'อนุดิษฐ์' ป้องโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทไม่ได้เอื้อเฉพาะคนกรุง แต่เพื่อคนทั้งประเทศ ลดภาระ-เพิ่มกำลังซื้อ ชี้ แนวคิดแยกจังหวัดบิดเบือนหลักรัฐเดี่ยว อันตรายต่อประเทศ
17 ก.ค.2568 - น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม (กธ.) และ อดีต สส.กทม. ให้สัมภาษณ์กับถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาลว่าใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนทั่วประเทศเพื่ออุดหนุนคน กทม. ว่าข้อกล่าวหาเช่นนี้สร้างความเข้าใจผิด และอาจไม่สอดคล้องกับหลักการของรัฐธรรมนูญ มาตรา 1 ซึ่งบัญญัติให้ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ ซึ่งหากปล่อยให้แนวคิดนี้ขยายวง อาจก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อหลักโครงสร้างรัฐเดี่ยวที่เป็นหัวใจของรัฐธรรมนูญไทย เพราะการจัดเก็บภาษีเป็นรายได้ของประเทศ ไม่ใช่ของจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง เราจึงไม่ควรมองว่าการใช้งบประมาณเพื่อสวัสดิการสาธารณะใน กทม. เป็นการเอื้อประโยชน์เฉพาะคนกรุง โครงการรถไฟฟ้า 20 บาท เป็นนโยบายสาธารณะ ที่มีเป้าหมายเพื่อลดภาระค่าเดินทางของประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการเพิ่มกำลังซื้อ ไม่ได้จำกัดเฉพาะคน กทม. เท่านั้น คนไทยทุกคนที่ขึ้นรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะมีทะเบียนบ้านอยู่จังหวัดไหน ก็ได้รับสิทธิเท่ากันหมด คนจากภาคกลางอีสาน ใต้ เหนือ ตะวันออก ที่เข้ามาทำงานหรือท่องเที่ยวใน กทม. ล้วนได้รับประโยชน์จากนโยบายนี้
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ยกตัวอย่างตัวเลขจากเอกสารงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่ระบุว่า การจัดเก็บภาษีของรัฐบาลมาจากกรุงเทพฯ เป็นจำนวนร้อยละ 48.29 ของรายได้รวมทั้งประเทศ ขณะที่ภาคอื่น ๆ เช่น ภาคกลางจัดเก็บได้จำนวนร้อยละ 20.82 ภาคตะวันออกร้อยละ 24.30 ภาคเหนือจัดร้อยละ 1.95 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 2.88 และภาคใต้ร้อยละ 1.76 ตนเชื่อว่าหลายคนอาจยังไม่เห็นภาพรวมว่า กทม.ไม่ได้เป็นฝ่ายที่รอรับความช่วยเหลือจากรัฐเพียงฝ่ายเดียว ในทางกลับกัน กทม.มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดเก็บรายได้ของประเทศ ซึ่งเราควรพิจารณาให้รอบด้านก่อนจะสรุปว่าใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบพรรคการเมืองบางพรรคที่พยายามชี้นำให้ประชาชนมองการใช้งบประมาณผ่านมุมมองแยกจังหวัด ถ้ามองแบบนั้น ประเทศเราก็ไม่ต่างจากสหรัฐอเมริกาที่รัฐต่าง ๆ ปกครองตนเอง แล้วเราจะเอาเงินจากภาคกลางลงไปช่วยภาคใต้ได้หรือไม่ ความคิดนี้อันตรายต่อความเป็นรัฐเดี่ยว และจะทำให้จังหวัดที่ยากจนไม่สามารถพัฒนาตนเองได้เพราะไม่มีรายได้เพียงพอ
“นโยบายที่ดีควรยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในทุกพื้นที่ โดยไม่แบ่งแยกภูมิภาค และการบิดเบือนข้อมูลเพียงเพื่อหวังผลทางการเมืองนั้น เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ผมขอให้ทุกฝ่ายกลับมามองที่เจตนารมณ์ของโครงการนี้ว่า รัฐบาลต้องการลดภาระให้กับประชาชนทั้งประเทศ มิใช่การเอื้อประโยชน์ให้คนกรุงเทพฯ เท่านั้น เพราะการลดภาระค่าเดินทางของทุกคน ก็คือการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชนนั่นเอง” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุดิษฐ์' สวนแรงดีแต่พูดไม่เคยเปลี่ยน
'อนุดิษฐ์' ชี้การเมืองต้องพาประเทศไปข้างหน้า ไม่ใช่ลากประเทศกลับไปซ้ำรอยเดิม ซัด 'พรรคดีแต่พูด' ไม่มีสิทธิ์สอนคุณธรรม ทั้งเคยหนุนปฏิวัติ หนีความรับผิดชอบ ปล่อยเศรษฐกิจพัง แถมตระบัดสัตย์ทางการเมือง
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัดบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคใดชนะเบ็ดเสร็จ
“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ระบบ “บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ” เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคการเมืองใด ชนะเลือกตั้งเบ็ดเสร็จ เปิดตัวทีม “ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี” ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้
'อนุทิน' ระวัง! ติดกับดักตัวเอง ปมคำถามประชามติ
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี วางกับดักตัวเอง ในการส่งคำถามประชามติของคณะรัฐมนตรี
ดร.ณัฏฐ์ เตือนกฎเหล็กเลือกตั้ง ยุบสภาแล้วผู้สมัคร-พรรคการเมือง ‘ห้ามแจก’ ทันที
นักกฎหมายมหาชนชี้ กฎหมายเลือกตั้งใหม่กำหนดชัด กรณียุบสภาให้นับข้อห้ามหาเสียงตั้งแต่วันยุบสภา ไม่ต้องรอ กกต.ประกาศวันเลือกตั้ง ฝ่าฝืนเสี่ยงคุก-ตัดสิทธิการเมืองยาว 20 ปี
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ ศึกไทย-กัมพูชา เข้าข่ายเหตุจำเป็น ให้ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้
“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ “วันเลือกตั้งวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร” ภัยสู้รบไทย-กัมพูชา ให้ยึดเหตุการณ์ใน “วันหย่อนบัตร” สิ้นสุดลงหรือไม่ เป็นเงื่อนไขให้ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ได้
'นิกร' หวัง 29 มี.ค.2569 เลือกตั้งพร้อมทำประชามติ
'นิกร' เชื่อลงล็อก 29 มี.ค.69 เลือกตั้งพร้อมทำประชามติ ประหยัดงบ 5 พันล้าน รับ วาระสามล่อแหลมเหตุใช้เสียง 1 ใน 3 มอง สส.-สว. ต้องคุยทำความเข้าใจ

