กรณ์ ชี้นโยบายแจกเงินดิจิทัลเป็นนโยบายที่คิดมาไม่ละเอียด หวังผลทางการเมืองมากกว่าการพัฒนา และเป็นแนวนโยบายที่อันตรายต่ออนาคตเศรษฐกิจของเราอย่างมาก
9 ต.ค.2566-นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า พอหลุดออกจากวัฏจักรการแข่งขันทางการเมือง ผมรู้สึกสบายใจกับการที่ไม่ต้องขัดแย้งหรือพยายามเอาชนะใคร แต่ความรู้สึกเป็นห่วงบ้านเมืองไม่เปลี่ยน ที่เปลี่ยนคือมีใจให้กับทุกฝ่ายในการทำหน้าที่ของตน ไม่ว่าจะเป็น #เพื่อไทย ในฐานะรัฐบาล #ก้าวไกล ในฐานะฝ่ายค้าน หรือพรรคเก่าผมคือ #ประชาธิปัตย์ ที่อยากให้ฟื้นคืนชีพกลับมาเป็นทางเลือกให้ประชาชน
ผมไม่ได้เป็นตัวละครทางการเมือง แต่ในบางสถานการณ์ก็ยังรู้สึกว่าความคิดและประสบการณ์ของเรายังอาจเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดเส้นทางของสังคม ในกรณีนี้ก็พร้อมแสดงออก พร้อมช่วยคิด ช่วยนำเสนอ อย่างเรื่องแผนการ #แจกเงินดิจิทัล ผมเป็นหนึ่งใน (อดีต) หัวหน้าพรรคไม่กี่คนที่แสดงความเห็นชัดเจนตั้งแต่ช่วงดีเบตและหาเสียงว่า ผมไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ และผมตระหนักอย่างมากว่าผมพูดในฐานะผู้ที่เคย ‘แจกเงิน’ ประชาชนโดยตรงคนแรกเลยด้วยซํ้าด้วยนโยบาย ‘เช็คช่วยชาติ’ เมื่อปี 2552 ในช่วงวิกฤตการเงินโลกแฮมเบอร์เกอร์ และผมลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคส่วนหนึ่งก็เพื่อให้พรรคชาติพัฒนากล้าสามารถเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยโดยสะดวก
ส่วนตัวจริงๆ ผมเชียร์ให้ #นายกเศรษฐา ประสบความสำเร็จ ผมรู้จักกับ ‘พี่นิด’ มานมนานตั้งแต่สมัยเด็กๆ ซึ่งตลอดช่วงที่เราอยู่คนละคั่วทางการเมืองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันจนถึงทุกวันนี้ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมกำลังสื่อว่าความเห็นของผมในเรื่องนโยบายนี้ไม่มีประเด็นการเมืองเกี่ยวข้อง และผมอยากเห็นพลพรรคเพื่อไทยออกมาตอบโต้ความเห็นค้านจากทุกทิศในเชิงหลักการเศรษฐศาสตร์มากกว่าที่จะตอบโต้ทางการเมือง หรือด้วยการด้อยค่านักวิชาการที่ออกมาแสดงความเห็นคัดค้านในช่วงที่ผ่านมา
พรรคเพื่อไทยเคยสร้างประวัติศาสตร์ทางด้านนโยบายด้วยความกล้าหาญและวิสัยทัศน์ในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น 30 บาทรักษาทุกโรค หรือแนวคิดส่งเสริม OTOP หรือการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ dual track แต่เพื่อไทยควรตระหนักเช่นกันว่าบางนโยบายสร้างความเสียหายอย่างมาก ชัดๆ คือประกันราคาข้าวทุกเมล็ดที่เรียกว่า #จำนำข้าว และนโยบาย #รถคันแรก
ผมรู้สึกอย่างมากว่า นโยบายแจกเงินดิจิทัลเป็นนโยบายที่คิดมาไม่ละเอียด หวังผลทางการเมืองมากกว่าการพัฒนา และเป็นแนวนโยบายที่อันตรายต่ออนาคตเศรษฐกิจของเราอย่างมาก เพื่อไทย ยังสามารถปรับแนวคิด และเบนทรัพยากรไปสู่การแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชน และการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อช่วยภาคธุรกิจและประชาชนทั่วไปในการเตรียมรับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในด้านเทคโนโลยี ด้านสังคมสูงอายุ และด้านพลังงานหมุนเวียน หรือยังไม่ต้องรีบกู้เงินก้อนนี้ก็ได้ เก็บกระสุนไว้ก่อน ไว้จำเป็นจริงๆค่อยว่ากัน
รัฐบาลนี้มีความมั่นคงมากกว่าที่คนคิด เพราะแรงเสียดทานทางการเมืองหายไปมากจากการผสมผสานข้ามขั้ว หากใช้ทุนทางการเมืองในทางที่บ้านเมืองได้ประโยชน์ ความกังขาในที่มาของรัฐบาลจะถูกมองข้าม เพราะผมเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่พร้อมยอมรับทุกรัฐบาลที่สร้างประโยชน์ให้กับเขา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภูมิใจไทย' ยันหนุนแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
นายณัฎฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย ออกมาชี้แจงกรณีที่นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ สมาชิก
แฉเล่ห์ 'พท.' วางยาแก้ รธน. ล็อกคำถามประชามติครั้งแรก
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า พรรคเพื่อไทยจริงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่
รัฐบาลตีปี๊บ ประกวด 'ข้าวหอมมะลิไทย' ช่วยยกคุณภาพชีวิตเกษตรกร
รัฐบาลหนุนเกษตรกรและโรงสี จัดประกวดข้าวหอมมะลิไทยปี 2566 เฟ้นหาและอนุรักษ์พันธุ์ข้าวไทยคุณภาพชั้นเลิศ พร้อมขยายช่องทางการจำหน่าย
อดีตคน ธกส. เคยร่วมแก้กฎหมาย อธิบายชัดเจน 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ไม่อยู่ในขอบวัตถุประสงค์มาตรา 9
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กระบุว่า #เศรษฐาซื้อเวลาเงินหมื่นสุดท้ายทำไม่ได้ แปลกใจไหมครับ ทำไมวันที่นายเศรษฐาแถลงเรื่องดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท
'นันทิวัฒน์' ตั้งข้อสังเกตรัฐบาลไม่ฟังแบงก์ชาติท้วงติงแจกเงินดิจิทัล คุกไว้ว่ากันทีหลัง
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นี่หรือจะช่วยคนจน การท้วงติงของแบ๊งค์ชาติเรื่องเงินดิจิตอล
นายกฯ นำรมต.พรรคร่วม ยืนเรียงแถว แถลงครม.เห็นชอบหลักการดิจิทัลวอลเล็ต
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นำแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ , นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย , นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน