"นันทนา" นำกลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ แถลงหลังสภาล่มเป็นวันที่ 2 โวยลั่นสุดอัปยศ ประชุม 2 วันเสียงบ 19 ล้าน มานั่งกินโจ๊กแล้วกลับ
14 ก.พ.2568 - ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. พร้อมด้วยสว. พันธุ์ใหม่ แถลงเกี่ยวกับการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยน.ส.นันทนา กล่าวว่า ภาพสภาฯล่ม 2 วันที่ ผ่านมาเป็นภาพที่อัปยศที่สุด มันเป็นกระบวนการเล่นเกมหักเหลี่ยมกันทางการเมือง ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สามารถที่จะบรรลุเป้าหมายได้ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย ได้ริเริ่มเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนธ.ค. แปลว่าทางพรรคการเมืองทุกพรรคทราบอยู่แล้วว่าจะมีการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาที่จะตอบรับหรือปฏิเสธ จนกระทั่งมีการกำหนดวาระในวันที่ 13-14 ก.พ. จากนั้นพรรคการเมืองพรรคแรก ที่ออกมาแสดงท่าทีคือพรรคภูมิใจไทย ซึ่งออกมาในเวลา 17.00 น. วันที่ 12 ก.พ. 15 ชั่วโมง ก่อนการประชุมว่า จะไม่เข้าร่วมการพิจารณา แล้วก่อนหน้านี้ 2 เดือน ไม่ได้คิด ไม่ได้พิจารณา ไม่ได้ตัดสินใจกันเลยหรือ ทำอะไรอยู่ ทำไมความรู้สึกช้า
น.ส.นันทนา กล่าวต่อว่า เมื่อเข้าสู่การประชุมแล้ว เราได้เห็นพรรคร่วมรัฐบาล มีท่าทีเหมือนกับไม่ตอบรับ ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผลคือเราได้เห็น ว่า สว.เสียงข้างมาก Walk Out หลังจากที่ผลออกมาว่าจะต้องพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญกัน และเมื่อเข้าสู่การประชุมจริงๆ พรรคเพื่อไทยก็ไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุม ทำให้สภาล่ม พรรคร่วมรัฐบาลก็หายตัวไป ไม่เข้าร่วมเป็นองค์ประชุมเช่นเดียวกัน จนมาถึงวันนี้ มีเวลาแก้ตัว แต่สุดท้ายก็ล่มเป็นวันที่ 2
“ทั้งที่การประชุมสภาฯครั้งหนึ่งใช้งบประมาณวันละ 8.9 ล้านบาท เราเสียเงินไป 19 ล้าน โดยที่สส. สว.ไม่ได้ทำหน้าที่กันเลย มาถึงตอนเช้ากินโจ๊ก แต่ไม่ทำหน้าที่พิจารณากฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรครัฐบาลได้ ถ้าจะปฏิเสธถ้าจะไม่เข้าร่วม ทำไมไม่แจ้งก่อนแล้วทำไมไม่คุยกันนายกรัฐมนตรี ทำไมไม่ดำเนินการในการประสานพรรคร่วม เพื่อที่จะให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่พรรคการเมืองแทบทุกพรรคหาเสียงเอาไว้ เพราะถึงเวลาแก้จริงล่มสภากันหมด นี่คือกลเกมทางการเมือง ที่สะท้อนชัดเจนว่าไม่มีเจตจำนงที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญพวกเราในฐานะสว.พันธ์ุใหม่ เราอยากเห็นรัฐธรรมนูญ ที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง แต่เราเสียใจที่ต้องมาเจอกับกลเกมทางการเมืองของ นักการเมืองทั้ง สส.และสว.ที่ไม่มีเจตจำนงที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ"น.ส.นันทนา กล่าว
ด้านนายพรชัย วิทยเลิศพันธุ์ สว. กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ไม่มีใครได้อภิปรายในการแก้ไขรัฐรรมนูญ เพราะสภาโดนตัดตอน ล่มไปก่อน ซึ่งตนได้เตรียมคำถามเพื่อถามไปยังพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน รวมถึงพรรคอื่นๆที่ควรจะร่วมมือกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อตนไม่ได้อภิปรายก็ขอฝากคำถาม ไปยังพรรคทั้งหลาย 5 ข้อคือ 1.สมเหตุสมผลหรือไม่ ที่ขั้นตอนการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรเป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ กลับไปให้อำนาจกับองค์กรอิสระคือศาลรัฐธรรมนูญตัดสินทำได้หรือไม่ ซึ่งบางพรรคบอกว่าอยากจะเดินทางอ้อมแต่จริงๆแล้วเรากำลังเดินทางที่ผิดหรือไม่ และมั่นใจได้อย่างไรว่าหากยื่นศาลฯไปแล้ว ศาลฯจะให้คำตอบไม่เหมือนเดิมเหมือนปี 2564 และจะเป็นคุณต่อร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ 2.การที่พรรคท่านสนับสนุนให้มีการยื่นเรื่องไปที่ศาลฯให้มีคำวินิจฉัย เท่ากับว่าท่านไม่แน่ใจว่าต้องทำประชามติก่อนที่จะยื่นร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากท่านยังไม่แน่ใจตั้งแต่ต้นแล้วยื่นร่างมาประกบกับพรรคประชาชนมาตั้งแต่ต้นทำไม ทำไมไม่ทักท้วงตั้งแต่ตอนประชุมวิป 3 ฝ่าย แล้วขอให้ยื่นเรื่องต่อศาลฯ ก่อนที่จะยื่นร่างทำไมเพิ่งมาคิดได้ในตอนที่เขากำลังจะพิจารณากัน
