ดร.ณัฏฐ์ เตือน ร่างนิรโทษเหมาเข่ง เสี่ยงซ้ำรอยรัฐบาลยิ่งลักษณ์

ดร.ณัฏฐ์ ชี้ ปมร้อน ผลักดัน ร่าง“นิรโทษกรรม” เหมาเข่ง “ซ่อนรูป” เตือนซ้ำรอยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 

8 กรกฎาคม 2568 – ความคืบหน้ากรณีที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) มีมติรับหลักการ ร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. …ที่เสนอโดย นายวิชัย สุดสวาสดิ์ ส.ส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ และคณะ รวมถึงร่างของ นายปรีดา บุญเพลิง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม ซึ่งมีเป้าหมายสร้างความปรองดองแก่ผู้ชุมนุมที่มีความผิดทางการเมือง แต่ไม่ครอบคลุมคดีมาตรา 112 และคดีทุจริต

การพิจารณาจะใช้ร่างของพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นหลัก พร้อมร่างอื่นอีก 3 ฉบับ ได้แก่ ร่างของนายปรีดา และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอีก 2 ฉบับ ขณะที่ร่างของนายชัยธวัช ตุลาธน และร่างของพรรคประชาชนที่เสนอโดยภาคประชาชน วิปรัฐบาลมีมติไม่รับพิจารณา เนื่องจากเกี่ยวข้องกับมาตรา 112

ล่าสุด “ดร.ณัฏฐ์” หรือ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน เผยแพร่ความเห็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยระบุว่าร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ไม่ว่าจะใช้ชื่ออะไร ไม่ว่าจะเป็น “ร่าง พรบ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข” หรือ “ร่าง พรบ.นิรโทษกรรม” เนื้อหาสาระสำคัญของร่างกฎหมายล้วนพุ่งเป้า “นิรโทษกรรม”ในความผิดต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาย้อนหลังระหว่าง ปี 2548 ถึงปี 2565

แม้ใน ร่าง พรบ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข ฉบับพรรค รสทช. มาตรา 3 ระบุมิให้ใช้บังคับกับการกระทำความผิดฐานทุจริตหรือประพฤติมิชอบ การกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และการกระทำความผิดที่ทำให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตายฯก็ตาม

โดยกำหนดฐานความผิดครอบคลุมถึงการกระทำความผิดต่างๆในท้ายร่าง พรบ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข

หากเจาะลึกถึงความผิดท้ายบัญชี ความผิดต่อความมั่นคงภายในรัฐ ย่อมหมายถึง ความมุ่งหมายถึงความผิดต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญาด้วย

เพราะคำว่า”รัฐ”กับคำว่า “ราชอาณาจักร” ย่อมมีความหมายเฉกเช่นเดียวกัน เป็นความผิดความมั่นคงภายในประเทศ ที่มีมาตรา 112 คุ้มครองพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทหรือผู้สำเร็จราชการแทนในความผิดฐานดูหมิ่นหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายรวมอยู่ด้วย

แม้จะจั่วหัว โน้มน้าวใจเพื่อสับขาหลอก ว่าไม่รวม คดีมาตรา 112 และคดีทุจริต  แต่ย้อนแย้ง ย่อมปรากฏซ่อนรูปในบัญชีท้ายร่าง พรบ.ดังกล่าว

สุภาษิตไทยที่ว่า “เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง” โดยไม่นำร่างฝ่ายค้าน  ได้แก่ (๑) ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของนายชัยธวัช ตุลาธน อดีต สส.พรรคก้าวไกล (๒)ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของพรรคประชาชน ที่นำเสนอโดยภาคประชาชน โดยทั้งสองร่างฝ่ายค้านพุ่งเป้าไปนิรโทษกรรม มาตรา 112

ไม่ต่างจากพรรคภูมิใจไทย เคยประกาศว่า ไม่จับมือกับพรรก้าวไกลผลักดันให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในขณะนั้น ที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย มาตรา 112

แต่วันนี้เมื่อเป็นฝ่ายค้านด้วยกัน เป็น เกมต้อนรับน้องใหม่ ขายฝันกลางวัน แจกแคมเปญ ผลักดัน 142 เสียง ให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว โดยมีเงื่อนไข ในขณะที่ นายอนุทินฯ และแกนนำ ถูกแจ้งข้อหาในคดีทุจริตการเลือก สว.สีน้ำเงิน โดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ชุดที่ 26 กกต.

