'วิโรจน์' โต้ 'ปิ่นสาย-อธิบดีกรมสรรพากร' มองเรื่องนายกฯใช้ตั๋ว PN ซื้อหุ้นจากกงสีแค่ชั้นเดียว ไม่ฉุกคิด อาจเป็นนิติกรรมอำพราง ซื้อหุ้นทิพย์ตบตาเลี่ยงภาษี ชื่นชม'เศรษฐา'โอนหุ้นให้ลูกก่อนเล่นการเมืองเสียภาษีครบถ้วน
26 มี.ค.2568 - นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
ผมเพิ่งทราบว่า คุณปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร เพิ่งออกมายืนยันว่า การใช้ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือตั๋ว PN ที่ระบุว่าจะชำระเงินเมื่อทวงถาม ไม่มีกำหนดการจ่ายเงินที่ชัดเจน และไม่มีดอกเบี้ยเลยแม้แต่สลึงเดียว ในการซื้อหุ้นจากกงสีมูลค่า 4,434.5 ล้านบาท นั้นไม่เข้าข่ายการหลบเลี่ยงภาษี โดยอธิบดีกรมสรรพากรมองเรื่องนี้แค่ชั้นเดียว โดยปักใจเชื่อว่าเป็นการซื้อหุ้นกันจริงๆ ซึ่งภาษีที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้ จะเป็น "ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา" ซึ่งผู้ขายหุ้นจะมีหน้าที่ในการชำระภาษีให้แก่รัฐ โดยไม่ได้ฉุกคิดเลยว่า กรณีนี้อาจเป็นนิติกรรมอำพราง ที่ใช้การซื้อหุ้นทิพย์ มาตบตาการได้รับหุ้นมาจากการให้ เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่าย "ภาษีการรับให้" ซึ่งแพทองธารในฐานะผู้รับหุ้น จะต้องเป็นผู้จ่าย (อ้างอิง: https://www.matichon.co.th/politics/news_5108663)
การได้หุ้นมาจากการซื้อเชื่อ โดยไม่รู้ว่าจะต้องจ่ายเงินค่าซื้อเมื่อไหร่ ภาระดอกเบี้ยก็ไม่ต้องจ่ายเลยสักบาท โดยที่แพทองธาร เพิ่งจะมารับสารภาพต่อสภาผู้แทนราษฎรว่า จะชำระเงินค่าซื้อหุ้นในปีหน้า ซึ่งก็คือปี 2569 ท่ามกลางความสงสัยว่า ถ้าไม่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ การชำระเงินค่าซื้อหุ้นจะเกิดขึ้นหรือไม่
โดยพฤตินัยแล้วธุรกรรมแบบนี้ มันแตกต่างจากการได้รับหุ้นมาจากการให้ตรงไหน เข้าข่ายการทำนิติกรรมอำพราง หรือไม่อย่างไร ประเด็นนี้อธิบดีกรมสรรพากร ไม่ได้พิจารณาตรวจสอบเลย
ซึ่งกรณีนี้ ผมจะดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดของการตัดสินใจในครั้งนี้ของอธิบดีกรมสรรพากรคนนี้ต่อไป และจะใช้กลไกของสภา และ ป.ป.ช. ในการติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีนี้ให้กระจ่าง
เบื้องต้นเลย จะต้องสอบถามอธิบดีกรมสรรพากร ให้ชี้แจงในกรณีนี้อย่างเป็นทางการ เพื่อออกระเบียบเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน เพื่อให้เจ้าของกิจการ ที่คิดจะโอนหุ้นให้ลูก ให้หลาน เปลี่ยนจากการให้ที่ต้องชำระภาษีการรับให้ ให้เป็นการให้ลูกหลานซื้อหุ้น โดยออกตั๋ว PN ที่ไม่มีกำหนดการจ่ายเงิน ไม่มีดอกเบี้ยมาแลก ทีนี้ก็ไม่ต้องมีภาระการชำระภาษีการรับให้ เฉกเช่นเดียวกับกรณีของแพทองธาร ชินวัตร
อย่างไรก็ตาม ผมต้องขอชื่นชม คุณเศรษฐา ทวีสิน ที่โอนหุ้นแสนสิริทั้งหมดจำนวนกว่า 661,002,734 หุ้น ให้แก่ลูกสาว ก่อนที่จะเข้ามาทำงานการเมือง โดยเป็นการโอน “โดยเสน่หาไม่มีค่าตอบแทน” และได้เสียภาษีการรับให้อย่างครบถ้วนเป็นเงิน 32.05 ล้านบาท โดยลูกสาวของคุณเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะผู้รับให้ ได้ไปยื่นแบบเสียภาษีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (อ้างอิง: https://www.prachachat.net/finance/news-1227236 และ https://www.bmkwealth.co.th/content/6025/givetax)
ซึ่งวิธีการในการโอนหุ้นให้ลูกสาวของคุณเศรษฐา นั้นเป็นการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เสียภาษีอย่างถูกต้องตามครรลองของกฎหมาย ซึ่งผมต้องขอชื่นชมทั้งคุณเศรษฐา และลูกสาวของคุณเศรษฐา ในเรื่องนี้ ไว้ ณ ที่นี้
คุณเศรษฐา ทวีสิน และแพทองธาร ชินวัตร ทั้ง 2 คน ต่างก็เป็นนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย แต่การตัดสินใจในการโอนหุ้น และชำระภาษีการรับให้ ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พรรคส้ม' ย้อนแย้งยื่นศาลรธน.ฟัน 'ประยุทธ์-ศักดิ์สยาม-ธรรมนัส' แต่โรยแป้งเย็นให้ 'แพทองธาร'
นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ โรยแป้งเย็น มีเนื้อหาดังนี้
ปชน.จ่อราดทิงเจอร์ 3 แผลใหญ่อุ๊งอิ๊งต่อทั้ง 'ตั๋วพี/เอ็น-โฉนดโรงแรม-ชั้น 14'
'วิโรจน์' จ่อยื่น ป.ป.ช.ฟัน 'นายกฯอิ๊งค์' จงใจละเว้นปฏิบัติหน้าที่ปมชั้น 14 แต่ไม่ชงปมจริยธรรม
'วิโรจน์' ซัดรัฐบาลดักดานไม่รู้จักจำบทเรียนนิรโทษเหมาเข่ง
'วิโรจน์' อัด 'รัฐบาล' ดักดาน! ไม่นำพาบทเรียนนิรโทษเหมาเข่ง แนะเปิดพื้นที่วิจารณ์เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เตือนอย่ามองคิดต่างเป็นศัตรู
'เรืองไกร' ขย้ำต่อ! ร้อง ป.ป.ช. สอบ 'นายกฯอิ๊งค์' พ่วง 'อธิบดีสรรพากร'
'เรืองไกร' ร้อง ป.ป.ช. สอบ 'นายกฯอิ๊งค์' ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ปมตั๋วสัญญาใช้เงินส่อหนีภาษี พร้อมสอบ 'อธิบดีสรรพากร' เข้าข่ายผิด ม.154 หรือไม่
รบ.เปิดช่องยื่นภาษีเงินได้ทางออนไลน์และแอปฯ
รบ.อำนวยความสะดวกยื่น ภ.ง.ด.90/91 ผ่านช่องทางออนไลน์ D-MyTax e-Filing หรือแอปฯ RD Smart Tax หมดเขต 8 เม.ย.