นายพรชัย กล่าวว่า 3.ท่านอ้างว่าให้มีการอภิปรายและโหวตในวาระที่ 1 อย่างไรก็โหวตไม่ผ่าน เพราะสว.ที่จะให้เสียงสนับสนุนไม่ครบ 67 คน จึงจงใจทำให้สภาล่ม เพื่อที่จะให้ร่างรัฐธรรมนูญนี้ค้างอยู่ก่อน ตนจึงอยากถามว่าถ้าคิดเช่นนั้นตั้งแต่แรกจริงๆ ทำไมที่ผ่านมาพรรคท่านไม่เคยดำเนินการอะไรเลย เพื่อให้แน่ใจว่าเสียงสว. ที่จะสนับสนุนครบ 67 คน ทำไมตอนที่ท่านส่งคนของท่านขึ้นตำแหน่งนายกฯ ท่านล็อบบี้ ดีล ย้ายค่ายต่างๆ เพื่อที่จะมั่นใจว่าเสียงสว.เพียงพอต่อการสนับสนุนคนของท่านและการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายหลักของพรรคท่านอยู่แล้ว เพราะบอกว่าเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องทำให้ดีที่สุด ทำไมไม่เห็นว่าท่านพยายามล็อบบี้เสียงสว.ให้ครบ 67 คน ทั้งที่มีเวลามากมาย และตนไม่เคยเห็นรายละเอียดในร่างของพรรคเพื่อไทยเลย ต้องไปหารายละเอียดเอาเอง และไม่เคยมีคนของพรรคเพื่อไทยมาอธิบายให้สว.ได้รู้ว่าร่างของพรรคเพื่อไทยดีอย่างไร แล้ววันนี้จะมาอ้างว่าเสียงของสว. ไม่พอกลัวจะโดนคว่ำ จึงขอถอยออกมาตั้งหลักก่อนได้อย่างไร ที่ผ่านมาท่านเคยสู้เพื่อร่างของท่านไม่ให้โดนคว่ำหรือไม่ อย่างนี้จะให้เราเชื่อในการจริงในต่อเรื่องนี้อย่างไร
นายพรชัย กล่าวต่อว่า 4.ท่านมีโรดแมพต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร ในการที่จะไปทำให้เสียงสว.ครบ 67 คน นอกจากการหวังลมๆแล้งๆว่าศาลจะตัดสินชัดเจนหรือคิดไปทำไป เปลี่ยนไปเหมื่อนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่จนถึงวันนี้ยังไม่มีความเป็นดิจิทัลอะไรเลย 5. เมื่อญัตติดังกล่าวที่ท่านบอกว่าอยากจะแช่ไว้นั้น ท่านจะไปเอาออกจากตู้เย็นเมื่อไหร่ แล้วมีแผนอย่างไรต่อเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ แล้วตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ภายในกี่เดือน กี่วัน กี่ชั่วโมง ซึ่งคงไม่ทันเลือกตั้ง ปี 70 และถ้าสมัยหน้าท่านกลับไปเป็นฝ่ายค้าน จะผลักดันเรื่องนี้ต่ออย่างไร หรือต้องรอไปถึงการเลือกตั้งปี 74 หรือ 78 ถึงจะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้
ด้านนายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว. กล่าวว่า ขอเรียกร้องนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลดำเนินการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล พูดคุยทำความเข้าใจหาจุดร่วมในการเดินหน้าเพื่อมีร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ซึ่งอยากให้นายกฯพยายามมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาไม่เห็นความพยายามเกี่ยวกับเรื่องนี้ของนายกฯเลย เพราะถือเป็นความรับผิดชอบของนายกฯ เพราะถือเป็นความรับผิดชอบของนายกฯในฐานะหัวหน้ารัฐบาล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ชูวิทย์' ฟันธงเลือกตั้ง พรรคประชาชนต่ำ 100 ชี้เดินเกมผิดพลาดครั้งใหญ่
"ชูวิทย์" วิจารณ์ "ธนาธร" เลือกเดินเกมแก้รัฐธรรมนูญผ่านพรรคภูมิใจไทยคือความผิดพลาดครั้งใหญ่ ไม่ใช่การประนีประนอม พร้อมคาดผลเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาชนอาจได้ สส. ต่ำกว่า 100 จากกระแสที่เปลี่ยนและความเชื่อมั่นที่ลดลง
'จุลพันธ์' ซัดแรง 'ธนาธร' อย่าชี้นิ้วโทษคนอื่นปมแก้ รธน. แค่นี้มองไม่ออกก็โง่ซ้ำซ้อน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ระบุว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ไปไม่ถึงวาระ3 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ สส. พรรคเพื่อไทยม
นายกฯ เรียกประชุม ครม.นัดพิเศษ หลัง กกต. ตีกลับคำถามประชามติ
นายกฯอนุทิน เรียกถก "ครม.นัดพิเศษ" พรุ่งนี้ เคาะคำถามประชามติ หลัง กกต.ตีกลับ ให้เลือกมาเลยคำถามเดียว
'บวรศักดิ์' แจงข้อกฎหมาย ครม.ส่งคำถามประชามติ ช่วยรัฐสภาไม่ต้องเสี่ยงขัด รธน.
อ.บวรศักดิ์ แจงเหตุส่งคำถามประชามติของครม.เพราะต้องการช่วยรัฐสภา หลังพบสุ่มเสี่ยงขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพราะไม่ได้ใช้คำว่า
'สมชัย' สะกิด 4 ข้อควรระวังประชามติแก้รัฐธรรมนูญ
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ครม. เห็นชอบคำถามประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่ง กกต.
“กฤษฎีกา” ค้าน ครม. ยกเลิก MOU 2543-2544 เหตุมีผลผูกพัน รบ.หน้า ส่วนประชามติแก้ รธน. รอ กกต.เคาะใช้แนวทางไหน

