
แก้รธน.ส่อสะดุด “บิ๊กสภาสูง” หนุนกม.ประชามติ ต้องกลับไปใช้หลักออกเสียงสองชั้น Double Majority ไม่เอาร่างเดิมของสภาฯ ยันไม่หวั่นโดนวิจารณ์สว.ยื้อแก้ไขรธน. ปัดข่าวลือ ให้กมธ.ถอนร่างออกไป ส่อแววตั้งกมธ.สองสภาฯ ทำไทม์ไลน์ รื้อทั้งฉบับสะดุด
29 ก.ย.2567 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วุฒิสภาจะมีการประชุมกันวันจันทร์ที่ 30 ก.ย.นี้ โดยมีวาระสำคัญ ที่หลายคนจับตามองคือการพิจารณารายงานของ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ. ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ..ฯ วาระสองและวาระสาม ที่จะเป็นกฎหมายสำคัญที่นำไปสู่การทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากกระบวนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ออกเสียงประชามติล่าช้า ก็อาจทำให้ไทม์ไลน์การทำประชามติแก้ไขรธน.และการร่างรธน.ใหม่ทั้งฉบับตามโรดแมปของรัฐบาลเพื่อไทย อาจมีปัญหาล่าช้าสะดุดลง
ท่าทีจากสว. ทาง พลเอกสวัสดิ์ ทัศนา สมาชิกวุฒิสภา(สว.)และประธานคณะกรรมาธิการทหาร และความมั่นคงแห่งรัฐ และวิปวุฒิสภา กล่าวว่า ความเห็นส่วนตัว ไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ ที่ส่งมาจากสภาฯ ด้วยเหตุผลว่า การที่จะทำประชามติโดยเฉพาะในเรื่องสำคัญๆเรื่องใหญ่ของประเทศ เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ควรจะต้องมีเรื่องของเกณฑ์ขั้นต่ำของผู้มาออกเสียงด้วยคือควรกำหนดไว้ว่าต้องมีคนมาออกเสียงประชามติไม่น้อยกว่า กึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ ซึ่งในร่างฯ ที่ผ่านมาจากสภาฯ ส่งมาที่วุฒิสภาตอนพิจารณาวาระแรกขั้นรับหลักการไม่มีกำหนดไว้ ทำให้ไม่เห็นด้วยกับร่างที่ส่งมา
พลเอกสวัสดิ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ไม่เห็นด้วยเพราะ เช่น หากมีผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ 50 ล้านคน แล้วมีการทำประชามติเรื่องสำคัญ ถ้ามีคนมาออกเสียงแค่ 1 ล้านคน แล้วปรากฏว่า เสียงเห็นชอบหัวข้อการทำประชามติ มีคนเห็นชอบ ห้าแสนหนึ่งคน ก็ถือว่าเรื่องนั้น ผ่านประชามติแล้ว ผมว่ามันยังไม่ใช่ โดยเฉพาะหากนำไปใช้กับการออกเสียงประชามติเรื่องใหญ่ที่สำคัญกับประเทศ
“ขนาดการเลือกตั้งท้องถิ่น ยังมีหลักเลยว่า หากมีผู้สมัครเลือกตั้งแค่คนเดียว คนที่สมัครจะได้รับเลือกตั้งต้องได้รับคะแนนมากกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด และต้องมีคะแนนที่มากกว่าคะแนนที่ไม่เลือกผู้สมัครใด(โนโหวต) ดังนั้น การออกเสียงประชามติ กฎหมายสำคัญอย่างรัฐธรรมนูญ ถ้าไม่มีเกณฑ์ขั้นต่ำ มันไม่น่าจะถูกต้อง แต่ทั้งหมด ก็รอฟังการอภิปรายกัน แล้วสว.ก็จะชั่งน้ำหนักกันว่า หลักไหนเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ อันไหนมีความปลอดภัยกว่ากัน โดยสว.ส่วนใหญ่ ก็คงรอฟังคำชี้แจงจากคณะกรรมาธิการฯ ทั้งกรรมาธิการเสียงข้างมากและกมธ.เสียงข้างน้อยจันทร์นี้” พลเอกสวัสดิ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า อาจจะมีสว.เสนอให้คณะกรรมาธิการฯ นำร่างพ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ กลับไปทบทวนแล้วเสนอกลับมาอีกครั้งหากยังมีความเห็นแตกต่างเรื่องจำนวนคนที่มาออกเสียงประชามติ ที่คณะกรรมาธิการฯ เสียงข้างมาก ไปแก้ไขจากร่างเดิมของสภาฯ พลเอกสวัสดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบข่าวดังกล่าว แต่คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะกมธ.ฯ ได้พิจารณาอย่างดีรอบคอบแล้ว การที่จะให้ไปถอนร่างออกไปก่อน คงไม่ใช่ โดยหากกมธ.เสียงข้างมาก ที่ไปแก้ไขโดยให้กลับไปใช้หลักออกเสียงสองชั้น ถ้ากมธ.ชี้แจงได้ดี สว.ก็อาจออกเสียงสนับสนุน
เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่า หากวุฒิสภา เห็นชอบในการให้กลับไปใช้หลักออกเสียงสองชั้น ที่เป็นการแก้ไขหลักการสำคัญของร่างพ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ ทำให้เมื่อส่งกลับไปสภาฯ แล้ว ทางสภาฯ อาจไม่เห็นด้วย และทำให้ต้องตั้งกรรมาธิการร่วมสองสภาฯ จนทำให้การแก้ไขรธน.ล่าช้า ทำให้สว.อาจถูกมองว่า ทำให้การแก้ไขรธน.ล่าช้าไม่สำเร็จ พลเอกสวัสดิ์ กล่าวตอบว่า ตรงนี้เราต้องยึดหลักของประเทศชาติและประชาชนเป็นใหญ่ ไม่ใช่ไปกลัวว่า ใครจะมาว่าสว.คงไม่ได้ เพราะเราได้อ่านได้ฟังความเห็นแล้วว่าอะไรควรไม่ควร จนออกความเห็น ตัดสินใจได้ เพื่อให้ประเทศชาติได้สิ่งที่ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากที่ประชุมวุฒิสภา เห็นชอบด้วยร่างของกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ โดยเฉพาะที่ คณะกมธ. ได้แก้ไขเพิ่มเติมจากที่สภาฯให้ความเห็นชอบ 1 มาตรา คือมาตรา 7 ว่าด้วยเกณฑ์การผ่านประชามติ เฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยกลับมาใช้แบบ double majority จากนั้น วุฒิสภา ก็จะส่งร่างกลับไปให้สภาฯ ซึ่งหากสภาฯ ไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าวุฒิสภาไปแก้ไขสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ ก็จะทำให้ต้องมีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมสองสภาฯ คือสส.กับสว. ต่อไป ที่จะทำให้การพิจารณาร่างพ.ร.บ.อออกเสียงประชามติ ต้องล่าช้าออกไป แต่หากสภาฯ เห็นชอบด้วยกับการแก้ไข ร่างดังกล่าวของสว. ก็เหลือแค่ขั้นตอนนำร่างฯ เตรียมขึ้นทูลเกล้าฯ
อย่างไรก็ตาม การเสนอแก้ไขพ.ร.บ.ออกเสียงประชามติดังกล่าว ของสภาฯ ทั้งที่กฎหมายออกเสียงประชามติ ยังไม่เคยถูกใช้แม้แต่ครั้งเดียว ก็เพราะพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน ต่างต้องการปลดล็อกเรื่อง การออกเสียงประชามติสองชั้น ทำให้คาดว่า ทางสภาฯ คงไม่ยอม และอาจต้องตั้งกมธ.ร่วมสองสภาฯ ต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปชน. ค้านนัดโหวตแก้ รธน. วาระ 3 หลังปีใหม่ หวั่นกระทบไทม์ไลน์ทำประชามติ
"ณัฐวุติ" ย้ำโหวตแก้ รธน. วาระ 3 ต้องเสร็จก่อนปีใหม่ หวั่นกระทบไทม์ไลน์ทำประชามติ เสี่ยงผิด MOA เชื่อไม่มีเงื่อนไขให้ สว. ควํ่าวาระ 3 เผย หลังโหวตเสร็จ ปชน. เตรียมชง 2 คำถามประชามติให้สภาฯ เคาะทันที
'วันนอร์' นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 2
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. และ ครั้งที่2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วันที่ 11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ... ในวาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)
ขนลุก! กูรูใหญ่ สาปแช่งพรรคเพื่อไทย หลังข่าวซูเอี๋ยพรรคส้ม
ความคิดที่เพื่อไทยและประชาชนจะจับมือกันตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งแล้วเลื่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือท่าดีทีล้มละลายทางการเมือง
เปิดไทม์ไลน์ ‘จาตุรนต์’ ไร้วี่แววเพื่อไทยเปิดซักฟอกรัฐบาล หวั่นชำเรารธน.ล่ม ปล่อยยุบสภา 31 ม.ค.
นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความว่าที่กกต.ออกมาระบุว่า หากคณะรัฐมนตรีและ/หรือรัฐสภาส่
มาดุ! 'บิ๊กเกรียง' ฉะคนปล่อยเฟคนิวส์ หาน้ำท่วมใต้คนตายเป็นพัน น่าจะเอาหัวเสียบประจาน
'บิ๊กเกรียง' รับมอบของบริจาคช่วยอุทกภัย ฉะ คนปล่อยเฟคนิวส์ หาว่าน้ำท่วมใต้คนตายเป็นพัน น่าจะหัวเสียบประจาน ถามเอาจากไหนมาพูด บอก เสียหาย ถ้าเล่นการเมืองกัน ทำขวัญของประชาชนตกต่ำ ให้กำลังใจ 'นายกฯอนุทิน-รัฐบาล' เชื่อทำตามแผนฟื้นฟู-เยียวยาอยู่แล้ว
มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง
‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม


