'ชัยธวัช' ลั่นไม่เคยทำอะไรผิดซัดถูกรวมหัวยุบพรรคแต่ยุบความฝันไม่ได้

'ชัยธวัช' ปลุกมวลชนร่วมเดินหน้าสู้อำนาจเก่า ชี้ยุบ 'ก้าวไกล' ได้ แต่ไม่สามารถหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงอนาคตได้อีก ยันยังพร้อมเคียงบ่าเคียงไหล่ทุกคนไปสู่อนาคตด้วยกัน

08 ส.ค. 2567 - ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล เมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 ส.ค. นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตสส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวบนเวทีปราศรัย ที่ลานบริเวณกิจกรรมของพรรคก้าวไกล โดยทักทายขอเสียงกองเชียร์ว่า “วันนี้เราฟังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ขอฟังเสียงศาลประชาชนหน่อยเร็ว“

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยบอกว่าพรรคก้าวไกลล้มล้างการปกครองเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วคนที่ทำรัฐประหาร แอบอ้างสถาบันเพื่อนำเหตุผลมาใช้รัฐประหารยึดอำนาจ จึงเกิดคำถามว่าใครเซาะกร่อนบ่อนทำลายมากกว่ากัน รวมถึงคนที่ปากบอกว่า ทำเพราะจงรักภักดี แต่จงรักภักดีจนน้ำลายไหล เพื่อเอาตำแหน่งไปฉ้อฉลหาผลประโยชน์บนความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน จึงตั้งคำถามว่าใครเซาะกร่อนบ่อนทำลาย

“บอกว่าก้าวไกลเซาะกร่อนบ่อนทำลาย แล้วพรรคการเมืองที่เอาเรื่องความจงรักภักดีมาหาเสียง และบอกว่าจงรักภักดีกว่าใคร ส่วนก้าวไกลไม่จงรักภักดี แล้วแพ้เลือกตั้งได้มาไม่กี่เสียง ใครเซาะกร่อนบ่อนทำลาย“ นายชัยธวัชกล่าว

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ใช้ข้อหาจงรักภักดีเพื่อสกัดกั้นไม่ให้พรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้งไปบริหารประเทศ ไม่ให้นายพิธาเป็นนายกฯ ชี้หน้าว่าไม่จงรักภักดี พฤติกรรมแบบไหนที่เซาะกร่อนบ่อนทำลาย ใช้กฎหมายมาตรา 112 ไปปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรงเกินเหตุ อ้างความจงรักภักดี ใช้กฎหมายไปละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน และไม่ให้ประกันตัว ตีความกฎหมายจนเกินเหตุใครคือผู้เซาะกร่อนบ่อนทำลาย

นายชัยธวัช ยังได้เปิดใจบนเวทีว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนสุดท้าย ขอเผยความในใจว่า ภูมิใจมากที่ได้ทำหน้าที่นี้ แม้เพียงสั้นๆ และภูมิใจมากที่ได้ทำงานร่วมกับเพื่อนพรรคก้าวไกล เพื่อนสมัยอนาคตใหม่ จนถึงวินาทีสุดท้าย และไม่เคยเสียใจ ไม่เคยเสียดาย ไม่เคยคิดว่าเราทำอะไรผิด ซึ่งที่สำคัญที่สุดขอขอบคุณพลังจากพี่น้องประชาชนที่สนับสนุนพวกเรามากขึ้นๆ จนถึงวันนี้ และจะมากกว่านี้อีก

“วันนี้พวกเขารวมหัวกันยุบก้าวไกลได้ แต่เขายุบก้าวไกลในหัวใจของพวกเราไม่ได้ ยุบอนาคตใหม่ไม่ได้ ยุบก้าวไกลไม่ได้ ยุบความฝันที่เราอยากเห็นอนาคตที่ดีกว่านี้ไม่ได้“

นายชัยธวัชกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้บริหารพรรคก้าวไกล ความสำเร็จที่เป็นความภาคภูมิใจของพวกเราทุกคน คือผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่ที่สำคัญมากกว่าพรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง คือ ปรากฏการณ์ที่บอกว่าสังคมไทยมันเปลี่ยนไปแล้ว พี่น้องประชาชนตื่นแล้ว และเราจะไม่ยอมหลับไหลอีกต่อไป เราอยากเห็นอนาคตแบบใหม่ เราไม่อยากอยู่ในสังคมไทยที่จมปลักกับอดีตที่ไม่มีอนาคตให้เรา และลูกหลานอีกต่อไปแล้ว

“ยุบเราได้ แต่ยุบความฝันไม่ได้ สังคมไทยเปลี่ยนแล้ว เราตื่นแล้ว คุณจะทำอย่างไร จะฝืนอย่างไร คุณก็ไม่สามารถหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงได้อีกแล้ว“ นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวว่า นี่คือความเป็นจริงที่ชนชั้นนำต้องยอมรับให้ได้ว่าพื้นฐานของสังคมไทยนั้นวิวัฒนาการมาจนถึงจุดที่ต้องรับความเปลี่ยนแปลงแล้ว พลังเก่า และอำนาจเก่าที่ฝ่าฝืน พยายามที่จะต่อต้านความปรารถนาของประชาชนส่วนใหญ่ มันไม่มีทางสำเร็จ แต่พลังเก่าไม่ยอมตาย และพยายามไม่ให้พลังใหม่เกิด ซึ่งก็เชื่อว่าสุดท้ายอนาคตก็จะเป็นของเรา เพียงแต่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้ว แต่ไม่มากพอ ดังนั้น ในวันนี้แม้เขาจะยุบพรรคของเรา เราก็ต้องเดินหน้าสร้างความเปลี่ยนแปลงให้มากกว่านี้ ไม่ให้พวกเขาปฏิเสธความเปลี่ยนแปลง และความต้องการขอพี่น้องประชาชนได้อีกต่อไป

“เมื่อเราเดินหน้า แล้วเขาไม่ให้เดินเราก็จะวิ่ง เมื่อเราวิ่ง แล้วเขาไม่ให้เราวิ่ง เราก็จะกระโดดกระโจนไปข้างหน้าด้วยกัน เอาประชาชนล้อมผู้มีอำนาจเก่าให้หมด ให้เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถปฏิเสธพวกเราได้อีกต่อไป“ นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช ยืนยันว่า วันนี้ไม่มีตำแหน่งในทางการเมืองใดๆ แล้ว แต่จะไม่หายไปไหนจะร่วมกันคนละไม้คนละมือ เคียงบ่าเคียงไหล่ทุกท่านเดินหน้าสู่อนาคตใหม่ไปด้วยกัน ไม่มีถอยหลังอีกต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ตีตก 7 คำร้อง ขอให้วินิจฉัยเลือก สว. ไม่ชอบ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับ 7 คำร้องที่มีการร้องขอให้วินิจฉัยเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ประกอบด้วยคำร้องของนายสมบูรณ์ ทองบุราณ,นายวัฒนา ชมเชย ,ว่าที่ร.ต.วิชชุกร คำจันทร์ นายจิรัฎฐ์ แจ่มสว่าง,นายปรีชา เดชาเลิศ,นางฤติมา กันใจมา,

'สนธิญา' ยื่นหลักฐานเพิ่ม ร้องศาลรธน. สั่ง 'อิ๊งค์' หยุดปฏิบัติหน้าที่ แจกเงินหมื่นไม่ตรงปก

นายสนธิญา สวัสดี นำเอกสารหลักฐานไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยรัฐบาลดำเนินโครงการแจกเงินหมื่นแตกต่างจากนโยบายดิจิตอลวอลเล็ต 10,000 บาท

ปลุกรุมบี้ 'รัฐบาลอิ๊งค์' ส่งศาล รธน. ชี้ขาด 'MOU 44'

รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ท่านที่ได้อ่านโพสต์ที่แล้วของผม คงจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับที่มาที่ไป