'ภูมิธรรม' ตอก 'สมชัย' คำถามประชามติรธน. มัดมือชกตรงไหน เสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยแก้ม.112

26 ธ.ค.2566- ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร โพสต์เฟสบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์การออกคำถามประชามติของคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ว่าเป็นคำถามที่มัดมือชก ว่า มัดมือชกตรงไหน ถ้าพูดแบบนี้ ไม่ว่าคำถามเป็นแบบไหนก็จะบอกว่ามัดมือชก โดยที่ประชุมคณะกรรมการฯ รับฟังความเห็นทั้งส่วนที่สนับสนุน และไม่สนับสนุน อย่างทั่วถึงมากที่สุด

เราพยายามกระจายภาค กลุ่มชาติพันธุ์ มุสลิม ชาวนา แรงงาน และมีการเชิญมาทำเนียบฯ โดยมีตัวแทนกลุ่มนักศึกษา และคนพิการ ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าเรารับฟังทุกส่วน แต่ถามว่าเป็นเอกฉันท์หรือไม่มันไม่เป็นอยู่แล้ว แต่ก็เป็นเสียงส่วนใหญ่ และเป็นไปตามที่เคยแถลงนโยบายรัฐบาล แต่สิ่งที่สำคัญกว่านี้ คือการที่เราจัดให้มีประชามติข้อเดียว และให้ความสำคัญเป็นเรื่องแรก เพราะเราทำตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่หากจะแก้ทั้งฉบับก็ให้ไปถามผู้มีอำนาจในการสถาปนารัฐธรรมนูญจึงเป็นออกมาเป็นคำถามเดียว

“สส. สว. ประชาชน และกลุ่มทางสังคมต่างๆ เสียงส่วนใหญ่คือไม่เห็นด้วยกับการแก้ 112 แต่ก็มีบ้างที่เห็นด้วย แต่เราเอาเสียงส่วนใหญ่ โดยที่เอาข้อความเห็นต่างนำเสนอสู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วย จึงไม่เห็นว่ามัดมือชกตรงไหน แม้แต่พรรคก้าวไกลที่ไม่ร่วมในคณะกรรมการฯ เราก็รับฟังความเห็น โดยนิกร จำนง ได้ไปคุย และทำแบบสอบถามร่วมกัน ดังนั้น เมื่อผลออกมาแบบนี้เราเอาเสียงส่วนใหญ่ และไม่ทอดทิ้งเสียงที่เห็นต่าง เราต้องการทำให้เป็นประชาธิปไตย ทำให้ผ่าน และทำให้เสร็จ ขณะนี้เสียงที่ดังในโซเชียลคือนักเคลื่อนไหว แต่เสียงส่วนใหญ่ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น ต้องถามนายสมชัยว่ามัดมือชก หรือขัดหลักการประชาธิปไตยตรงไหน ซึ่งเราทำตามกระบวนการประชาธิปไตยทั้งหมด” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้เราไม่อยากเห็นความขัดแย้งใหม่อีกแล้ว ถ้าอยากเห็นความขัดแย้งใหม่ต้องการอะไร ตนคิดว่าทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด รอให้สุกงอม ดำเนินการให้ชัดเจนดีกว่าถ้าล้มไปแล้วต้องใช้แบบเดิม ถามว่านายสมชัยจะเอาแบบนั้นหรือ ค่อยๆแก้ให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นตามลำดับดีกว่า ตนคิดว่าอย่าใช้อารมณ์ อย่าเอาความถือข้าง เอาความต้องการตัวเองเป็นหลัก เพราะประชาธิปไตยตนจะเกิดขึ้นยาก และอาจนำไปสู้ความขัดแย้ง ความรุนแรงได้

“เราอยากเห็นอะไรที่ตอบสนองทุกฝ่าย มันจะไปไม่ได้ถ้าเกิดความขัดแย้ง และเป็นไปตามที่เราพูดตลอดเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น คงไม่ถึงขั้นยูโธเปียที่ต้องสมบูรณ์ แต่เรารับผิดชอบตัดสินใจบนฐานที่ได้ศึกษามา เวลานี้อยู่ในขั้นตอนสรุปให้ชัดเจน เพื่อนำเสนอนายกฯ ผมคิดว่าอำนาจอยู่ที่ครม. เพราะต้องรับผิดชอบในฐานะที่ให้คณะกรรมการชุดนี้ไปศึกษา ซึ่งเราคิดว่าเรามีความรับผิดชอบ กรรมการทุกท่านทำงานครบถ้วนและเห็นว่าเป็นทางออกดีที่สุด”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สมชัย ชี้ปรับ ครม. ‘รัฐบาล’ ขาดทุนมากขึ้น  หน้าตาคนมาใหม่หลายคน ปชช.ส่ายหน้า

ปรับ ครม.ครั้งนี้ จึงดูเหมือนรัฐบาลจะขาดทุนมากขึ้น  เพราะหน้าตาคนมาใหม่หลายคนประชาชนก็ส่ายหน้า  ยิ่งปานปรีย์ลาออกอีก ยิ่งเสียโอกาสได้คนเก่งและทุ่มเทมาอยู่ใน ครม.

'ภูมิธรรม' ยกทีมจีนถกผู้ว่าฯ สิบสองปันนา เพิ่มตู้ส่งผลไม้ หนุนส่งออกโค

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เดินทางมาปฎิบัติราชการที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 27-29 เมษายน 2567 โดยได้เข้าหารือกับนายตาว เหวิน

แฉเล่ห์ 'พท.' วางยาแก้ รธน. ล็อกคำถามประชามติครั้งแรก

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า พรรคเพื่อไทยจริงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่

ศชอ. คัมแบ็ค! ประกาศกลับมาแล้ว พร้อมลุยใช้กฎหมาย ม.112 ปกป้องสถาบัน

เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ ศชอ.โพสต์ข้อความว่า "กลับมาแล้ว" หลังจากเมื่อเดือนกันยายน 2566 ได้ประกาศยุติบทบาทการเคลื่อนไหวใช้กฎหมายในการปกป้อง ช