ศบ.ทก.วอนเกรียนคีย์บอร์ดไทยอย่าจุ้นเรื่องภายในเขมร

'ศบ.ทก.'​ ย้ำแม้ไทยควบคุมเข้า-ออกด่าน แต่ยังยึดหลักมนุษยธรรม วอนโซเชียลหยุดปั่นก้าวก่ายกิจการภายใน หวังลดตึงเครียด จี้ กัมพูชาแสดงความจริงใจแก้อาชญากรรมข้ามชาติ

25 มิ.ย.2568 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.)​ ว่า ตามที่มีการคำสั่งการยกระดับการผ่านแดนตามแนวชายแดนไทย- กัมพูชา มีผลให้จำกัดการผ่านแดนของบุคคลที่เข้มข้นขึ้น แต่ยังคงอนุญาตสำหรับบุคคลที่มีความจำเป็นและด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม ประชุม ศบ.ทก.ได้ติดตามผลในเชิงปฏิบัติของการเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการดังกล่าว เพื่อไม่ให้กระทบกับการใช้งานของจุดผ่านแดนที่จำเป็น ซึ่งได้รับรายงานว่า การอำนวยความสะดวกการเข้าออกส่วนใหญ่เป็นไปตามปกติ เช่น การอนุญาตให้ชาวกัมพูชากว่า 7,000 คนเดินทางกลับประเทศ​ ยกเว้นบางกรณีที่มีรถติดค้างอยู่บ้าง ซึ่งได้มีการคลี่คลายไปแล้ว ในส่วนของการอำนวยความสะดวกทางมนุษยธรรมยังคงดำเนินการไปตามปกติ อย่างในพื้นที่ จงสุรินทร์​ สระแก้ว​ และจันทบุรี​ มีการเปิดด่านเพื่อรับตัวผู้ป่วยของกัมพูชา 7 ราย เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

นางมาระตี กล่าวว่า แม้ว่า จะมีความจำเป็นที่จะยกระดับความเข้มข้นของการบริหารชายแดนในลักษณะนี้​ แต่ที่ประชุมได้ย้ำว่า ฝ่ายไทยให้ความสำคัญกับหลักมนุษยธรรมในการพิจารณาและติดตามผลของการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ซึ่งปรับใช้เป็นการพิเศษเฉพาะในช่วงนี้ ทางไทยได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับการรักษาความสัมพันธ์ฉันท์มิตรในระดับประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ ขณะเดียวกัน ยังหาเรือถึงการบูรณาการทำงานร่วมกันของ ศบ.ทก.​และกลไกที่เกี่ยวข้อง ที่จะดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลไทยที่ได้ยกระดับความเข้มข้น เรื่องของการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการหลอกลวงทางออนไลน์​ การค้ามนุษย์​ และการลักลอบขนยาเสพติด​ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังการออกรายงานเรื่อง สแกมเมอร์ เซนเตอร์ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

“มาตรการที่นายกรัฐมนตรี​ได้ประกาศยกระดับ​ มีจุดมุ่งหมายโดยตรงต่อธุรกิจเครือข่ายอาชญากรรมทางไซเบอร์เป็นหลัก และไม่ได้มีเป้าหมายต่อประชาชนทั่วไป แต่เป็นไปเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ ยืนยันว่า รัฐบาลไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกประเทศด้วยความจริงใจ เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคาม”นางมาระตี กล่าว

นางมาระตี กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงแนวทางการบริหารผลกระทบทางเศรษฐกิจ ในมาตรการต่างๆ​ เช่น​ มาตรการการระงับการนำเข้าน้ำมันของกัมพูชา​ ต่อผู้ประกอบการไทยในกัมพูชาและผู้ประกอบการไทยที่ทำธุรกิจกับฝ่ายกัมพูชา โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันให้ข้อมูลชี้แจงข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงได้บริหารสถานการณ์ต่างๆต่อไป

นางมาระตี กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ยังขอความร่วมมือประชาชนชาวไทยไม่แสดงความเห็นที่อาจจะเป็นการยั่วยุหรือรุนแรงสุดโต่งเพื่อไม่ให้สร้างความตึงเครียดเพิ่มเติม และไม่เป็นช่องทางให้ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศโจมตีซึ่งกันและกัน ทั้งนี้รัฐบาลไทยต้องการเห็นการแสดงออกในโลกโซเชียลที่สร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น ไม่ก้าวก่ายกิจการภายในของอีกฝ่าย เพื่อลดอุณหภูมิความตึงเครียด​ และส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศที่เอื้อต่อการหาทางออกร่วมกันของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะระหว่างรัฐบาลที่ต้องตอบสนองต่อประชาชน เป้าหมายสำคัญของฝ่ายไทย โดยเฉพาะของกระทรวงการต่างประเทศยังคงต้องการเห็นการกลับสู่โต๊ะการหารือ โดยหวังว่า ฝ่ายกัมพูชาจะตอบสนองต่อคำเชิญเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการเขตแดน​ส่วนภูมิภาค​ (อาร์บีซี) ในโอกาสแรก

ด้าน พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษก ศบ.ทก. กล่าวว่า สถานการณ์ชายแดน โดยเฉพาะจุดผ่านแดนต่างๆ ที่ได้มีการยกระดับมาตรการควบคุมการผ่านเข้าออกที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น เป็นผลจากการตั้งใจของฝ่ายไทย​ในการปราบปรามขบวนการธุรกิจอาชญากรรมข้ามชาติ​ตามแนวชายแดน​ ที่ผ่านมาฝ่ายกัมพูชาได้เคยกล่าวถึงเจตจำนงความต้องการในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติภายในกัมพูชา​ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาแสดงความจริงใจในการให้ความร่วมมือกับฝ่ายไทยในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการไทย​ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องปาก​ท้อง​ การค้า​ และการขนส่งสินค้า​ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และให้ดำเนินการมาตรการเร่งด่วนในการช่วยเหลือเยียวยาไปบางส่วนแล้ว​ และเร่งหารือในที่ประชุม ศบ.ทก.​ อย่างต่อเนื่อง​ ในการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกภาคส่วน ทั้งประชาชน ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง​ ซึ่งต้องขอบคุณกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ประสานภาครัฐ​ เอกชน​ เข้ามาช่วยเหลือรับซื้อผลไม้ของเกษตรกรในพื้นที่ตะวันออก​ ที่ได้รับผลกระทบจากการที่ไม่สามารถส่งผลไม้ไปยังกัมพูชาได้​ ในเบื้องต้นมีการแจ้งความประสงค์รับซื้อมาแล้วกว่า 20,000 กิโลกรัม และยังมีคนไกของพาณิชย์จังหวัด​ ที่ช่วยเชื่อมโยงผลผลิตจากทั่วประเทศมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการบริโภคในหลายพื้นที่ กว่า 75,000 กิโลกรัม ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในทันที​ จึงอยากขอเชิญชวนประชาชน​ร่วมกันสนับสนุนสินค้าตามแนวชายแดน เพราะถือเป็นกำลังใจและเป็นกำลังที่สำคัญให้กับคนไทยทุกคน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทูตสหรัฐฯเข้าพบ รมว.กห. ย้ำความร่วมมือด้านความมั่นคง ขอบคุณหนุนหยุดยิง ไทย–กัมพูชา

ทูตสหรัฐฯเข้าพบ รมว.กลาโหม ย้ำความร่วมมือด้านความมั่นคง พร้อมขอบคุณ บทบาทสหรัฐฯสนับสนุนการเจรจาหยุดยิง ไทย–กัมพูชา

สภากลาโหมเคาะ 8 นโยบายเร่งด่วนพร้อมให้รักษาภาพลักษณ์ที่ชาวบ้านปลื้มการปกปักอธิปไตย!

สภากลาโหมเคาะ 8 นโยบายเร่งด่วน สนองนโยบายรัฐบาล พร้อมย้ำให้ทหารปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสามัคคี เป็นเอกภาพกับรัฐบาล รักษาภาพลักษ์จากที่ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธาจากภารกิจชายแดนไทย-กัมพูชา

'สิริพงศ์' ยัน' ศบ.ทก.' ยังอยู่! ย้ำไทยไม่อ่อนข้อเขมรแน่นอน

'สิริพงศ์' ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำเนียบฯ ก่อนเริ่มงานโฆษกรบ. ระบุ เน้นสื่อสารตรงประเด็น-รวดเร็ว ส่วนปมชายแดนต้องคัดกรอง ประสานโฆษก กต.-กห. ลั่น​ ไม่มีอ่อนข้อแน่นอน​

'พล.อ.ณัฐพล' คลอด 4 นโยบายหลักยุคคุมกลาโหม 4 เดือน!

'บิ๊กเล็ก' ออก​ 4 นโยบาย​ 4 เดือนต้องทำให้ได้​ ประเดิม​ ส่ง​ 'บิ๊กดุลย์' ลุยศรีสะเกษ​ติดตามปมทหารกัมพูชา​ยิงปืนเล็ก​ ชี้​ ศบ.ทก ไม่ไปต่อ เชื่องาน​ฉลุย​ เหตุอนุทินคุม​มั่นคง​ -​ มท.​

'ศบ.ทก.' ไฟเขียวสร้างรั้วกั้นชายแดนไทย-เขมรยาว 16 กม.

'ศบ.ทก.' เห็นชอบแผนสร้างรั้วยาว 16 กม. บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว แจง 'ไอโอที' ลงพื้นที่สังเกตการณ์ จ.ตราด แค่เก็บข้อมูล 'กต.' จี้ เขมรเลิกสร้างข่าวบิดเบือน บั่นทอนความเชื่อใจระหว่างกัน