23 ก.พ.2567 - ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรากฎหมายนิรโทษกรรม กล่าวภายหลังการประชุม ว่า วาระหลักในวันนี้ เป็นการขอฟังความเห็นกรรมาธิการทุกฝ่าย เพื่อแสดงเป้าหมายในการขอนิรโทษกรรม และเพื่อให้แสดงวัตถุประสงค์สำคัญว่า การนิรโทษกรรมในครั้งนี้คืออะไร ซึ่งได้รับฟังเกือบครบทุกคน ยกเว้นกรรมาธิการบางคนที่ไม่ได้มาวันนี้
โดยความเห็นส่วนใหญ่ในที่ประชุม มีเป้าหมายส่วนใหญ่ในการทำนิรโทษกรรมครั้งนี้ คือยุติความขัดแย้งและความคิดเห็นทางการเมือง เพื่อทำให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ด้วยความปรองดอง และอยู่ด้วยกันได้ หากมีความเห็นต่างก็ขอให้ความเห็นนั้นเป็นความขัดแย้งทางความคิด ไม่ใช่ความขัดแย้งที่นำไปสู่ความรุนแรงเหมือนในอดีต
ส่วนเหตุผลรองๆ เช่น เพื่อทำให้สังคมไทยกลับคืนสู่ความปกติสุข เนื่องจากทุกคนเห็นว่า ผลการขัดแย้งทางการเมืองเมื่อปี 2549 เป็นต้นเหตุสำคัญ ทำให้ประเทศไทยมีปัญหา ไม่สามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าได้ เศรษฐกิจที่ตกต่ำก็มีผลมาจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั้งนั้น
เมื่อถามถึงการขอนิรโทษกรรมความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มีคนเสนอเรื่องนี้หรือไม่นั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า มีความเห็นทั้งสองส่วน บางส่วนบอกว่ายังไม่ควรจะมี มีบางส่วนเห็นด้วย บางส่วนก็เห็นด้วยแบบมีเงื่อนไขที่แสดงถึงความรับผิดชอบต่างๆ เนื่องจากเห็นว่าการนิรโทษกรรมควรต้องมีลักษณะทำให้สิ่งที่เป็นความขัดแย้งนั้นยุติลง และไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก จึงมีเงื่อนไขบ้าง ขณะนี้ก็รับฟัง แต่ยังไม่ได้ตัดสินลงไปว่าจะเป็นอย่างไร
นายชูศักดิ์ กล่าวถึงการประชุมนัดต่อไปว่า คณะกรรมาธิการฯ จะขอเปิดรับฟังกรรมาธิการที่เหลืออีก 4-5 ท่าน ที่ไม่ได้มาในวันนี้ และจะจัดทำเป็นข้อสรุปว่า ท้ายที่สุดจะมีความเห็นออกมาอย่างไร และจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ในหลักว่า การนิรโทษกรรมจะรวมการกระทำอะไรบ้าง
ขณะที่แนวโน้มความเห็นจากกรรมาธิการมีความเห็นในมาตรา 112 อย่างไรนั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะความเห็นยังไม่สามารถจำแนกได้ เป็นเพียงการแสดงความเห็นในเชิงเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย หรือเห็นด้วยแบบมีเงื่อนไข หรือออกมาในรูปแบบมาตรการที่อาจไม่ใช่การนิรโทษกรรมก็ได้ ส่วนจะรวมคดีทุจริตหรือไม่นั้น ในที่ประชุมยังไม่ถึงขั้นได้ข้อสรุปในเรื่องนั้น วันนี้พิจารณาในส่วนของวัตถุประสงค์และเป้าหมายเพื่อนำไปสู่อะไรเท่านั้น
เมื่อถามว่า จากการเปิดรับฟังความเห็นแล้ว คณะกรรมาธิการฯ จะมีการขยายระยะเวลาพิจารณาให้เกินกรอบเวลา 60 วัน หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า กำลังหารืออยู่เหมือนกัน แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะทำในระดับไหน ขณะนี้ก็มีความเห็นที่เป็นข้อยุติแบบพอสมควรแล้วเช่นกัน เช่น หน้าที่ของคณะกรรมาธิการฯ ก็น่าจะเพียงเสนอหลักการเท่านั้น บางท่านก็เสนอว่าให้เป็นทางเลือกหลายๆ แบบด้วยซ้ำ ให้สภาผู้แทนราษฎรตัดสินใจ ตอนนี้กำลังดูกันอยู่ แล้วจะตัดสินใจในครั้งหน้า
นายชูศักดิ์ กล่าวยอมรับว่า การประชุมยังไม่ถึงขั้นให้เสนอเป็นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ฉบับใหม่ ส่วนจะมีโอกาสที่จะทำเป็นร่างกฎหมายควบคู่กันไปหรือไม่นั้น ถ้าคิดจะยกร่างไปด้วยก็ไม่น่าจะทันกรอบเวลาทำงานของคณะกรรมาธิการฯ 60 วัน เนื่องจากกฎหมายเป็นเรื่องที่สำคัญ ต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณารายละเอียด บางครั้งพิจารณาเพียงมาตราเดียวก็ใช้เวลาถึง 2 วันแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สภาฯ ลงมติเอกฉันท์ 280 เสียง ไฟเขียวกฎหมายนิรโทษกรรม
สภาฯ เอกฉันท์ผ่านร่างกม.นิรโทษกรรม ส่งวุฒิสภาพิจารณาต่อ “กมธ.” ยืนยันทำร่างกฎหมายละเอียด รอบคอบแล้ว หลังถูกท้วงเลือกนิรโทษกรรมบางกลุ่ม
มติสภาฯ 184 เสียง 'ตีตก' นิรโทษกรรมเยาวชน-ผู้ต้องคดี 112
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข เข้าสู่การพิจารณามาตรา 3 ระบุว่า กฎหมายฉบับนี้มิให้ใช้บังคับแก่บุคคลที่กระทำความผิดหรือถูกกล่าวหาว่าได้กระทำความผิดอันมีสาเหตุมาจากการชุมนุมทางการเมืองหรือการแสดงออกใดๆ
หนุน 'ชูศักดิ์' นั่งปธ.กมธ.แก้รธน. ชงเปิดนอกรอบหารือ หวังทันเดทไลน์
ชลน่าน' เผย 'พท.' จ่อชู 'ชูศักดิ์' นั่ง ปธ.กมธ.แก้ รธน. ชี้ มีหลายประเด็นเห็นต่าง ต้องรีบเคลียร์ ชงใช้วงนอกรอบหารือ หวังประหยัดเวลาทำงาน
'จาตุรนต์' ชักแม่น้ำทั้ง 5 ยก 'ชูศักดิ์' เหมาะกว่าเจ้าของร่างหลัก นั่ง 'ปธ.กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ'
การเลือกประธานกรรมาธิการในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ น่าจะใช้วิธีหารือกันนอกรอบเพื่อให้ได้ข้อสรุปเสียก่อน จะดีกว่าการใช้วิธีลงคะแนนในที่ประชุม
ผุดสูตร‘สสร.’ พท.ชง140คน ปชน.ชู2กลไก
เพื่อไทย-ประชาชน พลิกตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญใช้สูตรเลือก
ชงส.ส.ร.จากทุกภาคส่วน เตือนรื้อหลักรธน.เจอม็อบ
"ชูศักดิ์" ถกทีมกฎหมาย พท.จัดทำร่างแก้ไข รธน. ชงตั้ง กมธ.ดึงตัวแทนทุกภาคส่วนร่วมแทน ส.ส.ร.


