นายกฯ พบคนไทยในสหรัฐ โวต้องทำให้คุณภาพชีวิตคนไทยดีขึ้น

18 พ.ย.2566 - เมื่อ 17 พ.ย.2566 เวลา 16.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นนครซานฟรานซิสโก ซึ่งช้ากว่าไทย 15 ชั่วโมง) ณ โรงแรม Ritz-Carlton นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พบปะกับชุมชนชาวไทยในสหรัฐอเมริกา

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีที่ได้มาพบกับพี่น้องชาวไทยทุกคน ซึ่งตนเองเคยอยู่สถานะที่ใกล้เคียงกับทุกท่าน เป็นนักเรียนที่ซานฟรานด้วยเหมือนกัน เป็นนักเรียนที่นี่อยู่อเมริกามา 6 ปีเต็ม แต่อาจจะไม่โชคดีเหมือนทุกท่าน เพราะพยายามจะหางานทำ แต่ยังทำไม่ได้และไม่ได้เก่งมากจนบริษัทต้องการให้ทำงานที่นี้ จึงต้องกลับไปทำงานบริษัทฝรั่งที่เมืองไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าลูกทั้งสองของตนเองก็ทำงานต่างประเทศ ซึ่งในฐานะผู้ปกครองอยากให้เขากลับไปใช้ชีวิตในเมืองไทยดีกว่า ยอมรับประเทศไทยไม่มีข้อเสนออะไรที่ดีกว่า ที่สามารถดึงดูดให้กำลังสำคัญของชาติกลับไปทำงานที่ประเทศไทย เราต้องช่วยกันเสริมสร้างความแข็งแกร่ง สร้างขีดความสามารถของประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผล ที่ตนเองได้เดินทางเข้าสู่ชีวิตการเมือง ทั้งนี้ ตั้งแต่รับหน้าที่มาสองเดือนกว่าได้เดินทางไปในหลาย ๆ ประเทศ ถือเป็นภารกิจของรัฐบาลแต่ละรัฐบาล แต่รัฐบาลนี้มีหน้าที่ภารกิจหลักที่ต้องทำคือประกาศให้ทั่วโลกรู้ว่า ประเทศไทยเปิดแล้ว ประเทศไทยพร้อมแล้ว ไม่มีเวลาไหนที่ดีกว่าเวลานี้อีกแล้ว ที่จะมาลงทุนในประเทศ

นายกรัฐมนตรีแสดงความดีที่ได้พบปะกับคนไทยใสหรัฐอเมริกาอยากจะบอกว่าหลาย ๆ ท่านยังมีอายุน้อย และคงวางแผนอนาคตอยู่ว่าจะอยู่ที่นี้นานแค่ไหน แต่ถ้าประเทศไทยสามารถมีสิ่งที่ดีกว่า เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงต้องการกลับประเทศไทย ที่ผ่านมาได้เดินทางไปต่างประเทศ ได้พบปะนักธุรกิจบริษัทใหญ่ๆ มากมาย และเป็นหน้าที่ตนเองที่ต้องชักชวนให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการทำเกษตรกรรมเยอะ การทำเกษตรกรรมไม่ใช่อาชีพที่ไม่มีเกียรติ แต่เป็นอาชีพที่มีรายได้ไม่สามารถดึงดูดแรงงานดึงดูดพี่น้องคนไทยในต่างแดนให้กลับไปทำงาน จึงจำเป็นต้องยกระดับหลายๆ ส่วน

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในช่วงสองเดือนที่ได้เดินทาง ส่วนหนึ่งมาจากรัฐบาลที่ผ่านมาที่ได้ปูทางไว้แล้ว ตนเองและรัฐบาลนี้ได้มาสานต่อ โดยมีทีมงานที่แข็งแกร่งได้ทำงานกับหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นบีโอไอ กระทรวง ทบวงกรมต่างๆ ซึ่งมีข้าราชการที่มีความสามารถ และมีความปรารถนาดีกับประเทศมาช่วยกันทำงาน ทำให้นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น เช่น บริษัทอเมซอน Google และ Facebook รวมถึงบริษัทนักลงทุนจากประเทศจีนก็มีความสนใจมาลงทุนบริษัทรถไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าภายใน 2-3 เดือนจะมีการลงทุนอย่างแน่นอน

นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า การเดินเข้าสู่เวทีการเมือง สิ่งที่ต้องการทำคือ ต้องการยกระดับความเป็นอยู่ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ไม่อยากให้พี่น้องประชาชนคนไทยติดอยู่กับกับดักรายได้ปานกลาง ต้องการยกระดับขีดความสามารถของประเทศให้สูงขึ้น ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพ แต่ไม่ได้ดึงศักยภาพที่มีของทั้งประเทศมาใช้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นระบบการศึกษา การพัฒนาพัฒนาบุคลากร และระบบภูมิศาสตร์ ซึ่งเราตั้งอยู่ในภูมิรัฐศาสตร์ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ โดยในสถานการณ์ความขัดแย้ง รัฐบาลมีนโยบายชัดเจน คือ มีความเป็นกลาง ต้องการยืนอยู่ในความขัดแย้งอย่างมีเกียรติ และมีศักดิ์ศรี ยึดมั่นกับความสงบ ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่บนความขัดแย้ง ย่อมมีโอกาสที่ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เศรษฐา' ระทึก! ลุ้นศาลรธน.สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ หากรับคำร้องคดีตั้ง 'พิชิต' เป็นรมต.

จากกรณี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้ร่วมกันเข้าชื่อตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 เพื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความสิ้นสุดลงในตำแหน่ง

'เศรษฐา' มั่นใจตั้ง 'พิชิต' เป็นรมต. ถูกต้องตามกฎหมาย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ 40 สมาชิกวุฒิสภา(สว.)เข้าชื่อยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยความสิ้น

พท.ดึง “กัญชา” กลับยาเสพติด "กลบเกลื่อน" ผลงานไม่ตรงปก

รัฐบาลเศรษฐา 1/1 ชูธงนโยบายใหม่ปราบยาเสพติด ตั้งเป้าเปลี่ยนยาบ้าจาก 5 เม็ด เป็น 1 เม็ดเป็นผู้ค้า รวมถึงตีปี๊บดึงกัญชากลับเป็นยาเสพติดหวังดึงคะแนนเสียงจากสังคม อย่างเช่น ยุครัฐบาลทักษิณ ที่ได้รับเสียงชื่นชมมาแล้ว

'เศรษฐา' ฉุนใช้ชายแดนเป็นฐานหลอกคนไทย สั่งตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดสัญญาณมือถือ

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ว่า

หวานมดขึ้น! นายกฯ ซาบซึ้งภท. เปิดบ้านเลี้ยงอาหารค่ำอบอุ่น ขอทำงานร่วมรัฐบาลต่อไป

นายกฯ ขอบคุณ “นภินทร” เปิดบ้านต้อนรับคณะอบอุ่นเป็นกันเอง ขอ ภท. ซัพพอร์ตร่วมกันเป็นรัฐบาลต่อไป สัญญาจะช่วยชาวราชบุรี