กางไทม์ไลน์ รับฟังความคิดเห็นทำประชามติแก้รธน. เผยก้าวไกลอยากแก้ทุกหมวด

"นิกร" กางไทม์ไลน์ รับฟังความเห็นตลอด พ.ย. เผยทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ มั่นใจ กก.ศึกษาฯแก้ไขรธน. ทันสิ้นปี ย้ำเริ่มทำประชามติไตรมาสแรกของปี 67

28 ต.ค.2566 - นายนิกร จำนง ประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 กล่าวถึงความคืบหน้าในการเดินหน้ารับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำประชามติ ว่า กรอบงานและแผนงานลงตัวหมดแล้ว มีปฏิทินแผนงาน ดังนี้ 1. วันที่ 30 ต.ค.ร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ของวุฒิสภา โดยจะไปรับฟังความคิดเห็น และร่วมกับกมธ. ออกแบบสอบถามกับสมาชิกสภาทั้งหมด ขอความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการทำประชามติ และรัฐธรรมนูญ 2. วันที่ 2 พ.ย. ร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ของสภาผู้แทนราษฎร โดยจะไปรับฟังความคิดเห็น และร่วมกับกมธ. ออกแบบสอบถามกับสมาชิกสภาทั้งหมด ขอความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการทำประชามติ และรัฐธรรมนูญ 3. วันที่ 8 พ.ย. จะเปิดรับฟังความเห็นจากเยาวชนคนรุ่นใหม่ จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เยาวชนที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งก็จะเป็นการรับฟังความเห็นในลักษณะของโฟกัสกรุ๊ปเพื่อฟังความเห็นองค์รวม ที่ทำเนียบรัฐบาล

4. วันที่ 10 พ.ย. จะเป็นการรับฟังประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ทั้ง ผู้ใช้แรงงงาน ทหาร ตำรวจ สื่อสารมวลชน สันนิบาตเทศบาล คนพิการ และกลุ่มความหลายกหลายทางเพศ นอกจากนั้นก็จะมีกลุ่มเอ็นจีโอต่าง ๆ อาทิ สมัชชาคนจน และไอลอว์ ที่ทำเนียบรัฐบาล 5. วันที่ 14 พ.ย. คณะอนุกรรมการชุดรับฟังฯ จะเดินทางไปรับฟังความเห็นต่างของพรรคก้าวไกล ที่ทำการพรรคก้าวไกล จาก กก.บห. พรรคและผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ว่ามีข้อโต้แย้งอย่างไร 6. วันที่ 20 พ.ย.ออกรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในภาคอีสาน โดยมีตนเป็นแกนนำและคณะอนุกรรมการซึ่งเป็นคณะทำงานเป็นผู้เดินทางไปรับฟังความเห็นของกลุ่มเกษตรกร สภาตำบล กลุ่มแม่บ้าน จ. สกลนคร

7. วันที่ 23 พ.ย.ออกรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในภาคกลาง โดยมี นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อนุกรรมการชุดรับฟังฯ เป็นแกนนำ ไปรับฟังความเห็นของประชาชนในกลุ่มอุตสาหกรรม แรงงาน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการกำหนดว่าจะเป็นที่จ.ชลบุรี หรือฉะเชิงเทรา ส่วนที่ภาคเหนือก็จะเป็นอนุกรรมการชุดรับฟังฯ ที่อยู่ที่ จ.เชียงใหม่ โดยจะรับฟังคนเหนือ พื้นที่ท่องเที่ยว และกลุ่มชาติพันธุ์ 8. วันที่ 7 ธ.ค. ออกรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในภาคใต้ โดยมี นายเจือ ราชสีห์ และนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท เป็นแกนนำคณะทำงาน รับฟังความเห็นพี่น้องชาวมุสลิม และพื้นที่ชายแดนใต้ ที่ จ.สงขลา

นายนิกร กล่าวว่า เมื่อคณะอนุกรรมการชุดรับฟังฯ ดำเนินการตามแผนงานดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว หลังจากนั้นเมื่อเปิดประชุมสภาฯ ในสมัยหน้า
เราต้องการสอบถามสมาชิกรัฐสภา 100% จากนั้นคงจะต้องใช้เวลาราว 1 สัปดาห์ เพื่อสอบถามความคิดเห็น เพราะสมาชิกรัฐสภาเป็นคนที่จะต้องลงมติเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรกที่ขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนธ.ค.และหลังจากนั้นในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธ.ค.ก่อนขึ้นปีใหม่ จะมีการเรียกจะประชุมคณะกรรมการอีกชุดหนึ่ง

ทั้งนี้คณะอนุกรรมการอีกชุด จะประชุมในวันที่ 8 พ.ย.จะประชุมเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับข้อกฎหมาย เพื่อสรุปเรื่องข้อกฎหมายและคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะฟังสักกี่ครั้ง จะแก้อย่างไร และค่าใช้จ่ายในการทำประชามติ เชิญกกต.มาว่าจะใช้เวลาเท่าใด ใช้งบประมาณเท่าไหร่ ซึ่งก็พยายามให้ประหยัดที่สุด ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปก็รอความคิดเห็นที่ไปรับฟังมาจากส่วนต่าง ๆ มาสรุปตั้งคำถามแล้วส่งมอบให้กับคณะรัฐมนตรีในช่วงต้นปี เพื่อให้ครม.สามารถออกเป็นคำถามในการทำประชามติต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้นประเด็นที่จะหารือกับทางคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะมีเรื่องใดบ้าง นายนิกร กล่าวว่า เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ แต่จะไม่ลงในรายละเอียดเรื่องว่าจะแก้มาตราใด เพราะเราตั้งใจว่าจะให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ฉะนั้น เราจะรอให้ ส.ส.ร. เป็นคนถามประชาชนทั่วประเทศ ในตอนที่ยกร่างฯ แต่ทีนี้ก็ต้องถามคือเรื่องที่ยังมีความเห็นโต้แย้งกันอยู่ อาทิ การทำประชามติต้องทำกี่ครั้ง ซึ่งจะนำคำถามนี้ไปรับฟังความเห็นในการทำประชามติ

“ตอนไปคุยเป็นความเห็นของคณะกรรมาธิการ แต่เราคิดว่าเรื่องนี้ใช้แต่ความเห็นของกรรมาธิการไม่ได้ ได้ระดับหนึ่ง เราก็เลยไปขอให้ทางกรรมาธิการทั้ง 2 สภา ช่วยเรา ร่วมกับเรา กำหนดเป็นคำถาม เพื่อถามสมาชิกรัฐสภา ทั้งวุฒิสมาชิก ละสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 100% ถามทุกคน ทีนี้ เราไม่ตั้งแบบสอบถามเองเองเราจะขอให้ กมธ.ของ 2 สภา ช่วยตั้งให้ ซึ่งคำถามอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ของ 2 สภา” นายนิกร กล่าว

เมื่อถามว่าจะไปรับฟังความเห็นในของพรรคก้าวไกลที่เห็นต่างในส่วนใด นายนิกร กล่าวว่า ที่เห็นชัดคือเรื่องของหมวด เพราะก้าวไกลต้องการจะแก้ทุกหมวด แต่ของรัฐบาลมีการยกเว้นยกเว้นหมวด 1 และ 2 และเรื่อง ส.ส.ร. ว่า ถ้ามี ส.ส.ร. มาจากการเลือกตั้งโดยตรงแบบไหน อย่างไร พูดถึงที่มาของ ส.ส.ร. ตรงนี้ ทางเรามีความเห็นว่าที่มาของส.ส.ร. ในส่วนของที่มารายละเอียดน่าจะเป็นภารกิจคณะกรรมาธิการของรัฐสภาที่ตั้งขึ้นตอนแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 มากกว่า ไม่ใช่ในชั้นนี้

เมื่อถามว่า เป้าหมายการทำประชามติยังอยู่ในกรอบช่วงไตรมาสแรกปี 67 อยู่หรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ตรงนี้เป็นการสรุปของคณะกรรมการชุดใหญ่ แล้วพอขึ้นปีใหม่มาเราก็ทำเป็นรายงานเสนอต่อครม.เลยว่าควรจะมีคำถามอย่างไร ออกเป็นประชามติเพื่อนำไปสู่การออกประชามติโดยคณะรัฐมนตรีต่อไป คิดว่าเราจะเปิดงานสิ้นปี เราปิดได้ ซึ่งคิดว่าน่าจะตั้งใจกันไว้ว่าประมาณไตรมาสแรก ของปี 67 ก็น่าจะได้เริ่มทำประชามติได้ ซึ่งเวลาการทำประชามติเป็นสภาพบังคับซึ่งจะคุยประมาณว่าไม่น้อยกว่า 90 วันและไม่มากกว่า 120 วัน มันเป็นสภาพบังคับตามกฎหมายการทำประชามติ

“ทุกส่วนที่ไปที่ประสานไปเขายินดีร่วมมือหมด ไม่ว่าจะเป็นเอ็นจีโอ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไอลอว์ หรือพรรคฝ่ายค้าน ก็ร่วมมือ คือร่วมมือกันหมด พร้อมให้ความเห็นด้วยความตั้งใจกันทั้งหมด แต่ว่างานนี้เราถอดความเป็นพรรคการเมืองออก ถอดความเป็นรัฐบาล หรือฝ่ายค้านออกเพราะเป็นงานร่วมกัน ถือว่าเป็นภารกิจสำคัญ” นายนิกร กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ครม.ไฟเขียวทำประชามติแก้รธน. 3 ครั้ง ครั้งแรกใช้งบ 3.2 พันล้าน

นายนิกร จำนง โฆษกคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในรัฐธรรนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้ได้เข้ามารายงานข้อสรุปของคณะกรรมการฯ

'พริษฐ์' ร่ายยาวซัดรัฐบาลเศรษฐาพายเรือในอ่างแก้รัฐธรรมนูญ

'พริษฐ์' ทวงสัญญา 'รัฐบาล' ปมแก้ รธน. หลังพบกกระบวนการเป็นตลกหกฉาก พร้อมทำนายรัฐบาลเตรียมไพ่ ไว้กินรวบอำนาจ ดักทางให้รักษาสัจจะต่อประชาชน

'ทนายบอน' ลากไส้พวกร่างรธน.ใหม่ทั้งฉบับ อาศัย สรร. เป็นช่องทางแสวงหาอำนาจโดยอ้างประชาชน

นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ หรือ ทนายบอน อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่ารัฐธรรมนูญถ้าจะแก้เพื่อประชาชน แก้เป็นรายมาตราครับ

'ธนกร' หนุนส่งศาลรธน.วินิจฉัย อำนาจหน้าที่รัฐสภาแก้ไขรธน.

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวภายหลังรัฐสภาร่วมลงมติเห็นชอบให้รัฐสภา ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา