'วราวุธ' ยันยังไม่ได้คุยเรื่องโควต้าเก้าอี้รัฐมนตรีรัฐบาลใหม่

12 ส.ค.2566 - นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าหลังจากที่ได้มีการแถลงข่าวจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยว่า รายละเอียดต่างๆ เชื่อว่าเมื่อใกล้ถึงเวลาก็จะมีการพูดคุยกันในรายละเอียดอีกครั้ง เพราะมีหลายพรรคการเมืองเข้ามาทำงานร่วมกันซึ่งคงต้องมีการพูดคุยกันเยอะหน่อย

ผู้สื่อข่าวถามว่ากระแสข่าวโควต้ารัฐมนตรีจะมีสัดส่วน 9 ต่อ 1ใช่หรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า ก็ต้องดูว่าท้ายที่สุดแล้วพอรวมกันทั้งหมดฟากรัฐบาลจะมีทั้งหมดกี่ร้อยเสียง ถ้าเป็น 300 กว่าเสียงอย่างที่เป็นข่าว ถ้าหารออกมา ก็จะอยู่ที่ 8-9 เสียงต่อ 1 ตำแหน่ง

เมื่อถามว่า ตรงนี้จะต้องคุยก่อนโหวตเก้าอี้นายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ เพราะหลายคนมองว่าไม่น่าจะตีเช็คเปล่า หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ตามประเพณีที่ทำมาก็ต้องมีการพูดคุย ให้ได้แนวทางที่ชัดเจนในระดับนึงก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า เงื่อนไขที่คุยไปหลายคนมองว่าพรรคที่เป็นขั้วรัฐบาลเดิมที่เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลใหม่ควรจะได้เก้าอี้ในสัดส่วนเดิมใช่หรือไม่ นาย วราวุธ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องปกติที่แต่ละท่านที่ได้ทำงานมาก็มีความคุ้นเคยที่จะสามารถทำงานได้ทันที ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องดูว่าพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคแกนนำมีแนวนโยบายอย่างไร เมื่อความต้องการเปลี่ยน เวลาเปลี่ยน ก็ต้องปรับเงื่อนไขให้เป็นไปตามแนวทาง

เมื่อถามย้ำว่าทางพรรคชาติไทยพัฒนายืนยันใช่หรือไม่ว่าจะต้องพูดคุยตำแหน่งก่อนที่จะโหวตเก้าอี้นายกรัฐมนตรี นายวราวุธกล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าต้องมีความชัดเจนในระดับหนึ่งก่อน แต่คงต้องรอดูในสัปดาห์หน้าอีกครั้งหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่าส่วนตัวนายวราวุธจะนั่งเก้าอี้เดิมหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวเชิงหยอกล้อว่า “ ตอนนี้ผมโดนเปลี่ยนไป 3เก้าอี้แล้วก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆอีก”

เมื่อถามว่าแต่ถ้าเป็นเก้าอี้เดิมก็ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า เดี๋ยวก็ต้องมาดูกันก่อนเพราะยังไม่รู้อะไรเลย จะตีตนไปก่อนไข้ก็กระไรอยู่ ตอนนี้ยังมีงานทำก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ยืนยันว่าถึงเวลานี้ยังไม่ได้พูดคุยกันถึงเรื่องกระทรวง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วรชัย' หนุนนิรโทษกรรม แนะก้าวไกลคุยให้ครบทุกพรรค อย่าเอาหน้าพรรคเดียว

นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของรองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ของพรรคก้าวไกล ว่า สถานการณ์ของประเทศ

'เอี่ยม' จุก! 'โรม' ชี้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์จากนิรโทษฯ แม้แต่คนของเพื่อไทยที่ไม่มีสิทธิพิเศษเหมือนเทวดาชั้น 14

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินสายพูดคุยเรื่องแนวทางนิรโทษกรรมกับอดีตพระพุทธอิสระ ในทำนองว่า การนิรโทษกรรมควรเป็นการดำเนิน

ความสับสนทางการเมือง

(ข้อเขียนนี้เขียนและเผยแพร่ครั้งแรก เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2551) วิกฤติการเมืองไทยในช่วง พ.ศ. 2549-2551 ได้ก่อให้เกิดความสับสนทางการเมืองอย่างหนัก ความสับสนที่เห็นได้ชัดประการแรกคือ

'เศรษฐา' อย่าได้ไปโทษคนอื่น อย่าได้คิดว่าถูกกลั่นแกล้ง เพราะนายกฯเป็นคนก่อปัญหาเอง

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร ดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวนายกรัฐมนตรี จนถึงขนาดเกิดความสั่นคลอนความมั่นคงของตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี