
17 ธ.ค.2567- .ที่ทำเนียบ นายเดชอิชม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาตำหนิรัฐมนตรี ทำตัวเป็นอีแอบ ไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุ ว่าตนไม่ได้เข้าร่วมการประชุม ครม.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากติดภารกิจเดินทางไปเปิดงาน การประชุมวิชาการระดับชาติด้านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
เมื่อถามว่าได้ฟังที่นายทักษิณพูดในงานสัมมนาสส. พรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิชม์ กล่าวว่า ได้ฟังแล้ว โดยยืนยันว่าไม่ได้หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน 100%
ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่าวันนี้นายเด็ดๆค่อนข้าง สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสและตอบคำถามสื่อมวลชนอย่างอารมณ์ดี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ
‘เสรีพิศุทธ์’ จัดเต็ม ‘ทักษิณ’ ยังไม่สิ้นกรรม แฉลึก...ศึกสีกากี
กลายเป็นเรื่องที่สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างมาก กับการออกเปิดโปง-แฉข้อมูลเรื่องตำรวจรับผลประโยชน์ รับส่วยจากเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์
'ภูมิใจไทย'โชว์พร้อมยุบสภา 'ทักษิณ'ถูกสกัด-'พท.แพแตก'
การเมืองเวลานี้ต้องจับตาว่าจะมีการเลือกตั้งตาม MOA ระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย ที่กำหนดวันเลือกตั้งไว้วันที่ 31 มกราคม 2569 เพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งใหญ่หรือไม่
พูดแบบนี้ได้ยังไง! อดีตลูกจ้างวอยซ์ ลั่นไม่เห็นใจทักษิณ หลังคดี 112 ถูกอุทธรณ์
อินฟลูเอนเซอร์สายการเมือง และอดีตพิธีกรข่าววอยซ์ทีวีของตระกูลชินวัตร แสดงความคิดเห็นผ่านสื่อออนไลน์ หลังอัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์คดีมาตรา 112 ข
‘ปลื้ม’ ถอดบทเรียนทักษิณ ต้องรู้จักแพ้-รู้จักหมอบ ถ้ามีแผลก็อย่าซ่า
หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล ไลฟ์ “บทเรียนที่แสนแพง” ชี้ชีวิตการเมืองไม่สวยหรู เด็กต้องเรียนรู้การพ่ายแพ้ เก็บข้าวของกลับบ้าน และรู้ว่าถ้ามีแผลในสารบบศาบ แผลนั้นพร้อมเหวอะทันทีเมื่อถูกเชือด ระบุซ่าได้ต่อเมื่อไม่มีแผล
ประชาธิปัตย์“ฉบับรีแบรนด์ใหม่” “คว้ากระแส”หรือตามเงา"พรรคส้ม"
การที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศ กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ ทั้งจากผลการเลือกตั้งที่ถดถอย ความไม่ชัดเจนในทิศทางของพรรค และการสูญเสียบุคลากรทางการเมืองที่สำคัญ จนส่งผลให้ภาพลักษณ์ของพรรคที่เคยเป็น ‘พรรคต่อสู้กับเผด็จการ’ หรือ ‘พรรคที่ยึดมั่นในอุดมการณ์’ ได้เลือนหายไป จนอาจถูกมองว่าเป็นเพียง ‘พรรคระดับพื้นที่’ ไปเสียแล้ว


