’ชัยธวัช’ แจง ‘นโยบายแก้ม.112’ ปลิวเว็บ ก้าวไกล ดื้อ!สส.ยังอ้าปากกระดกลิ้นได้

1 ก.พ. 2567 ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมร่วม สส.พรรคก้าวไกล ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้การใช้นโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หาเสียงของพรรคก้าวไกล เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง และถูกสั่งให้ยุติการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่อมา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้พิจารณายุบพรรค และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล

โดยนายชัยธวัช กล่าวว่า วันนี้เป็นการพูดคุยกับ สส.เพื่อทำความเข้าใจกับสถานการณ์ให้ตรงกัน และหารือการทำงานของพรรคหลังจากนี้ สส.จะยังทำงานตามปกติ

เมื่อถามถึงกรณีที่เว็บไซต์พรรค ลบนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ออกนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เนื่องจากฝ่ายกฎหมายเห็น ว่าเป็นประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญหยิบขึ้นมาอยู่ในคำวินิจฉัยด้วย ว่าการที่ ยังมีนโยบายเรื่องนี้อยู่ในเว็บไซต์ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่นำไปสู่บทสรุป ว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ซึ่งความจริงเราไม่คิด ว่าจะเป็นประเด็นสาระสำคัญ

ส่วนที่ สส. หรือสมาชิกพรรคยังมีความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมาย ม.112 ในสื่อโซเชียลมีเดียนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า คำวินิจฉัยไม่ได้บอก ว่า สส.จะเสนอแก้ไขปรับปรุง ม.112 ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น สส.พรรคไหน ซึ่งตนได้ย้ำในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ไปแล้ว ว่าม.112 ยังเป็นปัญหาอยู่ เพราะฉะนั้น การที่สมาชิกพรรคบางส่วนยังมีความเห็น ว่าควรแก้ไขมาตรานี้ ก็ยังสามารถทำได้ เพียงแต่ต้องดูว่าอะไรคือการเสนอกฎหมายโดยชอบตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่า การประชุมในวันนี้เป็นการระดมความเห็นของ สส. หรือทีมกฎหมายของพรรคมีแนวทางปฏิบัติมาก่อนแล้ว นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังหรอก เพราะเมื่อวานเราฟังคำวินิจฉัยกัน แล้วยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันจริงๆ เพราะต้องรีบเตรียมการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ในวันนี้ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันในช่วงสุดสัปดาห์ จึงถือโอกาสพูดคุยกันในวันนี้ เชื่อว่า สส.คงมีความเห็น และข้อเสนอให้ได้แลกเปลี่ยนกัน

ส่วนที่มีอดีต สส.พรรคก้าวไกล อาทิ น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา นายกัญจน์พงศ์ สุทธนามณี เข้าร่วมประชุมด้วย เพราะเป็นหนึ่งใน 44 รายชื่อ ที่ยื่นแก้ไขกฎหมายเมื่อ ปี 64 หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ แต่คิดว่าน่าจะมาประชุมคณะกรรมาธิการ ไม่ใช่วาระที่จะคุยกับกลุ่ม สส. 44 คนตนยังไม่แน่ใจ

สำหรับข้อกังวลหากถูกร้องจริยธรรม ซึ่งอาจมีโทษถึงการตัดสิทธิ์ทางการเมือง นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องจริยธรรมเป็นคนละเรื่องกับเรื่องถูกร้องยุบพรรค เป็นคนละกระบวนการ และน่าจะใช้เวลามากกว่า ไม่ได้บอกว่าหากเป็นคดีจริยธรรม แล้วถูกตัดสินว่าผิด จะต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต ขึ้นอยู่กับศาล ซึ่งส่วนนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคก็ได้เตรียมต่อสู้ไว้อยู่แล้ว เรายังคงต้องรอดูคำวินิจฉัยตัวเต็ม เพราะยังมีรายละเอียดทางกฎหมายอยู่

“ไม่ว่าจะโดนร้องเรื่องอะไร ตอนนี้สิ่งที่เรารอ คือ รอดูคำวินิจฉัยตัวเต็ม เพราะจะมีความสำคัญในทางข้อกฎหมาย” นายชัยธวัช กล่าว

ส่วนที่มีนักวิชาการให้ความเห็นว่าพรรคก้าวไกลควรยื่นให้องค์กรระหว่างประเทศตรวจสอบคำวินิจฉัยที่ละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนสากลนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน เพราะกลไกที่จะสามารถตรวจสอบการใช้อำนาจของตุลาการในประเทศไทยมีข้อจำกัดอยู่ พร้อมยกตัวอย่าง ว่าถ้าเราอยู่ในสหภาพยุโรปแล้วมีคำวินิจฉัยเช่นนี้จะไม่สามารถบังคับใช้ได้แน่นอน เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพลเมือง ไม่สามารถห้ามเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นได้อย่างแน่นอน แต่ว่านี่เป็นประเทศไทย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อรรถกร' รับกรอกประวัติแล้ว แต่ไม่รู้นั่ง รมช.เกษตรฯ มั่นใจ 'ธรรมนัส' ให้คำปรึกษาได้

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวถูกส่งชื่อเสนอเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งนี้ ว่า ตนไม่ทราบ แต่ว่าได้มีการกรอกประวัติไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมทำหน้าที่

'จุรินทร์' ชี้ดิจิทัลวอลเล็ตยังคลุมเครือ เหมือนเดินบนเส้นด้าย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะทันไตรมาส 4 ตามที่รัฐบาลประกาศหรือไม่ว่า สถานการณ์วันนี้เหมือนย้อนกลับไปในจุดที่เหมือนประกาศว่าจะ

'จุรินทร์' แขวะเห็นใจนายกฯปรับครม. ต้องให้คนนอกรัฐบาลดูก่อน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับครม.เศรษฐา 1/1ว่า เรื่องนี้ตนยังตอบไม่ได้ เพราะ