'ก้าวไกล' หนาว! 'สาธิต' แจ้งความปราศรัยใส่ร้าย จ่อร้อง กกต.

‘สาธิต’ แจงยิบ ซัดกลับ ‘ก้าวไกล’ ปราศรัยป้ายสี ยันทำหน้าที่ รมต.-ส.ส. จับมือทุกฝ่ายช่วยคนระยองฝ่า 3 ปัญหาร้อนสำเร็จ โร่แจ้งความบ่ายสอง เร่งเก็บหลักฐานร้อง กกต. ฟันผิดกม.เลือกตั้ง

8 พ.ค. 2566 – เมื่อเวลา 10.15 น. ที่อาคารกรุงเทพทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรี นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัคร ส.ส.ระยอง แถลงว่า กรณีที่พรรคก้าวไกล ที่นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จัดการปราศรัยหาเสียงที่ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้มีกล่าวปราศรัยที่เข้าข่ายใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เกิดความเข้าใจผิดต่อตัวตนและ ส.ส.ระยอง ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าพวกตนไม่สนใจทำหน้าที่ใดๆ ใน 3 เหตุการณ์ คือ 1.เหตุการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 จากบ่อนการพนันแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง 2.เหตุการณ์ทหารอียิปต์ที่ติดเชื้อโควิด-19 เข้ามาใน จ.ระยอง และ 3.เหตุการณ์น้ำมันรั่วในทะเลบริเวณ จ.ระยอง ซึ่งยืนยันว่าตนและ ส.ส.ระยอง ของพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน ได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ละเลย และไม่มีสักวันที่จะไม่คิดถึงประชาชนชาวระยอง

โดยขอชี้แจงว่า การระบาดของเชื้อโควิด-19 จากบ่อนพนันนั้น ตนในฐานะ รมช.สาธารณสุข ได้เร่งลงพื้นที่ควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 จนสามารถคลี่คลายได้ภายใน 14 วัน อีกทั้ง ตนพร้อมด้วย นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ และนายธารา ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมมือกับภาคประชาชนในจังหวัดออกมาเรียกร้องให้มีการปิดบ่อน และโยกย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกระดับชั้นที่มีส่วนปล่อยปละละเลย ขณะเดียวกัน ตนได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องเรื่องนี้ และ นพ.บัญญัติ ได้ตั้งกระทู้ถามสดในสภาผู้แทนราษฎรด้วย จนในที่สุด นายกฯได้ดำเนินการให้มีการสั่งโยกย้ายครั้งใหญ่ ทั้งการย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และการย้ายผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง และผู้กำกับ 5 เสือ ใน สภ.เมืองระยอง รวมถึงมีการจับกุมเจ้าของบ่อนใหญ่ใน จ.ระยอง ตนยืนยันได้เลยว่าพวกเราทำงานกันเป็นทีม และทำงานติดต่อกันประสบผลสำเร็จ ดังนั้น คนที่จะอวดอ้างผลงานตรงนี้ได้ไม่ใช่พรรคก้าวไกล แต่เป็นภาคประชาชนใน จ.ระยองที่ร่วมทำงานกับ ส.ส.ระยอง ของเขาอย่างเต็มกำลัง

ส่วนกรณีทหารอียิปต์นั้น ทันทีที่ทราบว่าทหารคนดังกล่าวถูกตรวจพบเชื้อโควิด-19 และมีประวัติว่าเคยเข้ามาในจ.ระยอง ตนเร่งนำแพทย์และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเข้าไปควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดใน จ.ระยอง ด้วยการลงพื้นที่ตรวจจุดเสี่ยงทั้งหมด นำตัวทหารรายนี้ไปตรวจ และนำกลุ่มผู้ใกล้ชิดกับทหารอียิปต์ไปสอบสวนโรค ทำตามกระบวนการทุกอย่าง จนสามารถควบคุมโรคได้ จากนั้นตนได้นำข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นแพทย์และผู้อำนวยการโรงพยาบาลมาจัดสัมมนาใน จ.ระยอง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นสู่จ.ระยอง รวมถึงร่วมมือกับทุกฝ่ายเป็นเวลาหลายวันในการคลี่คลายสถานการณ์ และสามารถสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนสู่ จ.ระยองได้สำเร็จ

สำหรับเหตุการณ์น้ำมันรั่วในทะเลมาบตาพุด จ.ระยอง ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ม.ค.2565 ตนพร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2565 เพื่อบินสำรวจที่เกิดเหตุ และสั่งการให้ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมต้องแสดงความรับผิดชอบ อีกทั้งได้เรียกบริษัท SPRC ให้เร่งปฏิบัติตามแผนเพื่อแก้ไขปัญหา รวมถึงขอกำลังจากกองทัพเรือมาควบคุมเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหล ต่อมาวันที่ 28 ม.ค.2565 ตนและเจ้าหน้าที่ของหลายฝ่ายได้ลงพื้นที่ต่างๆ ที่เป็นจุดเสี่ยงเพื่อดำเนินการป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันไหลเข้าฝั่ง นอกจากนี้ ได้ทำงานอีกหลายอย่าง ทั้งการประกาศแจ้งเตือนและตั้งศูนย์บัญชาการให้ข้อมูลแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในจ.ระยอง รวมถึงบังคับให้บริษัท SPRC ต้องเยียวยามากที่สุดเท่าที่ทำได้ ซึ่งเขาได้ชดเชยเยียวยาแล้วเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยยังขาด 3 เปอร์เซ็นต์ที่กำลังอยู่ระหว่างการฟ้องร้อง

“ดังนั้น ถ้าใครจะอวดอ้างผลงานนี้ ก็ต้องเป็นคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ คือผมในฐานะที่เป็นรมช.สาธารณสุข และเป็นส.ส.ระยอง ที่ได้ทำงานร่วมกับทุกฝ่ายจนประสบความสำเร็จ ขอฝากบอกถึงคุณพิธาและพรรคก้าวไกลว่าขอให้แยกแยะว่าการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ คือการทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร ส่วนการทำงานแก้ปัญหาหรือใช้งบประมาณในการลงมือทำ คือการทำหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ซึ่งคือตัวผมและรัฐมนตรีในขณะนั้นได้ทำหน้าที่บริหารและร่วมมือกับประชาชนจนทำสำเร็จ ส่วนคนที่ทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ ควรบอกว่าเขาได้ทำงานในสภาได้อย่างสมบูรณ์ แบบนี้จึงเรียกว่าเป็นการเมืองสร้างสรรค์ และผู้สมัคร ส.ส.ระยองจากทุกพรรคได้จับมือทำสัญญาสัตยาบันแล้วว่าจะทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ แต่ต้องพังทลายลงด้วยการปราศรัยของหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเขาสนุกปากหรือคิดว่ามีกระแสสนับสนุนมาก จึงไม่ย้อนดูข้อเท็จจริง” นายสาธิต ระบุ

นายสาธิต กล่าวว่า จะนำข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้ไปแจ้งความ เพื่อลงบันทึกเป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองระยอง ในวันนี้ (8 พ.ค.) เวลาประมาณ 14.00 น. เพราะการจะได้คะแนนนิยมนั้นไม่จำเป็นต้องสาดโคลนใส่ร้ายกัน ทั้งนี้ยังมีหลายเรื่องที่นายพิธาไม่เข้าใจ หรือแกล้งไม่เข้าใจในระบอบประชาธิปไตย ขณะที่สังคมกำลังตั้งคำถามถึงพฤติกรรมความไม่น่าเชื่อถือของนายพิธา อาทิ การทำร้ายร่างกายเพศตรงข้าม การอ้างเรื่องกลับมาไม่ทันงานศพ ความไม่ชัดเจนว่าจะยกเลิกหรือแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และวันนี้เป็นอีกกรณีที่สะท้อนว่าสิ่งที่นายพิธาพูดกับความเป็นจริงเป็นอย่างไร และขอให้นายพิธามีความเป็นลูกผู้ชายที่เป็นผู้นำ ซึ่งจะเป็นอนาคตของชาติต่อไปในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง

เมื่อถามว่า จะยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วยหรือไม่ นายสาธิต กล่าวว่า ขอสงวนสิทธิ์ทางกฎหมาย และขอรอดูว่าพรรคก้าวไกลจะแสดงท่าทีหลังจากนี้อย่างไรหรือไม่ ขอรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งเบื้องต้นเห็นว่าเข้าข่ายกระทำผิดตามมาตรา 73 (5) แห่งพระราชประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ส่วนจะมีโทษถึงขั้นยุบพรรคได้หรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลของฝ่ายกฎหมาย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชงไทยบี้เมียนมา งดขายน้ำมันให้ เจรจาสันติภาพ

"โรม" เสนอให้ไทยงดขายน้ำมันให้ "เมียนมา" ปูดใช้ไทยฟอกเงินเครือข่ายซื้ออาวุธที่ใช้ปฏิบัติการ เตือนถูกดึงไปเอี่ยวร่วมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

สส.ระยอง ก้าวไกล ตั้งข้อสงสัยวางเพลิงโรงงานเก็บสารเคมี 'วิน โพรเสส' จี้รัฐบาลตรวจสอบ

นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมีของบริษัท วินโพรเสส จำกัด ว่า ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ตนได้ลงพื้นที่จุดหลังเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเช้าถึงเวลา 22.00 น.

'ก้าวไกล' ชูร่างกฎหมายจัดระเบียบกลาโหม ปฏิรูปกองทัพ คืนอำนาจให้รมต.

ร.ท. ธนเดช เพ็งสุข สส.กทม.พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงแนวคิดการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม และกฎหมายศาลทหาร

'ธนาธร' ปลุกหนักมาก! ชวนลงสมัคร 'สว.ประชาชน' เข้าไปรื้อรัฐธรรมนูญ

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงเปิดตัวแคมเปญ ‘สว.ประชาชน’ ของคณะก้าวหน้า ว่า คณะก้าวหน้าเห็นความสำคัญของการเลือกตั้ง สว.ในเดือน พ.ค.-มิ.ย.ที่จะมาถึง จึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนให้มาร่วมกันลงสมัคร สว.

‘วิโรจน์’ หนุน ‘สุทิน’ แก้กฎหมายกลาโหม สกัดรัฐประหาร ลั่นต้องทำให้ถึงแก่น

‘วิโรจน์’ เห็นด้วยในหลักการ หลัง ‘สุทิน‘ เสนอแก้ ’กฎหมายกลาโหม‘ สกัดรัฐประหาร แต่ต้องแก้ให้ถึงแก่น ไม่ใช่แค่ผิว ชี้ เป้าหมายสูงสุด คือทำให้กองทัพไม่อยู่ในฐานะรัฐอิสระ แนะ ควรปรับสัดส่วน ‘สภากลาโหม’ ให้เหลือแค่ 11 คน-มีทหารไม่เกินกึ่งหนึ่ง