แต่ในการออกกฎหมายนิรโทษกรรม รัฐธรรมนูญเปิดช่อง 2 ช่องทาง โดยให้อำนาจฝ่ายบริหารโดยคณะรัฐมนตรี สามารถออกกฎหมายในสถานะเป็น “พระราชกำหนด”ได้ แต่เงื่อนไข ต้องเป็นความจำเป็นเร่งด่วนของประเทศ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 172 วรรคสอง

แต่เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะรัฐบาลมั่นหมายให้ตราเป็นพระราชบัญญัติ โดยฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะหากมีปัญหา โยนความรับผิดให้แก่ฝ่ายนิติบัญญัติ มิใช่เป็นการกระทำของฝ่ายบริหาร

พูดภาษาชาวบ้าน ให้เข้าใจง่ายว่า หัวหน้ารัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยไม่เกี่ยว

ร่าง กฎหมายนิรโทษกรรม ไม่ว่าฉบับของ พรรค รสทช.หรือฉบับของพรรคกล้าธรรมก็ดี หรือฉบับอื่นใดอีก 2 ฉบับ

ล้วนเป็นเทคนิค การยืมมือให้พรรคร่วมรัฐบาล เป็นผู้เสนอใช้เป็นเพียงเครื่องมือ ในการผลักดันกฎหมายที่แกนนำรัฐบาลต้องการ

ในทางกลยุทธ์ทางการเมือง เป็นการต่างตอบแทน และได้ประโยชน์ในการเพิ่มโควต้ารัฐมนตรี

ผลลบล้างความผิด ย่อมตกแก่ผู้นำจิตวิญญาณของเพื่อไทยและนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่หลบหนีไปต่างประเทศโดยตรง

แม้ร่าง พรบ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข มาตรา 3 จั่วหัว ระบุชัดว่า “เป็นข้อห้าม” แต่ในเนื้อหาเข้มข้น กลับตรงกันข้าม การโฆษณาชวนเชื่อ ประชาชนไม่รู้ทันเกมประหนึ่งสับขาหลอก โดยแอบซ่อนรูป ในบัญชีท้าย ร่าง พรบ.

เป้าหมายหลักที่เร่งรีบในช่วงนี้ รีบผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม เพราะไม่รู้ว่าคดีนายทักษิณ ฯ จะออกบวกหรือลบ หากพิจารณาถึงเนื้อหาแห่งคดีที่นายทักษิณ ชินวัตร ถูกกล่าวหา โดยคดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอาญา เกี่ยวกับมาตรา 112 และ พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ

หากย้อนกลับไปพิจารณา บัญชีท้าย ร่าง พรบ. ความผิดในข้อ 9 และ ข้อ 11 เหมารวม มาตรา 112 และความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ไปด้วย

ไม่ต่างจาก กฎหมายนิรโทษกรรมเหมาเข่ง สุดซอยในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

กลเกม เทคนิคชั้นเชิงกฎหมาย ในการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม ดูประหนึ่งเหมือน “อภัยทาน” ในความผิดในทางพุทธศาสนา ชนิดเหมาเข่ง แต่กฎเกณฑ์ความเสมอภาคในทางกฎหมาย การเข้ากระบวนการยุติธรรมทางอาญาจะต้องเสมอภาคและเท่าเทียมกัน บัญญัติคุ้มครองประชาชนในรัฐธรรมนูญ ไม่แยกระหว่าง คนรวย หรือคนจน

คำถามหนาหูประชาชนทางบ้านว่า การถอนร่าง พรบ.สถานบันเทิงหรือร่างกฎหมายกาสิโน ที่มีกระแสคัดค้านบ่อนกาสิโนทุกหย่อมหญ้า แต่สลับขาหลอกกลับนำร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเหมาเข่ง มาผลักดันให้ใช้บังคับเป็นกฎหมายประชาชนได้ประโยชน์อะไร

แต่ขณะเดียวกัน ในการดำเนินนโยบายการค้าระหว่างประเทศ รัฐบาลล้มเหลวโดยสิ้นเชิง    

สหรัฐอเมริกาจัดเก็บ ภาษีนำเข้าประเทศ หรือตั้งกำแพงภาษี ให้ผู้ประกอบการค้าไทยนำเข้าสินค้าในสหรัฐอเมริกาที่เป็นตลาดยักษ์ใหญ่ของโลก ภาษีสูงถึง 36 เปอร์เซ็นต์

หากเทียบเคียงกับประเทศเวียดนาม กำหนดเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ไทยเป็นประเทศส่งออกสินค้าเกษตร เบอร์หนึ่ง  จากเดิมเป็นเสือตัวแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันเป็นเสือขี้กากตัวสุดท้าย  กลับเจอเกมภาษีจากประเทศมหาอำนาจในรัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ทำให้กระทบต่อเศรษฐกิจมหภาคในประเทศโดยรวม

ส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคและบริโภค สินค้าทุกประเภทกำหนดราคาขาย “ราคาสูงขึ้น” เป็นผลโดยตรงจากการจัดเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา

ปัญหาปากท้องของประชาชนกลับไม่เร่งรีบเจรจาและแก้ไข โดยใช้นาทีสุดท้ายในการเจรจา ทำให้ไทยพลาดท่าและเสียโอกาส ในเวทีการค้าระหว่างประเทศ รมว.การคลัง กลับมามือเปล่า แถมสับขาหลอกประชาชนเพื่อปิดบังอำพราง ว่าจะนำข้อมูลไปวิเคราะห์และจะนำกลับไปเจรจาใหม่ แต่สวนทางของ หนังสือของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ยืนยันจัดเก็บภาษีของผู้ประกอบการไทยนำสินค้าเข้าสหรัฐอเมริกา ทำให้ประชาชนคนไทยตาสว่าง

การเร่งรีบ ตรากฎหมายนิรโทษกรรมในช่วงนี้ เป้าหมายเพื่อใคร เชื่อว่า พี่น้องประชาชนสามารถตอบคำถามได้ แต่การผลักดัน ร่าง พรบ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง สุดซอย เคยประสบปัญหาภัยการเมืองในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ฯ นำไปสู่ความปั่นป่วน เรียกแขกมาชุมนุมต่อต้าน สร้างความไม่สงบของบ้านเมือง นำไปสู่การประท้วงและรัฐประหารยึดอำนาจของทหารในปี 2557

หากอ่านเกมการเมือง แม้จะผลักดันเข้าสภาในรูปแบบการตรากฎหมาย “ร่าง พรบ.”แต่จะเจอขวากหนามในสภาสูง สว.สีน้ำเงิน ไม่ต่างจากร่างแก้ไข พรบ.ประชามติ ฟันธงล่วงหน้าได้เลยว่า กฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่าน เพราะรัฐบาลแพทองธาร เจอสภาพกดดันเพื่อให้ยุบสภาหรือลาออก แม้จะเจอกลไกรัฐธรรมนูญที่อยู่ระหว่างพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ หากผลเป็นลบ มีการเปลี่ยนม้ากลางศึก เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี เทคนิครัฐบาลที่มาจากพรรคเพื่อไทย ใช้ช่องเทคนิคกฎหมาย หาก ร่าง พรบ.ถูกยับยั้ง ย่อมนำมาปัดฝุ่นใหม่ ภายในกรอบเวลา 180 วัน ย่อมเป็นเกมเสี่ยงในมิติทางการเมือง กระแสจะปมจะร้อนแรงลุกลาม ประชาชนต่อต้านเพื่อควักมือทหารเข้ามายึดอำนาจ ไม่ต่างจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ฯอดีตนายกรัฐมนตรี ในอดีตที่ผ่านมา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'โอ๊ค' เข้าเยี่ยม 'ทักษิณ' คุยเรื่องหลานๆ พร้อมฝากให้กำลังใจ 'ยศชนัน'

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน กรุงเทพมหานคร ระหว่างการเดินทางเข้าเยี่ยม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการเข้าเยี่ยมครั้งที่ 27 ภายหลังถูกคุมขังครบ 3 เดือน เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา การเข้าเยี่ยมครั้งนี้มี นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค บุตรชายคนโตของนายทักษิณ ชินวัตร

ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัดบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคใดชนะเบ็ดเสร็จ

“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ระบบ “บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ” เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคการเมืองใด ชนะเลือกตั้งเบ็ดเสร็จ เปิดตัวทีม “ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี” ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้

'อนุทิน' ระวัง! ติดกับดักตัวเอง ปมคำถามประชามติ

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี วางกับดักตัวเอง ในการส่งคำถามประชามติของคณะรัฐมนตรี

‘อิ๊งค์-ปอ’ เข้าเยี่ยม ‘ทักษิณ’ คุยแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ฝากกำลังใจยศชนัน

“อิ๊งค์-ปอ” ตัวแทนครอบครัวเข้าเยี่ยม “ทักษิณ ชินวัตร” ครั้งที่ 26 ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม เผยมีการพูดถึงแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย พร้อมส่งกำลังใจให้ “ศ.ยศ

ดร.ณัฏฐ์ เตือนกฎเหล็กเลือกตั้ง ยุบสภาแล้วผู้สมัคร-พรรคการเมือง ‘ห้ามแจก’ ทันที

นักกฎหมายมหาชนชี้ กฎหมายเลือกตั้งใหม่กำหนดชัด กรณียุบสภาให้นับข้อห้ามหาเสียงตั้งแต่วันยุบสภา ไม่ต้องรอ กกต.ประกาศวันเลือกตั้ง ฝ่าฝืนเสี่ยงคุก-ตัดสิทธิการเมืองยาว 20 ปี

ดร.ณัฏฐ์ ชี้ ศึกไทย-กัมพูชา เข้าข่ายเหตุจำเป็น ให้ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้

“ดร.ณัฏฐ์” ชี้  “วันเลือกตั้งวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร” ภัยสู้รบไทย-กัมพูชา ให้ยึดเหตุการณ์ใน “วันหย่อนบัตร” สิ้นสุดลงหรือไม่ เป็นเงื่อนไขให้ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้