สภาฯเคาะแล้ว อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ได้เวลา 2 วัน

สภาฯ เคาะแล้ว ศึกอภิปรายรัฐบาล “เศรษฐา” ให้ 2 วัน 3-4 เม.ย.นี้ ส่วนถกงบประมาณปี 67 วาระ 2 – 3 วันที่ 21,22 และ 25 มี.ค. เหตุวันที่ 22 มีค. “วันนอร์-ปดิพัทธ์” ไปราชการต่างประเทศ

14 มี.ค.2567 - ผู้สื่อรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา มีการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 2/2567 โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่2 ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานประชุม ได้มีการสรุปสาระสำคัญ คือ การพิจารณากำหนดวันเวลาในการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระที่ 2-3 ตั้งแต่วันที่ 20 – 22 มี.ค.67 โดยมีการกำหนดกรอบการพิจารณาดังนี้ วันที่ 20 มี.ค.67 เริ่มประชุมเวลา 09.00-10.00น. ส่วนวันที่ 21 มี.ค.67 เริ่มประชุมเวลา 09.00-24.00น. และวันที่ 22 มี.ค. 67 เริ่มประชุมเวลา 09.00-18.00 น. ซึ่งภายหลังจากที่คณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาวันเวลา ในการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วาระที่ 2-3 แล้ว นายพิเชษฐ์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่2 ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร ได้นำกราบเรียนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อทราบกำหนดวันเวลาดังกล่าว

แต่ปรากฏว่า ซึ่งประธานสภาผู้แทนราษฎร มีดำริว่า ควรกำหนดวันพิจารณา เป็นวันที่ 20มี.ค. วันที่ 21 มี.ค. และวันที่ 25 มี.ค. เริ่มประชุมเวลา 09.00-18.00 น. เนื่องจากในวันที่ 21 มี.ค. ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง มีกำหนดการไปปฏิบัติราชการ ณ ต่างประเทศ หากนัดประชุมในวันที่ 22 มี.ค. ตามเดิมแล้ว จะมีนายพิเชษฐ์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ปฏิบัติหน้าที่ประธานของที่ประชุมสภา เพียงท่านเดียว ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ จึงมีดำริว่า ควรจะนัดประชุมเป็นวันที่ 25 มี.ค.67 แทน จะมีความเหมาะสมกว่า ทั้งนี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นผู้พิจารณากำหนดวันเวลาในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ คณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณากำหนดวันเวลาในการอภิปรายเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะ ปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 152 ในระหว่างวันที่ 3- 4 เม.ย. 67 โดยกำหนดกรอบเวลาการพิจารณา ดังนี้ วันที่ 3 เม.ย.67 เริ่มประชุมเวลา 09.00น. แล้วพักการประชุมหลังเวลา 01.00 น.ก่อนเริ่มประชุมในวันถัดไป และวันที่ 4 เม.ย. 67 เริ่มประชุมเวลา 09.00 – 23.00 น. โดยการจัดสรรเวลา ดังนี้ ประธานของที่ประชุม จำนวน 2 ชั่วโมง คณะรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาล จำนวน 6 ชั่วโมง พรรคร่วมฝ่ายค้าน จำนวน 22 ชั่วโมง ส่วนกรณีผู้ประท้วงให้หักเวลาจากฝ่ายของผู้ประท้วง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จุลพันธ์' เมินก้าวไกลฟาดเพื่อไทยปัดฝุ่นโครงการยุคลุงตู่ ชี้มุ่งเน้นประชาชนได้ประโยชน์มากกว่า

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะกำกับดูแลกรมธนารักษ์ กล่าวชี้แจงในโครงการหนองวัวซอโมเดล จังหวัดอุดรธานี ถึงข้อกังวลของนายวิโรจน์ ลักขณาดิศร

'วิโรจน์' อัดรัฐบาลเพื่อไทยไม่ทำอะไรใหม่ ปฏิรูปกองทัพตบตาประชาชน

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ตามคำแถลงนโยบายด้านกองทัพของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

'เศรษฐา' สวนฝ่ายค้านอภิปรายกองทัพแต่เรื่องเดิม กดดันให้ซื้อเรือฟริเกต สงสัยอาจมีเงินทอน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการอภิปรายของฝ่ายค้านในเรื่องของกองทัพว่า ผิดหวังนิดหน่อย เพราะมีแต่เรื่องเดิมๆ ที่เป็นน้ำ และขอยืนยันว่า กองทัพมีไว้เพื่อความมั่นคงของประเทศ

'จุรินทร์' ทุบ 'เศรษฐา' ทำตัวเป็นรัฐบาลเทวดา มองฝ่ายค้านเป็นแมลงหวี่ เท่ากับรำคาญเสียงประชาชน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ในวันแรก ว่า ตนว่าฝ่ายค้านทำหน้าที่ดีทุกพรรค ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคก้าวไกล และพรรคไทยสร้างไทย ตนถือว่าตั้งใจทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี

'รังสิมันต์' แฉยับคนมีสีเอี่ยวบ่อนเมียวดี ซัดรัฐบาลล้มเหลวปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล อภิปรายตอนหนึ่งว่า เพื่อแสดงให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพของการบริหารงาน การบริหารราชการแผ่นดิน ไร้ความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์และการพนันออนไลน์

'ก้าวไกล' อัดนายกฯเด้ง 2 นายพลแค่ซุกขยะใต้พรม แก้ปัญหาแบบฉบับบ้านจันทร์ส่องหล้า

น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ยุคนี้เป็นยุคตกต่ำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) จากสมรภูมิแย่งชิงผบ.ตร. ของนายตำรวจเบอร์1และเบอร์2 เป็นศึกช้างชนช้าง เกิดความวุ่นวายในตร.