'สมชาย' กระทุ้ง กกต. ไล่บี้สอย สว. ที่มีลักษณะต้องห้าม

23 ก.ค. 2567 – นายสมชาย แสวงการ อดีตสภาวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย มีเนื้อหาทำงาน จดหมายเปิดผนึก:ข้อเสนอสาธารณะถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต. เพื่อพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ของสว.กลุ่ม18 สื่อสารมวลชน และสวกลุ่มต่างๆทั้ง 20 กลุ่ม โดยทำการตรวจสอบทบทวนซ้ำใหม่ทั้งหมด แทนการตรวจสอบเพียงบางราย

ด้วยเหตุว่า ยังมีข้อสงสัยว่า สมาชิกบางรายอาจมีปัญหาคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามบางประการ ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและพรบประกอบรัฐธรรมนูญ หรือไม่ ดังนี้

1)เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 98(3) เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ หรือไม่

กรณีนี้ต้องตรวจสอบความเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นสื่อมวลชนใดๆของผู้สมัครทุกคนตั้งแต่วันสมัคร มิใช่วันที่ได้รับเลือกหรือวันที่ยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินต่อปปช เพราะเป็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามสำคัญของผู้สมัครตามรัฐธรรมนูญ2560 และตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ผูกพันทุกองค์กร

2) เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา98(7)เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้รับโทษมายังไม่ถึง10ปีนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือไม่

กรณีนี้เท่าที่ทราบมีคดีที่ต้องตรวจสอบอย่างน้อย2คดี หรือมากกว่า เช่นคดีทำร้ายร่างกาย หรือจ้างวานฆ่า เป็นต้น ว่าคดีต่างๆนั้นมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วหรือไม่อย่างไร หรือเข้าข่ายต้องห้ามสมัครรับเลือกด้วยหรือไม่

3)เป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา108 (3)มีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์หรือทำงานในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า 10ปี หรือไม่

กรณีนี้เจตนารมย์และความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญและพรปสว ชัดเจนว่า ต้องเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า10ปี มิใช่แค่มีผู้รับรองเท่านั้น แต่กกตต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและหลักฐานอื่นประกอบเพื่อยืนยันประสบการณ์ดังกล่าวจริงไม่ต่ำกว่า10ปี ซึ่งอาจพบการรับรองเท็จจำนวนมากในหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มประชาสังคม กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่น กลุ่มศิลปะวัฒนธรรม บันเทิง กีฬา กลุ่มสื่อมวลชน เป็นต้น

4)เป็นบุุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา108 (5)เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง เว้นแต่ได้พ้นจากการดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองมาแล้วไม่น้อยกว่า 5ปีนับถึงวันสมัครรับเลือก หรือไม่

กรณีนี้มีผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองคือ เคยเป็นผู้อำนวยการพรรคการเมือง และพ้นตำแหน่งมาไม่ถึง5ปี เป็นตำแหน่งใดที่มีลักษณะต้องห้ามหรือไม่
หากพบว่าเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามจริง กกต.ต้องเร่งตรวจสอบและเสนอศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยโดยเร็ว

5) กระทำการผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 77(4) หลอกลวง หรือจูงใจให้บุคลลอื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณ ผู้กระทำผิดมีโทษจำคุกตั้งแต่1ถึง10ปี ฯลฯ

ซึ่งนักวิชาการ สื่อมวลชน และสื่อสังคมออนไลน์ติดตามตรวจสอบจนได้ข้อพิจารณาหลายประการแล้ว
กรณีนี้กกตจะดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นและส่งศาลเพื่อดำเนินคดีเมื่อใด

6)กระทำการผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 62 เมื่อกกต ประกาศผลการเลือกแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า

ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอันเป็นการทุจริตหรือรู้เห็นกับการกระทำของบุคคลอื่น อันทำให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้กกตยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อให้เพิกถอนสิทธิรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น
กรณีนี้กกตได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ปรากฎจากสื่อตามที่แนบมานี้ด้วยหรือไม่

เพราะปรากฎข้อสงสัยจากการผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา ที่เป็นสื่อมวลชน กลุ่ม18 ที่ได้จดการขานนับคะแนนกลุ่มดังกล่าวในรอบเลือกตรงวันที่ 26 มิ.ย. 2567 พบข้อพิรุธการจัดตั้งคะแนนblockvote อาจเข้าข่ายการกระทำการอันเป็นการทุจริตทำให้การเลือกไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งกกตมีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบ ตามที่ผู้สมัครกลุ่มสื่อมวลชนดังกล่าวยื่นเรื่องร้องเรียนต่อกกตแล้ว และกกตมีรายชื่อและหมายเลขผู้สมัครกลุ่ม18 ทุกคนเรียงตามลำดับ1-146 ซึ่งสามารถตรวจสอบผลการลงคะแนนแบบเดียวกัน จากบัตรลงคะแนนblockvoteดังกล่าวได้ หากตรวจสอบแล้วพบว่ากระทำผิดจริง ให้กกตยื่นศาลฎีกาเพื่อดำเนินการต่อไป

7) กระทำการผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มาตรา63 หากความปรากฎว่า สมาชิกวุฒิสภาผู้ใดขาดคุณสมบัติตามมาตรา13และมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา14 ให้ กกต ส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยโดยไม่ชักช้ากรณีนี้อาจมีผู้เข้าข่ายดังกล่าวมากกว่าxx ราย ที่กกต.ต้องเร่งตรวจสอบและเร่งส่งศารัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะกกตเคยประกาศความเชื่อมั่นต่อสังคมในการทำหน้าที่ว่ากกตได้ทำหน้าที่ให้การเลือกครั้งนี้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และใช้อำนาจตามกฎหมายในการรับรองไปก่อนสอยทีหลัง

จึงเสนอมาเพื่อโปรดพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจของท่านต่อไป
ขอแสดงความนับถือ
สมชาย แสวงการ
อดีตสมาชิกวุฒิสภา
23 กค 2567
หมายเหตุ: หากกกต ต้องการข้อมูลหรือเอกสารเพิ่มใดๆที่เป็นประโยชน์ในการตรวจสอบ ยินดีให้ความร่วมมือ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เอาแบบนี้ไหม 'ดร.อานนท์' ชงแนวคิด 'อภิ-ผู้ตรวจสอบ' มาตรวจสอบองค์กรอิสระอีกที

ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

ประธานกกต. ยันคืบหน้ามาก คดียุบเพื่อไทย-พรรคร่วม ปมทักษิณชี้นำ ครอบงำ

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคำร้องยื่นยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาล ที่ให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีครอบงำพรรคว่า เลขาธิการ กกต.

ศาลรัฐธรรมนูญตีตกคำร้องฟัน กกต.ปมฮั้วเลือก สว.

ศาล รธน.ตีตกคำร้อง "ณฐพร" ปมขอสั่งฟัน กกต.เหตุปล่อยฮั้วเลือก สว. ชี้ไม่ใช่ผู้ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพ กกต.ทำตาม กม.หากเสียหายใช้สิทธิทางศาลอื่นได้

กิจกรรมสานพลังภาคีเครือข่ายต่อยอดกลยุทธ์สื่อสารการเลือกตั้ง

วันที่ 3 เมษายน 2568 เวลา 08.30 น. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการ การเลือกตั้ง เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมสานพลังภาคีเครือข่ายต่อยอดกลยุทธ์สื่อสารการเลือกตั้ง

รองหัวหน้าอนาคตไกล เผย กกต. เรียกปฐมนิเทศ ลั่นจุดสตาร์ทสู่การเติบโตของพรรค

ชัชชัย-รองหัวหน้าพรรคอนาคตไกล เผยการปฐมนิเทศโดย กกต. ในวันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของพรรค ในการขยายฐานสมาชิกและการตั้งสาขาพรรค ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้พรรค คาดตั้งสาขา

'พรรคพร้อม' เคาะ 'ว่าที่พันตรีกวี ไกรทอง' สู้ศึกเลือกตั้งซ่อมสส. เขต 8 เมืองคอน

กก.บห.พรรคพร้อม เคาะ “ว่าที่พันตรีกวี ไกรทอง" ลงสู้ศึกเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 8 จังหวัดนครศรีธรรมราช "แม่เลี้ยงส้ม-หัวหน้าพรรค" ขอโอกาศชาวเมืองคอน เลือกลูกหลานเข้าสภาฯรับใช้พี่น้อง