
“นิพนธ์-สรรเพชญ-มาดามเดียร์‘ เปิดเวทีระดมความคิดชาวสงขลา กระตุกรัฐบาลกระจายอำนาจ-งบประมาณให้ประชาชนออกแบบการใช้จ่าบภาษีของตัวเอง เหน็บโดนฉกงบฯ รถไฟฟ้าโมโนเรลไปโผล่เชียงใหม่
7 เม.ย.2567 – ที่จังหวัดสงขลา นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย น.ส.วทันยา บุนนาค นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีต สส. และนายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา เปิดเวทีระดมความคิดกับชาวสงขลาเพื่อออกแบบเมืองสงขลาในหัวข้อ “อยากเห็นสงขลาเป็นแบบไหน…แหลงได้เลยน้อง” โดย นายนิพนธ์ กล่าวคำถามนำว่า พี่น้องประชาชนอยากเห็นอะไรในเมืองสงขลา ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจ การเมือง สังคม สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิต รวมไปถึงอยากเห็ปนระเทศไทยเดินทางไปทางไหน
น.ส.วทันยา กล่าวว่า ทุกวันนี้ประเทศที่พัฒนาแล้วและประชากรมีคุณภาพชีวิตที่ดี ส่วนใหญ่ก็มีการกระจายอำนาจและการสร้างการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นประเทศคอมมิวนิสต์หรือประชาธิปไตย เช่น ประเทศจีนมีการปกครองส่วนท้องถิ่นที่เข้มแข็งมากที่สุดของโลก แต่ละมณฑลสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ที่ไม่ต้องกลับไปสอบถามรัฐบาลส่วนกลาง เช่น เซินเจิ้น การพัฒนาก้าวกระโดดกลายเป็นเมืองแห่งเทคโนโลยีเพราะเขาสามารถตัดสินใจเรื่องการใช้จ่ายเงินภาษีได้เองทั้งหมดไม่ว่าจะลดจะเพิ่ม มันย่อมดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามา และเพิ่มกำลังซื้อเพื่อที่จะได้เก็บภาษีมากขึ้น ขณะที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีการปกครองประชาธิปไตยแบบทางตรง ไม่ว่าจะเป็นเลือก สส. หรือผู้แทนรัฐ หากรัฐไหนอยากได้สนามฟุตบอลใหม่ เขาก็ให้ประชาชนร่วมโหวตกันได้เลยว่าจะมีสนามบอลหรือไม่ เพื่อเป็นการมีส่วนร่วมในท้องถิ่นอย่างแท้จริง
น.ส.วทันยา กล่าวอีกว่า แม้ทั้งสองประเทศนี้จะมีระบอบการปกครองที่เป็นคู่ตรงข้ามกันสุดขั้ว แต่สิ่งที่ทำกันทั้งคู่คือการกระจายอำนาจไปยังการปกครองท้องถิ่นเพื่อสร้างความก้าวหน้าของประเทศ ย้อนกลับมามองที่ประเทศไทย ภาคใต้หารายได้เข้าประเทศมากมาย แต่รายได้กลับไม่ได้เข้ามาที่ภูมิภาคให้ประชาชนร่วมกันตัดสินใจใช้งบประมาณตามความเป็นจริง แต่กลับเข้าไปที่ส่วนกลางและค่อยจัดสรรมาอีกที ทั้งที่เราควรมีสิทธิร่วมกันออกแบบเมืองและชีวิตที่เราอยากได้ อีกไม่นานจะถึงการเลือดตั้ง อบจ. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะผลักดันเรื่องนี้ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ
นายสรรเพชญ กล่าวว่า รับเอาปัญหาที่ร่วมพูดคุยไปหารือในสภาเพื่อย้ำถึงปัญหาและความต้องการของพี่น้องประชาชนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลังจากที่หลายเรื่องเคยอภิปรายไปแล้ว 11 ครั้ง โดยเรื่องที่รับไปได้แก่ 1.อะควาเรียมหอยสังข์ของกระทรวงศึกษาธิการที่ต้องการให้ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ใช้งบประมาณไปถึง 1,300 ล้าน แต่สร้างมาแล้ว 16 ปีไม่เสร็จ และชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์อะไรสะท้อนปัญหาส่วนกลางเอางบประมาณมาลง โดยไม่ถามความต้องการของคนในพื้นที่ 2.การทำอาชีพประมงท้องถิ่นซบเซา
นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า 3.ปัญหาเรื่องลิงก่อกวนประชาชนที่มีปัญหาหลายที่ในประเทศ รวมทั้งสงขลา แต่การแก้ไขปัญหาต้องรอกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถ้าเขาไม่ให้งบประมาณมาก็ทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นการกระจายอำนาจจึงสำคัญ 4.เรื่องถนนถนนหนทางควรให้ท้องถิ่นจัดการตัวเองได้ เพื่อให้ตรงต่อความต้องการของผู้ใช้จริง 5.ส่วนกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่ตอนนี้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว โดยมี มาดามเดียร์ วทันยา คือหนึ่งในผู้ผลักดันกฎหมายฉบับนี้
นายสรรเพชญ กล่าวด้วยว่าไม่ลืมพี่น้องที่โหวตให้เข้าไปในสภาฯ ไม่ว่าอะไรจะขึ้นก็จะอยู่ตรงนี้ ทำตามอุดมการณ์ เป็นฝ่ายค้านให้ดีที่สุด เพราะเชื่อว่าอยู่ตรงไหนก็ทำงานได้เหมือนกัน หากเราไม่ได้แสวงหาประโยชน์เราก็พร้อมทำหน้าที่ทุกแบบอยู่แล้ว ขายวัวขายที่ผมขายได้ แต่ศักดิ์ศรีผมไม่ขาย ให้สมกับชาวสงขลาที่ไว้ใจผม
ด้านนายสามารถ กล่าวถึงการแก้ปัญหาของประชาชนภาคใต้โดยรัฐบาลว่า โครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลหาดใหญ่ที่นายนิพนธ์ เสนอโครงการนี้ไว้ตั้งแต่สมัยเป็นนายก อบจ. จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้อนุมัติงบประมาณ แต่ตนเองกลัวว่ารัฐบาลจะเอางบไปสร้างที่เชียงใหม่เสียก่อน ทั้งที่สงขลา-หาดใหญ่หาเงินเข้าประเทศได้เป็นล้านล้านบาท แต่งบประมาณหมื่นล้านเพื่อรถไฟฟ้าสายแรกในต่างจังหวัดกลับสร้างไม่ได้ นอกจากนี้ค่าตั๋วเครื่องบินกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ก็มีราคาแพงเพราะรัฐบาลตั้งเพดานราคาไว้สูง อีกทั้งโครงการแลนด์บริดจ์ก็ไม่มีคนสนใจมาลงทุนเพราะมันจะไม่คุ้มทุน รัฐบาลต้องปรับโครงการด้วยการให้ความสำคัญกับการสร้างท่าเรือน้ำลึกและมอเตอร์เวย์ รวมไปถึงโครงการรถไฟทางคู่เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและโครงสร้างพื้นฐานของภาคใต้
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ขณะที่เสียงจากภาคประชาชนสะท้อนว่าอยากให้ระดับด้านความปลอดภัย และพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวให้สะอาดสวยงานน่าเที่ยว ปรับภูมิทัศน์ด้วยการเอาสายไฟฟ้าลงดิน พร้อมทั้งพัฒนาระบบจราจรและขนส่งมวลนให้ง่ายต่อการเข้าถึงสถานที่ต่างๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยว และดูแลให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วยสวัสดิการ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘เจือ ราชสีห์’ ดันยกระดับ รพ.เมืองสงขลา หวังเป็นศูนย์กลางการแพทย์ในเขตเทศบาล
ที่ปรึกษารองนายกฯ เร่งผลักดันโรงพยาบาลเมืองสงขลา ให้เป็นโรงพยาบาลหลักของเทศบาลนครสงขลาและพื้นที่ใกล้เคียง หวังเพิ่มศักยภาพรองรับผู้ป่วยและนักท่องเที่ยว
อดีตแม่ยก ปชป. โพสต์ดุเดือด! สงสารพรรคต้องมัวหมองตกต่ำ
นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือ ติ๊งต่าง เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับ อดีตแม่ยกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สำหรับฉัน ใครอยากเดินตามใครก็เชิญเหอะ
‘เดชอิศม์’ ย้อนถามเดินตาม ”ทักษิณ“ แล้วมีอะไร ลั่น ปชป. ยกมือหนุนนายกฯศึกซักฟอกหมด
เดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) แจงภาพเดินคู่กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่จังหวัดสงขลา ในช่วงเดียวกับการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
คนสงขลาแห่ชม ทอ. นำเครื่องบิน 'กริพเพน' ทดสอบขึ้น-ลงถนนทางหลวงเป็นครั้งแรก
กองทัพอากาศทดสอบการบินขึ้น-ลงบนถนนหลวงครั้งแรกของเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบ Gripen บริเวณถนนหลวงหมายเลข 4287 ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ตามยุทธศาสตร์กองทัพอากาศ โดยมีพลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ
สังเวียน'ซีเกมส์'2568ลงตัว กรุงเทพฯเมืองหลักจัด31กีฬา ชลบุรี15,สงขลาได้10
ซีเกมส์ครั้งที่ 33 ลงตัว คณะกรรมการจัดการแข่งขันเคาะสังเวียนชิงชัยลงล็อคเกือบหมดแล้ว โดยกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองหลักจะเป็นเจ้าภาพจัดชิงชัย 31 กีฬา ส่วน ชลบุรี จัด 15 กีฬา จ.สงขลา จัด 10 กีฬา ขณะที่ฟุตบอลชายรอบแรก จะเตะกันที่เชียงใหม่และสงขลา ก่อนที่ในรอบตัดเชือกและชิงชนะเลิศ จะโยกกลับมาจัดที่สนามราชมังฯ
นายกฯ สั่ง ก.เกษตรฯ เร่งหนุนปลูกกล้วยพัทลุง-ทุเรียนภูบรรทัด
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร)ว่า การลงพื้นที่จ.พัทลุงและจ.สงขลา ของนายกรัฐมนตรีและครม. โดยนายกฯได้มีข้อสั่งการเพิ่มเติมในที่ประชุมครม.กรณีจ.พัทลุงและจ.สงขลา ขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์