แฟ้มภาพ
10 ธ.ค.2564 - นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า ฤานายกจะต้องไป แล้วคุณประวิตรจะเเทนหรือ
วันนี้ผมขอเป็น "โหร" สักครั้ง ผมจะพยากรณ์ว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป (คนที่….) จะได้เป็นเมื่อไร เเละเป็นนานเท่าใดด้วย
คงจำกันได้ว่าเมื่อ 3 ป. ไปอุดรธานีและมีสุภาพสตรีมาหมอบกราบรองนายกประวิตร(เกินไปหน่อยนะ) แถมยกยอว่าท่านนายกหล่อจังเลย ก็มีผู้คนไปวิจารณ์กันจิปาถะซึ่งส่วนใหญ่คิดว่า จำคนผิด
เเต่ผมไม่คิดเช่นนั้นเลย เหตุผลก็คืองานอย่างนี้ และต่อหน้านักข่าว กองเชลียร์ต้องเลือกคนที่เจ๋งที่สุดแล้ว แถมต้องซ้อมแล้วซ้อมอีกจนมั่นใจว่า ต้องตีบทแตกแน่ๆจึงจะอนุญาตให้ออกแสดงต่อหน้าสาธารณชนแบบวันนั้น
เหตุเกิดเพราะลูกน้องรองประวิตร เดาเอาว่า นายกประยุทธ์คงไม่สามารถแหวกวงล้อมรัฐธรรมนูญของคุณประยุทธเองเรื่อง “ ห้ามเป็นนายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปี” จึงคิดว่า ไหนๆ ก็อุ้มชูอยู่เบื้องหลังนายกฯ มาตลอด คราวนี้ก็ควรถึงเวลาเป็นเองเสียสักครั้งให้เป็นเกียรติประวัติ การมีคนไปกราบและเรียกชื่อว่านายก จึงเป็นการเตือนใจคุณประวิตร ว่าราษฎร(กลุ่มหนึ่ง) เขาเห็นว่า ถึงเวลาแล้ว รัศมีก็เรืองรองผ่องอำไพเพียงพอ และด้วยเหตุนี้จึงต้องเกิดภาพ 3 ป. รักกันปานจะกลืนกินออกมา
ถามว่า แล้วเมื่อไรรองประวิตร จะได้เป็นนายกเสียที คำตอบแบบเดาๆก็คือ ก่อนนายกประยุทธ์ครบ 8 ปีสักหนึ่งเดือนมั๊ง แล้วคุณประวิตรจะเป็นนายกได้อย่างไร คำตอบก็คือ ด้วยแรงอิทธิฤทธิ์ของสว. 250 เสียงบวกกับกลุ่มพรรครัฐบาลอีก 280 แถมเบี้ยเล็กเบี้ยน้อยอีกสัก 30 รวมแล้วได้ 560 เสียงจาก 750 หรือคิดเป็นกว่า 70% คือเกิน 2 ใน 3 ของรัฐสภาฯ คือ สส. และ สว. รวมกัน (แค่กล้วยหมดสวนเลยเท่านั้น)
ถามว่าหากคุณประวิทย์เป็นนายกจริง จะอยู่นานไหม คำตอบคือไม่นานแน่ๆ เพราะคงไม่อยากตอบว่า “ผมไม่รู้” ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงต้องชิงยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่หนีการอภิปรายแน่นอน แล้วก็เป็นรัฐบาลรักษาการต่อไปอีก 2 เดือนสบายแฮไป แล้วไปลุ้นอีกทีตอนเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งจะพอดีกับกติกาใหม่ บัตร 2 ใบจะออกมา
เรื่องที่ผมเดามาทั้งหมด อุปสรรคสำคัญที่สุดคือ พรรคใหญ่ที่ร่วมเป็นรัฐบาลในขณะนี้ จะสามัคคีกลมเกลียวกันอย่างไร โดยเฉพาะขณะนี้กำลังจะมีการเลือกตั้งทางภาคใต้สืบเนื่องจากคณะ กกปส. หลายคนถูกถอดถอนสิทธิ หากแตกคอกันเสียก่อนก็ถือว่า ที่ผมพูดจะหมดไป
ที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี้จริงๆ ก็ไม่ใช่ประสงค์จะอวดภูมิหรืออยากเป็นโหรอะไรหรอก ผมเพียงต้องการแสดงให้เห็นความ "พิลึกและผิดเพี้ยนไปจากมาตรฐานสากลมากๆ" ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันให้ได้ประจักษ์กันอีกครั้ง เพื่อเตือนสติทุกคนที่พยายามแก้ไข
รูปที่นำมาในวันนี้คือหลานชายคนเล็กซึ่งอยากล้างเท้าให้ปู่เพราะเห็นปู่บ่นว่า มีปัญหาที่ปลายประสาท เขาชื่อ “ปิ่นประสพ” เพราะเกิดตอนปู่เป็นรองนายก ส่วนอีกภาพเป็นหลานสาวคนเล็กสุดชื่อ “ปิ่นฤทัย” เพิ่งกลับจากโรงเรียน จึงมาไหว้ปู่ก่อนไปอาบน้ำ ที่หลานทำเช่นนี้เพราะรักและเคารพปู่ ไม่มีการเสแสร้งแต่งเติมอะไรอย่างที่บางคนชอบแสดงกันอยู่ในปัจจุบัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สุทิน' ร่ายยาวครั้งแรกหลังมีชื่อพ้นครม. แจงดราม่า 'ทักษิณ' เมินมาลัย
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความพอใจผลงาน 6-7 เดือนที่ผ่านมา รวมถึงกระแสข่าวจะถูกปรับออกจากรัฐมนตรี
นายกฯ ยัน ร่วมโต๊ะอาหารเที่ยงกับ 'เอกนัฏ'
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ร่วมโต๊ะอาหารกลางวันกับนายกรัฐมนตรีและคณะ
'ธนาธร' โผล่เมืองคอน ปลุกสมัคร สว. 1 บ้าน 1 คน
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้เชิญชวนผู้เข้าร่วมเสวนา โดยเฉพาะผู้ที่มีศักยภาพในการจ่ายค่าสมัครจำนวน 2,500 บาท
'ทวี' ยันไม่เคยได้ยิน เพื่อไทยจะเอาตำแหน่งประธานสภาฯ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีกระแสว่าพรรคเพื่อไทยจะขอเก้าอี้ประธานสภา ว่า รัฐธรรมนูญได้มีการเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนถึงการเข้าดำรงตำแหน่งประธานสภาว่าเป็นเรื่องของสภา ส่วนเรื่องคณะรัฐมนตรีนั้นเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี
'ไชยา' ลั่นปรับครม.กี่ครั้งก็ตาม ก.เกษตรฯต้องอยู่กับเพื่อไทย
นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายชื่อถูกปรับออก ว่าตนทราบตามข่าว ไม่ได้หวั่นไหวอะไร และ 7 เดือนที่ผ่านมา ทำหน้าที่ในกรอบในข้อจำกัดของงบประมาณ ถ้าหากเป็นไปตามนโยบายของผู้ใหญ่ตนก็ไม่ขัดข้อง ก็แล้วแต่
'เศรษฐา' เผยไต๋นั่งควบกลาโหม ทุกอย่างมีโอกาสขึ้นอยู่กับเงื่อนเวลา
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในที่ประชุมได้มีรัฐมนตรีซักถามถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.หรือไม่ ว่า ไม่มีใครถามอะไรเลย ทุกคนยังทำงานอย่างต่อเนื่อง