'ภูมิธรรม' ร่อนหนังสือถาม กกต.3 ข้อ ปัญหาใหญ่ทำประชามติ

“ภูมิธรรม” เตรียมส่งหนังสือ ถาม กกต. 3 ข้อ สัปดาห์หน้า ทำประชามติ แก้ รธน. พ่วงเลือกตั้ง นายก อบจ.ได้หรือไม่   หากมีข้อโต้แย้ง ให้สภาฯส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ

26 พ.ย.2566 – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำรัฐธรรมนูญ ว่า ขณะนี้เหลือเพียงการรับฟังความเห็นจาก สส.และ สว. ซึ่งได้ทำแบบสอบถามไปแล้ว เพื่อรอนำไปหารือร่วมกันเมื่อเปิดประชุมสภาฯ และคิดว่าไม่เกินกลางเดือนธันวาคม น่าจะรับฟังมาได้หมด หลังจากนั้นจะนำไปสรุปร่วมกันว่าส่วนใหญ่ประชาชนคิดอย่างไร เห็นต่างอย่างไร โดยให้บันทึกไว้ทั้งหมดว่ามีมุมใดบ้าง จากนั้นส่ง ครม.พิจารณา

เมื่อถามถึงกรณีการศึกษาทำประชามติ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังมีความเห็นที่แตกต่างในเรื่องของการทำประชามติว่าจะทำ 2 ครั้ง หรือ 3 ครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาที่สำคัญที่จะต้องทำให้เกิดความชัดเจน เพราะหากส่งศาลรัฐธรรมนูญแล้วตีความว่าเราไม่สามารถทำได้ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายจะตกไป ความคิดเห็นที่ทำมาก็จะตกไป

“ดังนั้นในสัปดาห์หน้า จะลงนามหนังสือ เพื่อสอบถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหญ่ 3 ข้อ ว่า 1.การตีความของ กกต. จะมีการทำประชามติกี่ครั้ง 2.เพื่อประหยัดงบประมาณ จะสามารถจัดทำประชามติ ไปพร้อมกับการเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น เช่น นายก อบจ.ทั่วประเทศ ที่จะมีขึ้นในปีหน้าได้หรือไม่ และ 3.โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไป มีการใช้ระบบดิจิทัลมากขึ้น หากจะใช้โซเชียลมีเดียมาร่วมลงทะเบียนได้หรือไม่ หากทำได้จะสะดวกมากขึ้น อาจทำให้การใช้จ่ายในการเลือกตั้งลดน้อยลงไปมาก” นายภูมิธรรม ระบุ

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้มีปัญหาเรื่องการตีความว่าใครมีอำนาจส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ จึงมีการเสนอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยื่นศาลรัฐธรรมนูญในการตีความเรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องที่นอกเหนืออำนาจของคณะกรรมการฯ จึงเสนอให้พรรคการเมืองที่อยู่ในที่ประชุมไปปรึกษาหารือ เพื่อให้มีการเสนอผ่านสภาฯ และ ให้สภาฯ ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยให้ไปหาข้อสรุปกันในสภาฯ หากมีข้อขัดแย้งสภาก็จะเป็นผู้เสนอส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตีความ

นายภูมิธรรม กล้าวด้วยว่า ได้กำชับให้อนุกรรมการการศึกษาฯ ได้ศึกษาควบคู่ขนานกันไปเลยว่าหากจำเป็นต้องมาแก้ มาตรา 256 เพื่อเปิดช่องให้มี สสร.ยกร่างใหม่ทั้งฉบับ เพราะจากการรับฟังความเห็นถ้าเอา สสร. เลือกตั้งบางกลุ่มวิชาชีพไม่มีโอกาส จึงน่าจะมี สสร. ที่มาจากการสุ่มหาจากวิชาชีพต่างๆ ที่ไม่ใช่การเลือกตั้งทั่วไป จึงมอบให้อนุกรรมการศึกษาฯ ไปดูว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คณะก้าวหน้า เชื่อสัญญาณจากผู้มีบารมี  กกต.ประกาศเตือนรณรงค์สมัคร สว.   

กรณี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ออกประกาศเตือน กรณีมีกลุ่มบุคคลและตัวแทนองค์กรจัดแคมเปญ ให้มีการจูงใจ

'ธนกร' แนะ 'ธนาธร-ช่อ' ระวังข้อกฎหมายให้ดีผลักดันแคมเปญชวนคนสมัครสว.

“ธนกร” แนะ “ธนาธร-ช่อ” ระวังข้อกฎหมายให้ดี หลังเปิดแคมเปญชวนคนสมัครสว.กรอกประวัติผ่านเว็ป ส่อชัดจัดตั้ง ชี้ กกต.ออกโรงเตือนแล้ว อาจขัดระเบียบ หวั่นที่มาไม่สุจริต ร้องเรียนกันวุ่น คลอดสว.67ล่าช้า จี้ หยุดเคลื่อนไหวถ้าอยากได้สว.อิสระเป็นประชาธิปไตยลั่น หากพบนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง เจอคุก-ปรับ อ่วมแน่

กกต.เริ่มขยับ พร้อมงัด 'กฎเหล็ก' คุมเข้มเลือก สว. 2567

ความเคลื่อนไหวการได้มาซึ่ง "สมาชิกวุฒิสภา" (สว.) ชุดใหม่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ล่าสุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา

พนัส อดีตสว.-อดีตสสร. คัดเลือกสภาสูง 2567 ฝ่ายประชาธิปไตยมีสิทธิลุ้น

ความเคลื่อนไหวการได้มาซึ่ง"สมาชิกวุฒิสภา"(สว.) ชุดใหม่ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ....