
นายกฯ ลงพื้นที่สกลนคร ฉุดคิดอดีตยุคคอมมิวนิสต์ ไม่อยากให้กลับไปสู่ความขัดแย้ง ชี้ใช้เวทีปลอดภัยคุย ไม่อยากให้ย้อนกลับไปวังวนเดิม
18 ก.พ.2567-นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.การคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่จังหวัดนครพนมจังหวัดสกลนครที่ผ่านมาว่า 2 วันที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวก็เห็นว่าตารางเต็มเหยียดเลย มาจังหวัดนครพนมและจังหวัดสกลนครวันนี้มี 7 งาน ตนคิดว่าโดยรวมเราดูเรื่องของโอกาสมากกว่า คงไม่ปฏิเสธว่าจังหวัดสกลนครเป็นอันดับที่ติดท็อป 20 ของประเทศที่มีจีดีพีต่ำที่สุด ในประเทศไทย ซึ่งตนมาที่จังหวัดสกลนครแล้วก็เห็นโอกาส ที่เราจะสามารถทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ซึ่งถ้าเรามองย้อนไปวันนี้มีจุดหนึ่ง ที่ถ้าเราไปยืนดูที่ภูพาน ย้อนไป 40-50 ปีที่ผ่านมา หลายท่านเองคงทราบมีปัญหาเรื่องคอมมิวนิสต์ และความไม่สงบเกิดขึ้น ซึ่งฝ่ายความมั่นคง มีการบริหารจัดการเรื่องนี้ได้ดีมาก รวมถึงปัญหาเรื่องความไม่มั่นคงและปัญหาเรื่องความแตกแยก และการเสียเลือดเนื้อได้จบลงไปแล้ว
นายเศรษฐากล่าวว่า วันนี้เรามาสู้กับปัญหาความยากจน ตนเชื่อว่าเรื่องของสันติสุข เป็นเรื่องที่นำรอยยิ้ม มาให้กับพี่น้องคนไทยประชาชนทุกคน ถึงแม้ว่าเงินในกระเป๋าจะมีมีน้อย แต่เรามีรัฐบาลที่ใส่ใจ ที่มีความมุ่งมั่นในการที่จะแก้ไขปัญหาความยากจน
“ผมเชื่อว่าเหนือสิ่งอื่นใด เราไม่อยากจะเห็นและกลับไปสู่ความขัดแย้งเมื่อ 40-50 ปีที่ผ่านมา ที่มีคอมมิวนิสต์ พระองค์ท่านอยากเห็นคนไทย มีความรัก มีความสมัครสมานสามัคคี ถ้าความเห็นต่างก็อยู่ด้วยกันได้ ใช้เวที ที่ปลอดภัยเป็นที่ถกเถียงและพูดคุยกัน เพื่อแก้ไขปัญหาใช้นักวิชาการ ในการพูดคุยสื่อสารกันอย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมา อันนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี ถ้าหากย้อนไปอีกเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา พอเรื่องของคอมมิวนิสต์จบไปที่ภูพาน ก็มีโครงการพระราชดำริภูพาน ซึ่งเราทุกคนก็ได้ไปดูมา ก็เห็นว่ามีศักยภาพสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแปรรูปสินค้าเกษตร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัตว์เลี้ยงที่มีมูลค่าสูง เรื่องไก่ดำ เรื่องกระต่ายและเรื่องเนื้อโคขุน 1 ชิ้น 5,000-6,000 บาท สู้กับเนื้อแพงๆของญี่ปุ่นได้ เรื่องนี้ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่รัฐบาลต้องช่วยสนับสนุน และเชื่อมโยงภาคเอกชน ให้นำสินค้าเหล่านี้ไปขายในห้างสรรพสินค้า ในประเทศไทย หรือบริษัทเอกชนที่มีเครือข่ายอยู่ต่างประเทศ นำเอาไปขายยังต่างประเทศ เพื่อเป็นความหวังและแรงบันดาลใจให้กับประชาชน คนไทยทุกคน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญใน 2 วันที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าสื่อมวลชนก็เห็นเรื่องของโอกาส แต่ว่าถ้าเกิดไม่เอาประวัติศาสตร์มาพูด ว่าเรามีโอกาสวันนี้ได้เพราะอะไร เราจะได้ไม่ย้อนกลับไปสู่วังวนเดิมๆที่มัน ไม่มีสันติสุข วันนี้เราอยากเห็นรอยยิ้มเรื่องของความยากจน เราแก้ไขได้รัฐบาลนี้มีความตั้งใจ แก้ไขปัญหานี้ต่อไป“
เมื่อถามว่าที่โครงการพระราชดำริเห็นภาคเอกชนร่วมลงพื้นที่ไปด้วย ภาคเอกชนสนใจสินค้าอะไรเป็นพิเศษ โดนเฉพาะของภาคเกษตรกร ไปต่อยอดอย่างไร นายกฯกล่าวว่า ตนว่าหลายเรื่อง มีความตื่นตัวมาก ไม่ใช่แค่ทริปนี้ทริปเดียว ซึ่งหลังจากที่ตสลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ก็มีนักธุรกิจรายใหญ่สนใจนำสินค้า ไปขายในที่ต่างๆไม่ใช่แค่อยู่ดีๆก็แค่เขียนเช็คให้แล้วสั่งซื้ออย่างเดียว ปัญหาของเกษตรกร คือการเปิดตลาด ถ้าหากเจ้าสัว นักธุรกิจหรือภาคเอกชนหลายราย สามารถช่วย ตลาดได้ก็จะดีมาก ซึ่งวันนี้จุดสุดท้ายที่จังหวัดสกลนครท่านก็เห็นว่ามีเรื่องของสมุนไพร จะเห็นว่าสมุนไพรเรามีหลายอย่างถ้าจะขายแล้วมาใส่ในส่วนผสมของอาหารรายได้ก็จะต่ำ เพราะกิโลกรัมละไม่กี่ 10 บาท ถ้าหากแปรรูปเป็นยา และได้รับการรองรับที่ดี แล้วภาคเอกชนนำไปขายก็จะเพิ่มมูลค่าสูงขึ้น ก็จะแก้ปัญหาความยากจนได้ นี่เป็นจุดเริ่มต้น ทั้งนี้ เรามาที่นี่วันนี้ไม่ได้แค่มาเชื่อมต่อภาคเอกชน กับภาคเกษตรกรอย่างเดียว เรื่องของปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งก็ต้องมีการบริหารจัดการกัน เรื่องโลจิสติกส์ และการเชื่อมโยงคมนาคมระหว่างจังหวัด ก็ต้องมีการทำไปด้วย ตนขอแค่เวลา ระหว่างนี้ถ้าเกิดมีความเห็นต่างกัน ไม่เห็นด้วยก็ขอให้ใช้เวที พูดคุยกันดีกว่าอย่าลืมว่าสันติสุขเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
เมื่อถามว่า ดูเหมือนนายกฯพูดเน้นในเรื่องของความเห็นต่าง และความปรองดอง เวลานี้มีสัญญาณอะไร หรือเปล่า นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มี แต่วันนี้ที่มาได้พูดคุยกับรัฐมนตรีอาวุโส นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม เป็นนายอำเภอ ในหลายๆพื้นที่เมื่อประมาณ 40 กว่าปีที่แล้ว ได้วาดภาพให้ตนเห็นว่าสมัยก่อน เรื่องความไม่ความปรองดอง เรื่องของคอมมิวนิสต์ที่มันเกิดขึ้น มันโหดร้าย วันนี้เราก้าวข้ามตรงนั้นมาแล้วพี่น้องประชาชน เราเองก็มีความปรองดองมาถึงจุดๆหนึ่งแล้ว และวันนี้ได้มาลงพื้นที่ภูพานด้วย ก็เป็นการเตือนความทรงจำว่าเคยมีปัญหาตรงนี้ ฉะนั้นไม่อยากให้เรากลับไปถึงจุดที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น พวกท่านก็ทราบดีอยู่ว่ามีความขัดแย้งเกิดขึ้น ซึ่งมันเป็นธรรมดาของสังคมที่มีคนหลากหลายเจนเนอเรชั่น หลากหลายความคิด เข้ามาแต่เชื่อว่าระบบการปกครองของเรามีพื้นที่ที่ปลอดภัยให้กับทุกๆคน สามารถมาพูดคุยกันได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'คนกรุง' ยังไม่เทใจเลือกนายกฯ กระแส 'เท้ง' นำ 'หนู' มาร์คยังกู่ไม่กลับ
โพลสะท้อน “กระแสการเมือง กรุงเทพมหานคร” ยังไม่มีนายกฯ – พรรคการเมืองที่เหมาะสมเทใจเลือกตั้งให้ ขณะที่พรรคประชาชนกระแสคนกรุงหนุน ตามมาด้วยภูมิใจไทย –ประชาธิปัตย์
สนามเลือกตั้งเมืองหลวง-กทม. ศึกชิง33เก้าอี้-แย่งเสียงปาร์ตี้ลิสต์ พรรคส้มเหงื่อตก หลายพรรครอเจาะยาง
หนึ่งในสาเหตุทางการเมืองที่คนยังเชื่อว่า พรรคส้ม-พรรคประชาชน จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ก็เพราะมองว่า สนามเลือกตั้งเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่มี
นายกฯ ถก สมช. รถขนน้ำมันช่องเม็กไปลาว ไม่เลี้ยวขวาเข้าเขมร โต้ใช้อาวุธหนักไล่ไปดูคลิปใครรุนแรงกว่า
ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมสภ
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
รู้แล้วฝีมือใคร! จุดเริ่มต้นดรามา 'ซีเกมส์ 2025'
รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า วิพากษ์วิจารณ์กันจนเป็นดรามา คือเรื่องพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ
เร่งเกม'เลือกตั้ง-จบศึกชายแดน' เมื่อทุกแนวรบกำลังได้เปรียบ
เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นฉันทามติของสังคมที่ต้องการให้กองทัพดำเนินกลยุทธ์ในการนำพื้นที่ตามเส้นปฏิบัติการของไทยคืนจากกัมพูชาให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการสู้รบระลอกที่ 2

