'ศิริกัญญา' กาง 4 เหตุผลตัด 'งบดิจิทัลวอลเล็ต' เหลือหมื่นล้านบาท เหน็บจะเล่นแร่แปรธาตุอย่างไรก็ตามแต่ดอกเบี้ยไม่หลอกใคร จวกเกินเลยไปมากเอาค่าน้ำค่าไฟรวมเป็นรายจ่ายลงทุน
31 ก.ค.2567 - ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 1.22แสนล้านบาท น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะผู้แปรญัตติ อภิปรายว่า ขอตัดลดงบในส่วนนี้เหลือ 1 หมื่นล้านบาท ด้วย 4 เหตุผลคือ 1.เราไม่ควรกู้เงินเพิ่มอีกแล้ว เพราะด้วยฐานะทางการคลังของประเทศวันนี้ยังอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง แต่ยังปริ่มเพดาน ไต่ขอบไต่เส้น และหนี้สาธารณะท่านจะเล่นแร่แปรธาตุอย่างไรก็ตาม แต่ดอกเบี้ยไม่หลอกใคร ทั้งนี้ เราทราบดีอยู่แล้วว่าในปีงบ 2567 และปี 2568 มีการตั้งงบชำระดอกเบี้ยไม่พอที่ตั้งไว้ ขณะที่ปี 2569 ก็มีการตั้งเฉพาะดอกเบี้ยไว้ที่ 3.7 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 12%ของรายได้รัฐบาล หากถึงปี 2571 ก็จะขึ้นไปเกือบ 5 แสนล้านบาท เราไม่ต้องทำอะไรแล้วหากรายได้ได้เท่าไหร่ หรือเก็บภาษีได้เท่าไหร่ก็เอาไปจ่ายเป็นดอกเบี้ยหมด ซึ่งหากรวมเงินต้นด้วยก็จะขึ้นไป 20 เปอร์เซ็นต์ นี่จึงเป็นปัญหาที่จะผูกพันเราไปอีกในอนาคต
“ดิฉันจึงเสนอว่าไม่ควรกู้เพิ่มอีกแล้ว แถมยังเป็นการกู้ที่สุดเพดานไม่เผื่อเหลือเผื่อขาดว่าจะจัดเก็บรายได้ไม่เข้าเป้า กรรมาธิการได้สอบถามบ้างหรือไม่ว่าประมาณการรายได้ของปี 2567 ได้ประมาณการใหม่ไว้หรือไม่ เราจะจัดเก็บพลาดเป้าเดิมจากที่สภาฯ เคยอนุมัติไว้เมื่อต้นปีที่เท่าไหร่ แม้จะมีการสอบถามแค่ตัวแทนจากกระทรวงการคลังก็บอกว่าได้มีการประมาณการรายได้ใหม่ไว้แล้ว แต่ไม่บอกว่าเท่าไหร่ ไม่แค่ขอให้เชื่อมั่นและมั่นใจว่าสุดท้ายแล้วว่าสุดท้ายจะไม่มีปัญหา ซึ่งกรมสรรพสามิตก็เคยออกมาแถลงแล้วว่าจัดเก็บพลาดเป้าไปเกือบ 6 หมื่นล้านบาท แต่เราก็ยังจะมากู้เพิ่มจนสุดเพดาน ซึ่งถือเป็นการสร้างความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นกับระบบการคลัง ยืนยันว่าจะให้งบเพิ่มเติมได้เท่าที่หารายได้อื่นมาเพิ่มได้คือ 1 หมื่นล้านบาท” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า 2.แม้จะกู้ได้ แต่ก็ต้องใช้ในปีงบประมาณตามกฎหมาย ซึ่งไม่มีกฎหมายข้อไหนที่บอกว่าการลงทะเบียนจะเข้านิยามของหนี้ตามมาตรา 4 ยกเว้นจากการอื่นใด แต่การจะเป็นหนี้ได้ต้องมีระเบียบมารองรับต่อไป และจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ผิดต่อไป กรรมาธิการได้มีการสอบถามหน่วยงานที่มาชี้แจงหรือไม่ว่าเป็นหนี้หรือสัญญาประเภทใด ซึ่งอยู่ในห้องนั้นก็เห็นว่าไม่มีหน่วยงานใดที่จะตอบได้ว่าเป็นสัญญาเอกเทศประเภทใด ทั้งนี้ หากเป็นสัญญาให้ไม่ถือว่าเป็นการก่อหนี้ เพราะฟ้องร้องกันไม่ได้
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวด้วยว่า 3.แม้จะกู้ได้ แต่ต้องทำสัดส่วนลงทุนรายจ่ายถูกต้อง ซึ่งท่านเคยชี้แจงในห้องกรรมาธิการงบประมาณว่าทำไมจึงคิดว่ารายจ่ายของดิจิทัลวอลเล็ตเป็นรายจ่ายลงทุนถึง 80% แต่เมื่อมาชี้แจงในห้องคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ก็มีการเปลี่ยนแปลงไม่มีแล้วว่า 80% เป็นรายจ่ายลงทุน แต่ใช้การวิเคราะห์ที่ทำให้เกิดดอกผลและไม่เกิดดอกผล รวมถึงบอกว่าการก่อให้เกิดดอกผลเป็นการลงทุน โดยในมาตรา 20 (1) ระบุว่าเราต้องมีรายจ่ายลงทุนมากกว่าที่กู้เพื่อชดเชยขาดดุล แต่การกู้ครั้งนี้ท่านกลับเอาค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภคตามปกติครัวเรือนมาบอกว่าเป็นค่าใช้จ่ายลงทุน
