17 เม.ย.2567 - ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องของประธานรัฐสภาที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของรัฐสภา ในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญมาตรา 256 โดยมี 2 คำถามคือ 1.รัฐสภาจะบรรจุระเบียบวาระและพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่มีบทบัญญัติให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยยังไม่มีผลการออกเสียงประชามติว่าประชาชนประสงค์จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้หรือไม่ ส่วนคำถามที่ 2 ในกรณีที่รัฐสภาสามารถบรรจุร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมที่มีบทบัญญัติให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ การจัดให้ประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญออกเสียงประชามติเสียก่อนว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ จะต้องกระทำในขั้นตอนใด
โดยศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบแล้วเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญมีหน้าที่และอำนาจในการพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา รัฐสภาคณะรัฐมนตรีหรือองค์กรอิสระ ซึ่งจะต้องเป็นกรณีปัญหาที่เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจที่เกิดขึ้นแล้ว การบรรจุระเบียบวาระการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมตามหน้าที่และอำนาจของประทานรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 80 และข้อบังคับการประชุมรัฐสภา 2563 ข้อ 119 กรณีนี้ไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา และคำร้องมีสาระสำคัญเป็นเพียงข้อสงสัยและขอให้ศาลอธิบายเนื้อหาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยโดยละเอียดและชัดเจนแล้ว ไม่ใช่กรณีปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาที่เกิดขึ้นแล้วจึงไม่เข้าเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 วรรค 1 (2) ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญมาตรา 2561 มาตรา 7 (2) และมาตรา 44 จึงสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
ทั้งนี้ก่อนการพิจารณานายสุเมธ รอยเจริญกุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอยู่ระหว่างรอการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ และนายอุดม รัฐมฤต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญขอถอนตัวออกจากการพิจารณาคดีเนื่องจากเคยเป็นผู้เชี่ยวชาญของศาลรัฐธรรมนูญให้ความเห็นในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 ซึ่งที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดให้ถอนตัวการพิจารณาคดีได้และองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในคดีนี้จึงประกอบด้วยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่น้อยกว่า 7 คนตามที่กฎหมายกำหนด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง
‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม
คนเสื้อแดงกินแห้ว! ศาล รธน. ไม่รับวินิจฉัย ปม MOA 'ภูมิใจไทย-ปชน.'
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่นายนิยม นพรัตน์ (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 1) และนายณัฐพงษ์
ลุ้นกันยาวๆ 24 ธ.ค.ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้ว สว.
ศาล รธน.นัดไต่สวนพยานคดีสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' จุ้นคดีฮั้วเลือก สว. 24ธ.ค.นี้ พร้อมไม่อนุญาต 'สราวุธ' ถอนตัวจากการพิจารณาคดี
ตีตก 2 คำร้อง! ศาล รธน. ไม่วินิจฉัย MOA ตั้งรัฐบาลอนุทิน เหตุไม่มีหลักฐานชัดล้มล้างการปกครอง
ศาล รธน.ตีตกปม MOA "ณัฐพงษ์-อนุทิน" ให้ สส.ปชน-ภท. โหวตนายกฯ เหตุไม่มีหลักฐานชี้ชัดใช้สิทธิล้มล้างปกครอง เป็นการประกาศเจตจำนงร่วมทางการเมือง
'ราชทัณฑ์' พร้อมส่งตัว 'แส จิ้นเจียง' เจ้าพ่อพนันชเวก๊กโกให้รัฐบาลจีนดำเนินคดี
“ราชทัณฑ์” พร้อมส่งตัว “แส จิ้นเจียง“ ผู้ต้องหาชาวจีน เจ้าพ่อพนันชเวก๊กโกให้รัฐบาลจีนดำเนินคดี หลัง “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัย “พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน” ไม่ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ระบุ อยู่ระหว่างรับประสานงาน “อัยการ-ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ“ ยืนยัน ผู้ต้องหาเป็นบุคคลสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคง ต้องดูแลความปลอดภัยเต็มที่ ป้องกันชิงตัวผู้ต้องหา
ระทึก! ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไต่สวนพยานบุคคลคดี 'ภูมิธรรม-ทวี' ใช้อำนาจแทรกแซง
ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไต่สวนพยานบุคคล คดี สว. ร้อง 'ภูมิธรรม-ทวี' ใช้อำนาจแทรกแซงการเลือก สว.โดยมิชอบ


