'บิ๊กป้อม' ลั่นกลางวงประชุม ไม่ไปไหน อยู่ 'พปชร.' ตลอดชีวิตที่มี ขีดเส้นห้ามแตกแถว

“บิ๊กป้อม” ปฐมนิเทศ ส.ส. ก่อนเปิดสภา ลั่น จะอยู่ พปชร.จนวันตาย ไม่หนี ไม่ทิ้งแน่ ติวผู้แทนใหม่  ต้องเป็นเอกภาพ อย่าแบ่งก๊วนต่อรอง เล็งนัดถกแนวทางโหวตปธ.สภา 4 ก.ค.  

2 ก.ค.2566 – เมื่อเวลา 13.00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้มีการจัดกิจกรรมปฐมนิเทศ ส.ส.ใหม่ และประชุมเชิงปฏิบัติการและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของพรรคและสมาชิก โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. เป็นประธาน และมีกรรมการบริหารพรรคและแกนนำพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพียง ทั้งนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ภาคเหนือ

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มประชุมเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมสถานที่ สำหรับจัดโต๊ะจีน 20 ตัว รวมถึงป้ายข้อความต่างๆ ที่บริเวณโถงชั้น 1 อาคารที่ทำการพรรค เพื่อจัดงานเลี้ยงแสดงความยินดีกับ ส.ส.พรรคทุกคนหลังการประชุม ภายใต้สโลแกนก้าวข้ามความขัดแย้ง  

ต่อมาเวลา 13.30 น. พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางถึงที่ทำการพรรค พปชร. ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แจ่มใส โดยสวมใส่เสื้อเชิ้ตลาย กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ พร้อมเสื้อแจ็คเก็ตพรรค โดยมี ส.ส.และแกนนำพรรคให้การต้อนรับ โดยบรรยากาศภาพรวมเป็นไปอย่างคึกคัก 

จากนั้นเวลา 14.15 น. พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวมอบแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส. ว่า ก่อนอื่นตนเองขอแสดงความยินดีกับ ส.ส.ใหม่ รวมไปถึงคณะกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการยุทธศาสตร์ คณะกรรมการนโยบาย รวมไปถึงสมาชิกของพรรค พปชร.ทุกคน ตนเองและคณะกรรมการบริหารพรรคขอแสดงความยินดีกับ ส.ส.ใหม่ทุกท่านด้วยความยินดียิ่งที่ท่านได้รับความไว้วางใจจากประชาชนจนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา  

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมามีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นมากกว่าทุกครั้ง จากข้อมูลการเลือกตั้งมีพรรคการเมืองมาเสนอให้กับพี่น้องประชาชนเลือกถึง 67 พรรค และมากกว่า 4,000 หน่วย 400 เขตเลือกตั้ง ซึ่งมีประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้งกว่า 75% สูงที่สุดในประวัติการณ์ แม้ว่าพรรค พปชร.จะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมาเป็นอันดับ 4 ก็ตาม แต่ก็ได้รับเลือกตั้งมาเป็นตัวแทนประชาชนจากทั่วทุกภูมิภาค ยกเว้นกรุงเทพมหานคร จึงถือได้ว่า พวกเราได้รับความศรัทธาจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะ ส.ส.ที่ได้นั่งอยู่ในห้องนี้ผ่านการแข่งขันที่รุนแรงอย่างมาก แต่ก็เอาชนะมาได้ เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองจะต้องนำผลการเลือกตั้งไปปรับปรุงเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป 

หัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า ตนเองได้แถลงขอบคุณประชาชนทั้งประเทศที่ให้ความไว้วางใจในพรรค พปชร. ไปแล้วตั้งแต่ในวันที่เสร็จสิ้นการเลือกตั้ง และตอนนี้ตนเองขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับพรรค พปชร.ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาที่ทำงานอยู่ร่วมกันอย่างเหน็ดเหนื่อย รวมไปถึงผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทุกคน ทุกเขตที่ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ทำงาน และมีส่วนร่วมสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นอย่างดี 

“ถึงวันนี้พรรคพลังประชารัฐของเราจะต้องเดินไปข้างหน้าตามอุดมการณ์ ตามเจตจำนงของพรรคที่ขออาสาเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อเป็นพรรคการเมืองของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผมขอยืนยันว่าจะดูแลพรรคพลังประชารัฐไปตลอดชีวิตของผม เท่าที่ผมมี เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าผมจะลาออกหรือไปที่ไหน อย่างไรก็จะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐตลอดไป”พล.อ.ประวิตร กล่าว 

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า หลังจากพิธีเปิดประชุมรัฐสภา 3 ก.ค.จะมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธาน สภาฯในวันที่ 4 ก.ค. จากนั้นจะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ไม่ว่าผลการจัดตั้งรัฐบาลจะออกมาในรูปใดก็ตาม พรรค พปชร. ยังจะเป็นพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อรับใช้ประชาชนต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง 

หัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า การปฐมนิเทศวันนี้ ตนเองอยากให้เป็นจุดเริ่มต้นที่รวมบุคลากรคนสำคัญของพรรค ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรือไม่ก็ตาม จะต้องร่วมกันทำงานเพื่อให้พรรค พปชร.เป็นพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง และเป็นที่พึ่งของประชาชนต่อไป โดยเฉพาะ ส.ส.ใหม่หรือคนเก่า ไม่ว่าสมัยที่แล้วอยู่พรรคใด แต่วันนี้จะต้องมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวของพรรค พปชร. จะต้องทำหน้าที่ทั้งในและนอกสภาฯอย่างเต็มที่ จะต้องทำผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ตาม เมื่อประชาชนให้ความไว้วางใจสนับสนุนพวกเรา เราต้องทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ อยากจะให้ข้อคิดกับ ส.ส.ทุกท่าน เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติว่า การทำหน้าที่ ส.ส.ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และมติข้อบังคับของพรรค อย่างเคร่งครัด รวมถึงจะต้องมีจริยธรรม โดย ส.ส. พรรค พปชร.จะต้องเป็นเอกภาพ ไม่มีการแบ่งกลุ่มแบ่งก๊วนเพื่อเรียกร้องผลประโยชน์ใดๆ ก็ตาม 

 พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ทุกอย่างที่ตนเองพูดในวันนี้ไม่ใช่ว่าจะก่อประโยชน์ให้กับคนใดคนหนึ่ง แต่จะก่อให้เกิดประชาชนและประเทศชาติ ส.ส.ของพรรคเราจะยึดประเทศชาติเป็นที่ตั้งไม่ใช่ผลประโยชน์ของพรรค และจะต้องรักษาผลประโยชน์ของพรรค ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตัว หากทุกคนปฏิบัติตามนี้แล้ว เชื่อมั่นว่าพรรค พปชร.จะเป็นพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง และจะเป็นที่พึ่งของประชาชนตลอดไป การปฐมนิเทศวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ ส.ส.จะได้ทำหน้าที่เป็น ส.ส.ของพรรค พปชร.ในสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 ขอให้กำลังใจแก่ทุกท่านให้ปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.อย่างมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้ทุกประการ 

รายงานข่าวจากพรรค พปชร.แจ้งว่า สำหรับทิศทางการโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎรของพรรค พปชร. ขณะนี้ยังไม่ได้มีมติออกมาว่าจะโหวตให้กับใคร เพราะต้องรอดูความชัดเจนระหว่างพรรคเพื่อไทย (พท.) กับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่าจะเสนอบุคคลใด แล้วค่อยมากำหนดว่าพรรคจะโหวตให้ใคร โดย ส.ส.ของพรรคทั้งหมด 40 คน จะโหวตในทิศทางเดียวกันทั้งหมด โดยก่อนการโหวตประธานสภา ในวันที่ 4 ก.ค. จะมีการประชุม ส.ส.ของพรรคที่รัฐสภา เพื่อแจ้งให้ ส.ส.ทราบถึงทิศทางว่าจะโหวตอย่างไร เมื่อมีมติเสร็จแล้วจะเข้าประชุมสภาต่อทันทีเพื่อลงมติเลือกประธานสภาฯ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พรรคกล้าธรรม พร้อมรับ 20 สส.กลุ่มผู้กองธรรมนัส

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม กล่าวภายหลังพรรคพลังประชารัฐเตรียมประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรค และสส. เพื่อขอมติในขับสส. 20 คน ที่สังกัดกลุ่ม

ศาลรับฟ้อง 'บิ๊กป้อม' ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 'สิระ' เรียก 50 ล้าน

พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค พปชร.ได้มอบอำนาจให้ตน ให้ทนายความ ฟ้อง

ปูด 3 บอส กำจัด 'บิ๊กป้อม' พ้นวงจรการเมือง-จ้องขโมย สส.

นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ถึงขบวนการกำจัดพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พ้นจากการเมือง ว่ามี 3 บุคคล คือ 1.ผู้นำสูงสุดของพรรคเพื่อไทย

รัฐบาลแพทองธาร อยู่ไม่ครบปี บิ๊กป้อม ยังสู้-พปชร.เดินหน้าต่อ

เหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์เศษ ปี 2567 ก็จะผ่านพ้นไปแล้วเพื่อเข้าสู่ปีใหม่ 2568 ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2567 เป็นอย่างไร และปีหน้า 2568 จะมีทิศทางเช่นไร เรื่องนี้มีมุมมองแนววิเคราะห์จาก