เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่บริเวณชายหาดเลพัง ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เปิดกิจกรรม “มหาดไทย มอบความสุข คืนชายหาดเลพัง ให้ชาวภูเก็ต” พร้อมเซ็นประกาศสงวนหวงห้ามที่ดินเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยมีนายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้บริหารกรมที่ดิน หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีฯ
โดย นายอนุทิน กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องประชาชนชาวภูเก็ต ที่จะได้ใช้ประโยชน์ในชายหาดเลพังร่วมกัน แม้จะเป็นงานที่ยาก และต้องแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อผลักดันกระบวนการที่จะรักษาผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศ และยังเป็นภารกิจสำคัญที่กระทรวงมหาดไทยดำเนินการเพื่อ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ซึ่งการจัดการเอกสารสิทธิในที่ดินเป็นความสำคัญลำดับต้นๆของกรมที่ดินที่ต้องเร่งพิจารณา "ทำสิ่งถูกต้อง กำจัดสิ่งที่ผิด” ออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินให้รวดเร็ว และถูกต้อง
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ข้อมูลด้านที่ดินจะต้องได้รับการปรับปรุงอยู่เสมอ เพื่อเอื้อต่อการจัดที่ดินทำกินให้กับประชาชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือภารกิจสำคัญของกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ในการดูแลพี่น้องประชาชนดูแลสิทธิ และประโยชน์ เพื่อไม่ให้ได้รับความเดือดร้อน ไม่ให้สิ่งไม่ดีเกิดขึ้นในการทำงานภายใต้ความรับผิดชอบของข้าราชการกระทรวงมหาดไทย
“ขอให้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่สุดท้ายที่จะเกิดปัญหาลักษณะแบบนี้ ถ้ามีเหตุต้องสงสัยกรมที่ดินต้องเป็นคนพิสูจน์ไม่ใช่พี่น้องประชาชนเป็นคนพิสูจน์นี่คือสิ่งที่กระทรวงมหาดไทยจะพึงปฏิบัติต่อไป หากพิสูจน์แล้วบอกว่าผิดก็ต้องถอนโฉนด ตรงนี้ผมมองว่าแฟร์ แต่เราจะไม่ยอมให้มีใครมาคุกคามข่มขู่หรือลิดรอนสิทธิ์ท่านอีกต่อไป” นายอนุทิน กล่าว
ด้าน อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า เมื่อปี 2544 องค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล แจ้งความประสงค์ต่อนายอำเภอถลาง ขอสงวนที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่รกร้างว่างเปล่าบริเวณหาดเลพัง ม. 4 และ ม.6 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อให้เป็นที่สาธารณประโยชน์สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ซึ่งอำเภอได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วปรากฏว่า ที่ดินที่ขอสงวนเป็นที่รกร้างว่างเปล่า มีต้นสนทะเลขึ้นตลอดแนว และในระวางรูปถ่ายทางอากาศที่ถ่ายไว้เมื่อปี 2521 ไม่ปรากฏร่องรอยการทำประโยชน์ในที่ดินแต่อย่างใด อำเภอถลางเห็นว่าการสงวนที่ดิน บริเวณดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน หากปล่อยปละละเลยให้มีการบุกรุกเข้ายึดถือครอบครอง จะเป็นเหตุให้ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าใช้ประโยชน์ที่ชายหาดได้
“กรมที่ดินพิจารณาแล้ว เห็นสมควรสงวนหวงห้ามที่ดินบริเวณชายหาดเลพัง ม.4 และ ม.6 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เนื้อที่ 172-3-18 ไร่ เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน จึงได้เสนอคณะกรรมการจัดที่ดินพิจารณา โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบการสงวนหวงห้ามที่ดินเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันบริเวณชายหาดเลพังตำบลเชิงทะเล และรมว.มหาดไทย ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการจัดที่ดิน เรื่อง การสงวนหวงห้ามที่ดินของรัฐเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน วันที่ 17 เม.ย.2567 มีผลทำให้ที่ดินดังกล่าวเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินที่พลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน” นายอนุทิน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายอนุทิน และคณะ ลงพื้นที่อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) สาขาภูเก็ต ติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง พร้อมติดตามผลการดำเนินงานโครงการวางท่อส่งน้ำจากเขื่อนรัชชประภาไป จ.ภูเก็ต พังงา และกระบี่
โดย นายจักรพงศ์ คำจันทร์ รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ 2) รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. รายงานสถานการณ์น้ำ กล่าวว่า ปี 67 ประเทศไทยประสบกับสถานการณ์เอลนีโญส่งผลให้อุณหภูมิสูง ในขณะที่ปริมาณฝนต่ำกว่าปกติ และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยภาพรวมปี 67 จะสูงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้เกิดภัยแล้ง และปัญหาการขาดแคลนน้ำในหลายพื้นที่ กปภ. จึงได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในการให้บริการด้านน้ำประปา
จากนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ตนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาตรวจเยี่ยม และเยี่ยมชมแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาภูเก็ต พร้อมทั้งติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และตรวจติดตามผลการดำเนินงานโครงการวางท่อส่งน้ำจากเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี ไปภูเก็ต พังงา และกระบี่
“ด้วยภาวะวิกฤตภัยแล้งในปัจจุบัน ส่งผลกระทบอย่างมากกับภารกิจของการประปาส่วนภูมิภาคที่อาจจะมีปริมาณน้ำดิบไม่เพียงพอ ทั้งในส่วนที่ต้องผลิตจ่ายน้ำให้ผู้ใช้น้ำในปัจจุบัน อีกทั้งยังต้องขยายเขตการให้บริการประชาชน สำหรับการดำเนินงานโครงการวางท่อส่งน้ำจากเขื่อนรัชชประภาไป จ.ภูเก็ต พังงา และกระบี่ จะช่วยรองรับผู้ใช้น้ำได้เป็นจำนวนมาก จึงขอให้การประปาส่วนภูมิภาค รวมถึงทุกหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทย และทุกภาคส่วนร่วมมือกันแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืนเพื่อความสุขของประชาชนสืบไป” นายอนุทิน กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนูเหน็บทรัมป์ฟังรายงานมั่ว
"อนุทิน" ลั่น! "ทรัมป์-อันวาร์" เป็นบุคคลที่สาม ไม่ได้อยู่หน้างาน
ยึด‘ตาควาย’ได้100%
“นายกฯ” นัดถก สมช. 16 ธ.ค. ย้ำต้องปะทะเพื่อหยุดปะทะ ลั่นพื้นที่ที่เราสถาปนาชัดเจนอยู่แล้วว่าตรงไหนต้องเป็นของเรา
กกต. เคาะ 8 ก.พ.69 วันเลือกตั้ง สส. พร้อมเปิดไทม์ไลน์กำหนดการ
กกต. เห็นชอบร่างแผนการจัดการเลือกตั้ง หย่อนบัตรอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.69 รับสมัคร 27-31 ธ.ค.นี้
นายกฯหนู กำชับ รมต. อย่าโดดประชุม ครม. พรุ่งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงาน ก่อนที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย จะเดินทางออกจากพรรคภูมิใจไทย หลังจบการประชถมสส. ปรากฎว่านายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ภูมิใจไทยคึกคัก! 'อนุทิน' สวมเสื้อให้ว่าที่ผู้สมัคร สส. อดีตเด็กเพื่อไทยโผล่พรึ่บ
ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ตลอดช่วงบ่ายยังคงมีอดีต สส. และนักการเมือง เดินทางมาสมัครสมาชิกพรรคอย่างคึกคัก อาทิ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ อดีต สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ที่ได้มีการเปิดตัวไปก่อนหน้านี้แล้ว
'อนุทิน' ลั่นภูมิใจไทยพร้อมทุกขุมกำลัง ก้าวสู่พรรคอันดับหนึ่ง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะถ้าการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ว่าพรรคภูมิใจไทยจะมาเป็นที่ 1 หรือที่ 2 จะจับมือกับพรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาชน นายอนุทิน ตอบว่า รอให้ถึงวันนั้นก่อน ต้องคิดอีกเยอะ

