'เด็กเพื่อไทย' ซ่อมซักฟอกอัดรัฐบาลเรื่องท่องเที่ยว

'เพื่อไทย' ชี้ 'ประยุทธ์' ไม่ฟังคำเตือนทำประเทศเสียหาย ลักปิดลักเปิดประเทศทำท่องเที่ยวเสียหายหนัก แนะยกเลิกค่าเหยียบแผ่นดิน 300 บาทด่วน

03 ก.พ.2565 - นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ และคณะทำงานเศรษฐกิจด้านท่องเที่ยว พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้เปิดให้ผู้เดินทางจากทุกประเทศทั่วโลกลงทะเบียน เพื่อขออนุญาตเข้าประเทศไทยโดยระบบ Test & Go ได้อีกครั้ง ตั้งแต่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังระงับตั้งแต่หลังจากเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2564 ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่ประเทศไทยจะมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวเพื่อนำรายได้ฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่หากจำกันได้คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคได้เตือน พล.อ.ประยุทธ์ ให้ดูสถานการณ์การระบาดให้ดีก่อนปิดประเทศ เพราะการเปิดๆ ปิดๆ หรือที่เรียกว่าโรคลักปิดลักเปิด ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายให้กับธุรกิจท่องเที่ยวอย่างใหญ่หลวง พล.อ.ประยุทธ์ คงไม่เคยทำธุรกิจและไม่มีประสบการณ์การทำงาน จึงน่าจะไม่รู้ว่าการปิดประเทศและการเปิดประเทศแต่ละครั้ง ธุรกิจต้องเสียหายอย่างหนัก ทั้ง Booking ที่จองล่วงหน้า ทั้งสต็อกสินค้า อาหาร และ เครื่องดื่ม ที่ต้องซื้อเตรียมไว้รองรับนักท่องเที่ยว การฝึกอบรม การเทรน และ รีเทรนพนักงานให้เตรียมพร้อมรับรองนักท่องเที่ยวในแผนกต่างๆ ซึ่งไม่ได้ทำได้ง่ายๆ ใครไม่เคยทำธุรกิจก็จะไม่รู้

“นอกจากนี้วันที่ 22 ธันวาคม ถึง 31 มกราคม ของทุกปีจะเป็นช่วงพีกซีซั่นที่นักท่องเที่ยวจะมามากที่สุด และธุรกิจท่องเที่ยวจะได้รายได้เป็นกอบเป็นกำในช่วงนี้ แต่ก็ถูกสั่งปิดประเทศก่อนที่จะตรวจสอบสถานการณ์การแพร่ระบาดให้ชัดเจน ซึ่งการเปิดประเทศอีกครั้งในวันที่ 1 ก.พ.พิสูจน์แสดงให้เห็นแล้วว่าสิ่งที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคได้เตือนไว้ก่อนนั้นเป็นความจริง ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนแม้จะแพร่ระบาดง่าย แต่ไม่ได้ร้ายแรงถึงชีวิต ซึ่งในต่างประเทศก็พิสูจน์แล้วในขณะนั้น ดังนั้นจึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้หัดรับฟังเพื่อนำไปพิจารณาก่อนตัดสินใจ เพราะที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินพลาดหลายหนทำให้เศรษฐกิจไทยเสียหายอย่างมาก ประชาชนเดือดร้อนกันมาก เห็นได้จากผลการเลือกตั้งซ่อม กทม. เขต 9 ที่พรรคพลังประชารัฐพ่ายแพ้พรรคเพื่อไทยอย่างย่อยยับ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าประชาชนอยากให้พรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่”

นายจักรพลกล่าวว่า การที่รัฐบาลจะเก็บค่าเหยียบแผ่นดินกับนักท่องเที่ยวคนละ 300 บาท และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคได้ออกมาทักท้วง และประชาชนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยว่าไม่ควรเก็บ เพราะนักท่องเที่ยวยังไม่รู้จะกลับมาจำนวนมากแค่ไหนเลยนั้น รัฐบาลยังไม่ได้ประกาศยกเลิกเรื่องนี้ จึงอยากให้รัฐบาลได้ประกาศยกเลิกเรื่องนี้โดยด่วน ก่อนที่จะทำให้นักท่องเที่ยวบางส่วนอาจเปลี่ยนใจได้เพราะเรื่องนี้ ตอนนี้ไทยควรต้องเอาใจนักท่องเที่ยงทุกทางไม่ใช่เพิ่มภาระนักท่องเที่ยว อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ดูตัวอย่างการท่องเที่ยวเกาะเสม็ดที่มีการเก็บค่าทดสอบ ATK คนละ 330 บาท ปรากฏว่านักท่องเที่ยวแห่ยกเลิกกันเป็นจำนวนมาก นี่เป็นตัวอย่างที่ต้องพิจารณา และรัฐบาลต้องหัดมีความโอบอ้อมอารีและเอาใจนักท่องเที่ยวให้เป็น ไม่ใช่คิดแบบทหาร

“นับแต่นี้เชื่อว่าการท่องเที่ยวของประเทศไทยน่าจะฟื้นตัวได้โดยไม่น่าจะมีอุปสรรคแล้ว แต่จะฟื้นตัวเร็วหรือช้าขนาดไหนต้องขึ้นกับความสามารถของภาครัฐ รัฐบาลที่ฉลาดจะต้องหาทางทำการตลาดและหาวิธีที่จะทำให้นักท่องเที่ยวกลับเข้ามาเร็วและมากที่สุด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่รายได้สูง กระเป๋าหนัก ที่จะจับจ่ายใช้สอยมาก ซึ่งจะฟื้นเศรษฐกิจไทยได้อย่างรวดเร็ว รัฐบาลต้องเลิกคิดเล็กคิดน้อย ต้องหัดใจใหญ่ บริหารงานแบบมืออาชีพ การท่องเที่ยวไทยถึงจะฟื้นเร็ว ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ทำนโยบายการฟื้นการท่องเที่ยวไทยให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งอย่างเป็นรูปธรรมเตรียมไว้แล้ว ซึ่งเชื่อว่าในการเลือกตั้งคราวหน้าที่อาจจะมาถึงในไม่ช้า หากพรรคเพื่อไทยได้รับการไว้วางใจจากประชาชนให้เป็นรัฐบาล การท่องเที่ยวไทยจะกลับมาสดใสและรุ่งโรจน์อีกครั้งอย่างแน่นอน”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทวี' ยันไม่เคยได้ยิน เพื่อไทยจะเอาตำแหน่งประธานสภาฯ

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีกระแสว่าพรรคเพื่อไทยจะขอเก้าอี้ประธานสภา ว่า รัฐธรรมนูญได้มีการเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนถึงการเข้าดำรงตำแหน่งประธานสภาว่าเป็นเรื่องของสภา ส่วนเรื่องคณะรัฐมนตรีนั้นเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี

'ธรรมนัส' เชื่อ 'บิ๊กป้อม' มีชื่อสำรอง หาก 'ไผ่ ลิกค์' คุณสมบัติไม่ผ่านเป็นรมต.

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอชื่อต่อนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ กับโควตาที่ยังว่างอยู่ ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร

'พิชัย' เซ็ง 'แบงก์ชาติ' ไม่ลดดอกเบี้ยถามสังคมแบบนี้ควรมีอิสระไหม!

'พิชัย' ผิดหวัง 'แบงก์ชาติ' ไม่ลดดอกเบี้ย ทั้งที่ภาพรวมเศรษฐกิจแย่ แต่กลับไม่เดือดร้อน ชี้ไม่ใช่หน้าที่แบงก์ชาติมากำหนดอัตราการเติบโต แนะอย่าอ้างว่าต้องอิสระบนความเดือนร้อนของประชาชน