ฟุ้งผลงานรัฐบาล 90 วัน ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ เห็นผลกลางปี67แน่

ชัย

18 ธ.ค.2566- นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่กรมประชาสัมพันธ์ โดยส่วนปฏิบัติการและบริหารข้อมูลข่าวสาร สำนักข่าว ได้รายงานการสรุปผลงานรัฐบาลในรอบ 90 วัน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส เร่งแก้ไขปัญหาให้ประชาชน นั้น ในนามของรัฐบาลขอชื่นชมการจัดทำรายงานฯดังกล่าวที่เป็นการสรุปผลงานของรัฐบาลได้อย่างดี มีความครบถ้วน ทำให้ประชาชนสามารถมองเห็นภาพรวมได้ทั้งหมด ทั้งในส่วนของนโยบาย “ลดรายจ่าย” และนโยบาย “เพิ่มรายได้” ซึ่งในรายงานสรุปผลงานรัฐบาลในรอบ 90 วัน มีหัวข้อสำคัญดังนี้

“ลดรายจ่าย” 1. การลดรายจ่ายด้านพลังงาน และการคมนาคม  ปรับลดราคาค่าไฟฟ้าเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย 3 เดือน ปรับลดราคาน้ำมันดีเซลลง 2.50 บาท/ลิตร ลดราคาน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซินลง 1 บาทต่อลิตร ตรึงราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม LPG ขนาด 15 กิโลกรัม ไว้ที่ 423 บาทต่อถัง ลดราคารถไฟฟ้าสีม่วงและสีแดง 20 บาท ตลอดสาย 2. ครม. เห็นชอบจ่ายเงินช่วยค่าเก็บเกี่ยว ไร่ละ 1,000 บาท 4.68 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ 3. ช่วยชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสด ลด PM 2.5 120 บาท/ตัน 4. รัฐบาลประกาศเดินหน้า “การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ” เป็นวาระแห่งชาติ 5. พักหนี้เกษตรกรที่มีหนี้ไม่เกิน 3 แสนบาท 6. บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ นำร่อง 4 จังหวัด (แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส)

“เพิ่มรายได้” 1. กระตุ้นการท่องเที่ยว วีซ่าฟรีนักท่องเที่ยวจีน/คาซัคสถาน/อินเดีย/ไต้หวัน (ไม่เกิน 30 วัน) รัสเซีย (ไม่เกิน 90 วัน) 2. ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ป.ตรี 18,150 บาท โดยจะปรับขึ้นในอัตรา 10% เป็นระยะเวลา 2 ปี ในปีงบประมาณ 2567 – 2568 การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ ทยอยปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุตามคุณวุฒิเพิ่มขึ้น (ทุกคุณวุฒิ) ในอัตราร้อยละ 10 ภายใน 2 ปี 3. ผลักดันกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท โครงการดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) โดยรัฐบาลจะมอบสิทธิการใช้จ่ายเงินจำนวน 10,000 บาท ให้กับประชาชนที่เข้าเงื่อนไข ซึ่งนโยบายดังกล่าวจะส่งผลดีต่อประเทศใน 2 ด้าน คือช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศในระยะสั้นผ่านการบริโภคและการลงทุน และการวางโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อนำไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และ E-Government ซึ่งเป็นการวางและแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ ในระยะยาว

4. ขยาย OTOP สู่แพลตฟอร์มออนไลน์ สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้สินค้า OTOP 5. One Belt One Road เส้นทางสายไหม 6. ขยายเวลาปิดสถานบริการ นำร่อง 4 จังหวัด กรุงเทพ ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว 7. ขยายเวลาการเปิดให้บริการท่าอากาศยานเชียงใหม่ 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และเที่ยวบินที่จะเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ จากเดิมเปิดดำเนินการทำการบิน 18 ชม. หรือตั้งแต่เวลา 06.00 – 24.00 น. และ 8. ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง

“สิ่งที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้ทุ่มเททำลงไป จะเริ่มผลิดอกออกผลให้เห็นตั้งแต่กลางปี 2567 เป็นต้นไป โดยภาพเศรษฐกิจที่เห็นอยู่ในขณะนี้ เป็นผลพวงของสิ่งที่ได้ถูกกระทำไปเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พท. จัดใหญ่! '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' ตีปี๊บผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา'

'เพื่อไทย' เตรียมจัดงาน '10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10' สรุปผลงาน 'รัฐบาลเศรษฐา' 3 พ.ค.นี้ เดินหน้าเติมนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน พร้อมเปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.

สมชัย ชี้ปรับ ครม. ‘รัฐบาล’ ขาดทุนมากขึ้น  หน้าตาคนมาใหม่หลายคน ปชช.ส่ายหน้า

ปรับ ครม.ครั้งนี้ จึงดูเหมือนรัฐบาลจะขาดทุนมากขึ้น  เพราะหน้าตาคนมาใหม่หลายคนประชาชนก็ส่ายหน้า  ยิ่งปานปรีย์ลาออกอีก ยิ่งเสียโอกาสได้คนเก่งและทุ่มเทมาอยู่ใน ครม.

ดร.รัชดา เชื่อถ้าใช้หลักตอบแทนนายใหญ่ ’นพดล’ เสียบเก้าอี้ ‘ปานปรีย์’ แน่

ดร.รัชดา อยากรู้รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ของรัฐบาลนี้จะเป็นใคร คนที่จะต้องเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ สถานการณ์การเมืองในประเทศเพื่อนบ้านและการเมืองโลกตอนนี้

ก้าวไกล เดือดแทน ‘หมอชลน่าน’ ทุ่มเทเหนื่อยสุด โดนคนทิ้งพรรคเสียบเก้าอี้

‘ณัฐชา’ มอง ปรับ ครม.เศรษฐา 1/1 ‘เพื่อไทย’ ยังรักษาคาแรคเตอร์ ‘สมบัติผลัดกันชม’ เก้าอี้ รมต. เหมือนเดิม สงสัย ทำไมเอาคนทิ้งพรรคอย่าง ’สมศักดิ์‘ แทน ’หมอชลน่าน‘ เหตุเหนื่อยสุดแบกรับสถานการณ์ช่วงเลือกตั้ง-จัดตั้งรัฐบาล