“ดิฉันคิดว่าเกินเลยไปมาก ซึ่งท่านจะไม่ทำก็ได้แค่บอกกับสภาว่ารายจ่ายรอบนี้จะไม่ตรงกับที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย โดยมีเหตุผลที่เราจำเป็นที่จะต้องรักษาชื่อเสียงที่เราสั่งสมมานานเพื่อทำเรือธงของตัวเองให้ได้ ให้ท่านบอกเหตุผลกับสภามา และเสียงข้างมากก็คงยอมให้ท่านทำได้ แต่ท่านกลับพยายามที่จะบิดกฎหมายที่ยังไงก็ได้ขอแค่ให้เป็นรายจ่ายลงทุนโดยที่ไม่ได้ ซึ่งจะถือว่าเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ผิดในอนาคตกับกฎหมายวินัยการเงินการคลังต่อไป” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า 4.แม้จะกู้ได้ แต่ก็ไม่คุ้มค่าที่จะทำ เพราะแหล่งที่มาของเงินเปลี่ยนไปแล้ว จากเดิมที่จะมีการเติมเงินเข้ามาใหม่ในระบบ 3.5 แสนล้านบาท จากการกู้ 3 แหล่งคือ กู้ชดเชยขาดดุล 2567, กู้ชดเชยขาดดุล 2568 และกู้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ตอนนี้เหลือเพียงแค่กว่า 2 แสนล้านบาทเท่านั้น ดังนั้น จากที่เคยประเมินเอาไว้ว่าจะโต 1.2-1.8% ตัวเลขตอนนี้จะไม่เท่าเดิมอีกต่อไป แต่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเขาก็บอกว่าประเมินให้ใหม่แล้วเพราะแหล่งที่มาของเงินลดลงแล้วก็จะเหลืออยู่ที่ 0.9% แต่พอแถลงข่าวรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังก็กลับไปใช้ตัวเลข 1.2-1.8% ขอใช้ตัวเลขสูงไว้ก่อน
“ยิ่งสะท้อนว่าโครงการนี้ไม่ได้มีการประเมินความคุ้มค่าไว้ล่วงหน้า ท่านอาจจะบอกว่าโครงการนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกนี้ เลยไม่รู้ว่าจะประมาณการอย่างไร แต่เราสามารถจะประเมินขั้นต่ำขั้นสูงกันได้อยู่แล้ว ถ้าโครงการนี้มันมีการประเมินอย่างรอบคอบ รอบด้าน แต่เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาแบบนี้ สรุปว่าไม่รู้จะใช้ตัวเลขไหนกันแน่ และเอกสารงบประมาณก็ไม่ได้มีการระบุตัวเลขไว้อย่างชัดเจน ดิฉันจึงไม่สามารถที่จะเห็นด้วยกับกรรมาธิการเสียงข้างมาก” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ศิริกัญญา' เหน็บ 'ดิจิทัลวอลเล็ต' จากพายุหมุน กลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ
ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ
จะเอาไง! 'บิ๊กอ้วน' โวยอย่ามัวแต่เถียงเรื่องดิจิทัลว็อลเล็ต ข้ามปีแล้ว ประชาชนกำลังลำบาก
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัลว
'มาดามแพ' ยกนิ้วโป้ง! ให้รอฟังการแถลงดิจิทัลวอลเล็ต
ที่อาคารชินวัตร 3 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจเป็นปกติ โดยนายกฯโบกมือทักทายสื่อมวลชนที่
เดือดจัด! 'เตี้ยหลังม็อบ' จิก 'ไอ้อ้วนเงินหมื่น' ฝันถึงดวงดาวแต่ไปได้ไกลแค่ยอดมะพร้าว
นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล โพสต์ข้อความผ่าน X @AmaratJeab โจมตีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม ถึงนโย
'ปชน.' จัดเต็ม 13 ชม. ถลกนโยบายรัฐบาลอิ๊งค์ ยังไร้สัญญาณจาก 'พปชร.'
'ปกรณ์วุฒิ' พอใจฝ่ายค้านได้ 13 ชม. ถลกนโยบายรัฐบาล 'แพทองธาร' เผย 'พปชร.' ยังไม่มาคุยจัดสรรเวลา จี้ 'ครม.' ตอบให้ตรงคำถาม จ่อทวงความชัดเจน 'ดิจิทัลวอลเล็ต'