกลยุทธ์การเมืองผิด โดยหากพรรคก้าวไกลปรับตัวเอง และทำงานเหมือนกับที่ทำงานอยู่ในสภาฯในช่วงที่ผ่านมา ไปเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชน จะดีกว่าที่จะไปเล่นเกมบนท้องถนน หรือไปท้าทายอำนาจศาล ไปอะไรกับสถาบันฯ ที่ไม่ใช่แนวทางที่ถูกของพรรคการเมือง
“ผมเชื่อว่าหากพรรคก้าวไกลปรับตัวเองและมีท่วงทำนองที่มีความสุภาพ แล้วก็สร้างนโยบายที่เป็นประโยชน์ของมหาชน ก็ทำให้ก้าวไกลมีโอกาสจะขึ้นไปแทนพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคเพื่อไทยมีแต่จะถอยลงมา เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นพรรคของทักษิณ คนในพรรคเพื่อไทยที่มันไม่กล้าพูดเพราะมันโกหกตัวเองทั้งนั้น แม้แต่คนเสื้อแดง ก็ยังแตกหนีออกไป ซึ่งถ้าก้าวไกลปรับตัวเอง ปรับกลยุทธ์ ปรับนโยบาย ก้าวไกลก็มีโอกาสเติบโตได้ เพราะหากดูจากหน้าเสื่อการเมืองตอนนี้ ฝ่ายค้านที่เข้มแข็งที่สุดตอนนี้ ก็คือพรรคก้าวไกล ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน ก้าวไกลก็เหมือนกับประชาธิปัตย์ สมัยเป็นฝ่ายค้าน แต่ว่าก้าวไกลเล่นประเด็นสะเปะสะปะกับประเด็นที่ไม่ควรไปเล่น เลยไม่ได้คนทุกชนชั้นมาเป็นแนวร่วม เป็นมิตรกันทางการเมือง”
นายประพันธ์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในช่วงรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ที่เข้ามาเป็นนายกฯรอบสองหลังเลือกตั้งปี 2562(ม็อบสามนิ้ว) ไม่สามารถเรียกมวลชนให้มาร่วมเคลื่อนไหวด้วยได้มาก เหมือนตอนพันธมิตรฯ หรือ กปปส.เคลื่อนไหว ทำให้เมื่อไม่มีมวลชนเข้าร่วมด้วย พลังเคลื่อนไหวก็ไปไม่ได้ ทำให้มาถึงตอนนี้ พลังในส่วนของกลุ่มที่เคลื่อนไหวดังกล่าว ก็อ่อนแรงและถดถอยไปเยอะ ไม่มีศักยภาพพอที่จะไปปลุกเร้าประชาชนให้มาเข้าร่วม อีกทั้งแกนนำหลายคนก็ถอดใจไปเยอะเพราะถูกดำเนินคดีหลายสิบคดี เสียอนาคตตัวเองไปเยอะ ผมจึงมองว่าพลังที่จะมาเรียกร้องเรื่องการปฏิรูปสถาบันฯ ยกเลิกมาตรา 112 มันไม่น่าจะเกิดขึ้น
พรรคก้าวไกลจึงควรรู้ว่าจุดขายของตัวเองอยู่ที่ไหน เขาสำคัญตัวเองผิดหรือไม่ ว่าจุดขายของพรรคไม่ใช่อยู่ที่จุดนี้ แต่พรรคก้าวไกลควรทำตัวเป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีนโยบายก้าวหน้า รวมถึงต้องตอบให้ได้ว่า หากคนเลือกพรรคก้าวไกล แล้วจะพาสังคมไทยไปสู่สังคมแบบไหนในแต่ละด้าน จะแก้ปัญหาเรื่องความยากจน ความเหลื่อมล้ำของคนในสังคมด้วยวิธีไหน และจะทำให้สำเร็จภายในกี่ปี ด้วยพลังของพวกคุณ คนรุ่นใหม่ อีกทั้งพรรคก้าวไกลควรตอบให้ได้ว่าจะดูแลประเทศในอนาคตอย่างไร เขายังไม่ชัดเจนในเรื่องอุดมการณ์และแนวทาง และนโยบายด้านต่างประเทศของก้าวไกล ก็ไม่ชัดเจน คุณกำลังจะพาประเทศไปอยู่ในลักษณะเป็นเครื่องมือ เป็นสมุนหรือบริวารของพวกมหาอำนาจ ไม่เหมือนนโยบายของผู้นำประเทศในช่วงที่ผ่านมาที่เขาพยายามบาลานซ์ถ่วงดุลอำนาจ เขาไม่เทคไซด์ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ที่เขาจะคบหมดทั้งรัสเซีย จีน สหรัฐอเมริกา ที่ทำให้เกิดการ Balance of Power ได้ จนเราไม่ตกเป็นเป้าหมายที่จะถูกทำลายของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เขากำลังพยายามพาประเทศไปเทคไซด์อยู่กับสหรัฐอเมริกา
“มีหลายเรื่องที่พรรคก้าวไกลต้องทบทวนตัวเอง ซึ่งหากเขาทบทวนตัวเอง แล้วก็สร้างมโนภาพให้ประชาชนเห็นว่า ถ้าเลือกผม คนรุ่นใหม่ จะพาประเทศชาติไปอย่างไร ต้องอธิบายให้ชัดเจน แต่ถ้าอีกห้าสิบปี ร้อยปีข้างหน้า สังคมอาจจะเปลี่ยนรูปเปลี่ยนร่างไปแล้ว ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ ณ วันนี้มันยังไม่ใช่ ก็เท่านั้นเอง”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ยัน ร่วมโต๊ะอาหารเที่ยงกับ 'เอกนัฏ'
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ร่วมโต๊ะอาหารกลางวันกับนายกรัฐมนตรีและคณะ
'ดร.อานนท์' ชงสูตรการเมืองทำลาย 'ก้าวไกล-ธนาธร' เชื่อยอมเจ็บเถิด จะได้จบ
ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า
'ทวี' ยันไม่เคยได้ยิน เพื่อไทยจะเอาตำแหน่งประธานสภาฯ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีกระแสว่าพรรคเพื่อไทยจะขอเก้าอี้ประธานสภา ว่า รัฐธรรมนูญได้มีการเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนถึงการเข้าดำรงตำแหน่งประธานสภาว่าเป็นเรื่องของสภา ส่วนเรื่องคณะรัฐมนตรีนั้นเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี
ศาล รธน.ไฟเขียว 'ก้าวไกล' ขยายเวลาสู้คดียุบพรรค
ศาล รธน.ไฟเขียวให้ขยายเวลาก้าวไกล ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ปมยุบพรรค ได้อีก 15 วัน
'เสี่ยหนู' ลั่นพรรคเพื่อไทยปรับเก้าอี้ รมต.เกี่ยวอะไรกับพรรคร่วมรัฐบาล!
'อนุทิน' ถามเกี่ยวอะไรกับพรรคร่วม หลังมีสัญญาณปรับ ครม. ยันเป็นดุลพินิจนายกฯตัดสินใจ
'พิชัย' เซ็ง 'แบงก์ชาติ' ไม่ลดดอกเบี้ยถามสังคมแบบนี้ควรมีอิสระไหม!
'พิชัย' ผิดหวัง 'แบงก์ชาติ' ไม่ลดดอกเบี้ย ทั้งที่ภาพรวมเศรษฐกิจแย่ แต่กลับไม่เดือดร้อน ชี้ไม่ใช่หน้าที่แบงก์ชาติมากำหนดอัตราการเติบโต แนะอย่าอ้างว่าต้องอิสระบนความเดือนร้อนของประชาชน