ดร.ณัฏฐ์ ชี้ปมฮั้วเลือกสว. 'กกต.' อ้างอิงคำพิพากษาพกโพยเข้าเขตเลือกสว.ไม่ผิด

ดร.ณัฏฐ์ นักกฎหมายมหาชน ชี้ปมฮั้ว สว. กกต.อ้างอิงคำพิพากษา พกโพยเข้าไปในเขตเลือก สว.ไม่ผิด เหลือขั้นตอนพิสูจน์ว่าจ้างคนสมัคร สว.หรือไม่

11 มีนาคม 2568 - ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ ดร.ณัฏฐ์ นักกฎหมายมหาชน กล่าวว่ากรณี คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) อ้างอิงคำพิพากษาศาลอาญาทุจริตอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คดีหมายเลขดำที่ อท 125/2567 คดีหมายเลขแดงที่ อท 13/2568 ลงวันที่ 28 มกราคม 2568 ก่อนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา คณะกรรมการเลือกตั้งได้ออกระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 ข้อ 7 วรรคสอง กำหนดว่า "เอกสารแนะนำตัวตามวรรคหนึ่ง จะแจกจ่ายหรือนำเข้าไปในสถานที่เลือกไม่ได้" 

อันหมายถึงว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งใช้อำนาจออกระเบียบห้ามมิให้ผู้สมัครนำเอกสารแนะนำตัวเข้าไปในสถานที่เลือกสมาชิกวุฒิสภา แต่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้เพิกถอนข้อ 7 วรรคสอง ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งดังกล่าว จึงไม่มีผลบังคับ

ผู้สมัครมีสิทธินำเอกสารแนะนำตัวเข้าไปไนสถานที่เลือก และเหตุในเบื้องต้นทำให้เห็นว่าเอกสารอื่นที่ไม่มีกฎหมายห้ามหรือกำหนดเป็นความผิดไว้ ผู้สมัครก็ย่อมนำเข้าไปในสถานที่เลือกได้

ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่าดังนั้น เมื่อไม่มีกฎหมายกำหนดห้ามหรือกำหนดเป็นความผิดไว้ ผู้สมัครย่อมมีสิทธินำเอกสารใดเข้าในสถานที่เลือกได้ การห้ามมิให้ผู้สมัครนำเอกสารใดเข้าไปในสถานที่เลือก กกต. กระทำมิได้

ส่วนกรณีการนำโพยหรือเอกสารที่จดหมายเลขผู้สมัครเข้ามาในสถานที่เลือก สว. ที่ศูนย์การค้า อิมแพค เมืองทองธานี กฎหมายมิได้กำหนดว่าการนำเอกสาร รวมทั้งเอกสารที่จดหมายเลขผู้สมัครอื่นเข้าไปในเขตเลือกตั้งเป็นความผิดในตัวเอง  ฃ

อย่างไรก็ตาม กกต. ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมเลือก สว. ให้เป็นไปโดยสุจริต และ เที่ยงธรรม โดยศาลเห็นว่า ก่อนที่ กกต. จะมีคำสั่งใด ๆ อันจะเป็นการกระทบกระเทือนต่อสิทธิของผู้สมัคร เพื่อให้คงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์และเที่ยงธรรมในการเลือกตั้งนั้น กกต. ต้องตั้งมั่นอยู่บนพื้นฐานของเงื่อนไขว่า "มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า" หรือ "มีเหตุอันควรสงสัยว่า" มิใช่ กกต. จะสามารถใช้อำนาจได้โดยไม่มีมูลฐานแห่งเหตุอันควร เพราะการใช้อำนาจต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายบัญญัติให้อำนาจไว้เท่านั้น

ดร.ณัฐวุฒิ ขยายความว่า ผู้สมัคร สว.นำโพยจดหมายเลข เข้าไปในเขตการเลือก สว.ย่อมไม่มีความผิด ส่วนประเด็นทุจริตเลือก สว.หรือไม่ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ที่กกต.มีคำสั่งแต่งตั้งขึ้น ซึ่งจะต้องไปรวบรวมพยานหลักฐานในประเด็นต่างๆ อาทิ มีการว่าจ้างคนสมัคร สว. ตั้งแต่ระดับอำเภอ ก็ดี การกำหนดตัวเลขในโพยล่วงหน้า(โพยฮั้ว) ก็ดี การกำหนดกลุ่มพลีชีพ(เลือกคนอื่นไม่เลือกตนเอง)ก็ดี การนัดหมายให้พบสถานที่ต่างๆก็ดี การจัดอบรมสัมมนาก็ดี การกำหนดให้ใส่เสื้อเหลืองเป็นสัญลักษณ์ที่รู้กันเฉพาะกลุ่มก็ดี

การจัดรถขนผู้สมัคร สว.ไปสถานที่เลือก สว.ก็ดี การจ่ายเงินจ้างผู้สมัคร สว.ก็ดี ซึ่งตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ.2561 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม มีระยะเวลาในการวินิจฉัยชี้ขาดภายใน 1 ปี

"กรณี กกต.ออกหนังสือแจงล่วงหน้า ยกอ้างอิงคำพิพากษากรณีพกโพยเข้าไปในเขตเลือก สว.ที่ กกต.จัดเลือกในระดับอำเภอ จังหวัด ประเทศ แม้ไม่ได้ล่วงรู้สำนวน แต่ในการพิสูจน์ว่า ฮั้วหรือไม่ ว่าจ้างให้ลงสมัคร สว.หรือไม่ ในการพิสูจน์พยานหลักฐานค่อนข้างยาก เว้นแต่ผู้รับจ้างลงสมัครซัดทอดกันเอง เป็นกรณีคำซัดทอดมิได้ให้ตนพ้นผิด มีน้ำหนักรับฟังได้ แนวโน้มพยานหลักฐานในสำนวนไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัย ยกคำร้องสูง

ย่อมมีผลโดยตรงต่อคดีฟอกเงิน เพราะหากในคดีหลัก กกต.ยกคำร้อง ไม่เข้าเงื่อนไขในมาตรา 77 วรรคหนึ่ง (1) แห่ง พรป.สว.ย่อมไม่เป็นความผิดฐานฟอกเงินไปในตัว เพราะกฎหมายบัญญัติไว้เป็นเด็ดขาด หากทุจริตการเลือก สว.มาตรา 77 วรรคหนึ่ง (1) อันเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงินด้วย ตามมาตรา 77 วรรคสอง"

ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่าแต่ในเกมการเมือง ว่าจ้างคนลงสมัคร สว.โอกาสจับมือใครดมมือยาก หาก กกต.แจกแจงว่า พกโพยเข้าไปในเขตเลือก สว.ไม่เป็นความผิด อีกทั้ง เงินที่ใช้ ในการทุจริต ใช้ระบบเงินสด ไม่ได้ผ่านระบบบัญชี การคำนวนยอดเงินเกินกว่า 300 ล้านของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นการอนุมาน หากเส้นเงินทุจริตโยงถึงใคร เชื่อว่า จะต้องถูกปล่อยออกมา ไม่ใช่เฉพาะรายชื่อที่หลุดออกมาโดยจงใจสร้างกระแส ส่วน กลุ่ม สว.ฝุ่นตลบ เข้าตาจน ตามืดบอดมัว ประเคนเข่าใส่หมัดไม่ยั้ง ต่อ พตอ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ทั้ง มาตรา 157 ทั้งจริยธรรมอย่างร้ายแรง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เทพไท' ซัดรัฐบาล-ทักษิณ ใช้ไทยฟอกขาว 'มิน อ่อง หล่าย' ปมประชุมลับกลางกรุง

อดีต สส.นครศรีธรรมราช ตั้งคำถามรัฐบาลไทย หลังมีรายงาน “อันวาร์-มิน อ่อง หล่าย-ทักษิณ” หารือลับกลางกรุงเทพฯ ชี้เป็นพฤติกรรมคลุมเครือ ทั้งในมิติการทูตและบทบาทของอดีตนายกฯ ในรัฐบาลชุดปัจจุบัน

เอาแบบนี้ไหม 'ดร.อานนท์' ชงแนวคิด 'อภิ-ผู้ตรวจสอบ' มาตรวจสอบองค์กรอิสระอีกที

ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า