"คณะรวมพลังแผ่นดิน" แถลงการณ์ประณามกัมพูชาโจมตีพลเรือนไร้มนุษยธรรม พร้อมเรียกร้องให้นายกฯแพทองธารลาออกทันที พรรคร่วมรัฐบาลต้องถอนตัว และให้ประชาชนคนไทยใช้อำนาจอธิปไตยตามรัฐธรรมนูญทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน นัดชุมนุมปกป้องอธิปไตย 27 ก.ค.นี้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
24 กรกฎาคม 2568 - ที่โรงแรมรัตน์โกสินทร์ คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิไตย แถลงข่าวถึงเหตุการ์ความรุนแรงที่ชายแดนไทยกัมพูชา นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้อ่านแถลงการณ์คณะ“รวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย”วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2568
คณะรวมพลังแผ่นดินได้ออกแถลงการณ์และจัดชุมนุม เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2568 เรียกร้องให้ 1.นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ลาออกทันที2. พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลทันที 3. ให้ประชาชนคนไทยใช้อำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ ร่วมมือร่วมใจสามัคคี ลดเงื่อนไขความขัดแย้ง แสดงตนเพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจ ยืนเคียงข้างทหาร ร่วมกันทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน และอำนาจอธิปไตยของชาติอย่างกล้าหาญมั่นคง และร่วมกันปรึกษาหารือแนวทางแก้ไขปัญหาบ้านเมืองตามวิถีทางการปกครองระบอบประชาธิปไตย และเพณีการปกครองที่เหมาะสมกับสถานการณ์และลักษณะสังคมไทย โดยยึดถือหลักศีลธรรม หลักความสุจริต หลักสิทธิมนุษยชน หลักนิติธรรม และหลักธรรมาภิบาล
มาจนถึงวันนี้ แม้แต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร หยุดปฎิบัติหน้าที่แล้ว แต่ก็มิได้ลาออกทั้งพรรคร่วมรัฐบาลก็มิได้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล แต่ยังคงอุปถัมภ์เอื้อประโยชน์ แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน รวมถึงครอบครัว เครือญาติ และพวกพ้อง ตลอดจนดำรงความมุ่งหมาย แสวงหาผลประโยชน์จากประเทศชาติ และประชาชนโดยไม่เป็นธรรม ไม่น่าเชื่อถือด้านความซื่อสัตย์สุจริตและจริยธรรมสร้างภาระแก่ประเทศชาติและประชาชนเกินความจำเป็น ผลักดันนโยบาย ออกกฏหมาย จัดทำข้อตกลงเพื่อประโยชน์ตนเองและเพื่อให้ต่างชาติ อริราชศัตรู ถือครองดินแดนแผ่นดินไทย ทำให้สูญเสียสิทธิในทรัพยากรของประเทศ อันมีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยและพื้นที่นอกอาณาเขต ซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฏหมายระหว่างประเทศ กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม การค้า การลงทุน ของประเทศชาติ ประชาชนคนไทยอย่างกว้างขวาง รวมถึงกระทบต่อศาสนา หลักศีลธรรมอย่างรุนแรง
ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังเป็นชนวนเหตุสำคัญก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างไทย – กัมพูชา จนทหารได้รับบาดเจ็บสาหัส สูญเสียขาจากกับระเบิดที่กัมพูชามาวางในแผ่นดินไทย และขยายผลในการสู้รบกันด้วยกำลังและอาวุธ ทั้งมีการโจมตีเป้าหมายที่อยู่อาศัยของประชาชนคนไทยจนประชาชน โจมตีโรงพยาบาลและสถานที่ที่ไร้เป้าหมายทางการทหาร เป็นผลให้คนไทยและเด็กเล็กเสียชีวิตทันทีหลายคนอย่างไร้มนุษยธรรม
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนเป็นผลมาจากการจงใจดำเนินการทางการทูตที่อ่อนแอ ล้มเหลว เอื้อประโยชน์ต่อกัมพูชา มีการแทรกแซงการปฎิบัติหน้าที่ทั้งการข่าวและภารกิจไม่สนองตอบต่อยุทธศาสตร์ยุทธวิธีของกองทัพ สภาความมั่นคงแห่งชาติ และหน่วยงานความมั่นคง ทั้งยังมีการจัดตั้งคณะทำงานที่ซ้ำซ้อน ไร้ประสิทธิภาพ ไร้อำนาจเต็มทางกฎหมาย สร้างความสับสน เสมือนแสดงออกซึ่งเจตนาการไม่ยอมรับต่อการปฎิบัติหน้าที่ของกองทัพ สภาความมั่นคงแห่งชาติ และหน่วยงานความมั่นคง
คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยเห็นว่า การดำรงอยู่ของรัฐบาลสร้างความกระทบเทือนเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐในทุกมิติ รวมถึงเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ของชาติ สาธารณสมบัติของแผ่นดิน กระทบต่อความไว้วางใจ ความสงบสุขเรียบร้อยของประเทศชาติ และประชาชนคนไทยอย่างรุนแรงที่สุด
คณะรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องธิปไตย จึงขอเรียกร้องประชาชนคนไทย ร่วมกันทำหน้าที่ของปวงชนชาวไทย ป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิ อำนาจอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สนับสนุนภารกิจของกองทัพ หน่วยงานความมั่นคง ไม่ว่าด้านกฎหมายในการประกาศกฎอัยการศึกตลอดแนวชายแดนและพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ด้านการเงินและด้านอื่นใดด้วยความสามัคคี เต็มความสามารถ
ขอเรียกร้องให้รัฐบาล 1.ยุติการแทรกแซงกิจการภารกิจของกองทัพและหน่วยงานความมั่นคงทันที 2.ยกเลิกคณะทำงานทีมไทยแลนด์ (ศก.ทบ.) และสนับสนุนดำเนินการตามยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี แนวทางนโยบายของกองทัพ สภาความมั่นคงแห่งชาติ และหน่วยงานความมั่นคง 2.ยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ 2543 (MOU43) แผนแม่บท (TOR46) บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิ์ในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน (MOU44) และแถลงการณ์ร่วม (JC44)
รัฐบาลต้องไม่เปิดโอกาสให้ต่างชาติไม่ว่าจะเป็นอเมริกา อิสราเอล ยุโรป จีน รัสเซีย หรือประเทศอื่นใด แทรกแซงสถานการณ์ รวมถึงให้หยุดการซ้อมรบกับนานาประเทศทันที ,ให้รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศแถลการร์ประณามกัมพูชา และรายงานต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทันที เพื่อให้สามารถใช้กำลังในการป้องกันตนเองอย่างเต็มที่โดยชอบธรรมถูกต้องตามกฎมายระหว่างประเทศ,ให้รัฐบาลทั้งคณะลาออกทันที
คณะรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย ขอประณามการกระทำที่รุนแรง ไร้มนุษยธรรม ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชาขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมแสดงพลังปกป้องอธิปไตย ในฐานะประชาชนคนไทยตามสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ในวันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฉเล่ห์เขมร ส่งหนังสือเจรจาหยุดยิง เสนอให้ถอยกำลังทหารกลับไปจุดเดิมก่อนปะทะ
พลตรีสุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่พลเอก เตีย เซรย ฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกมา ชี้แจงหนังสือที่ส่งถึงไทยไม่ใช่เป็นการขอเจรจาหยุดอิงว่า เรื่องของการหยุดยิงหรือไม่หยุดยิงนั้นได้ มีการชี้แจงไปแล้วในช่วงการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ
กต. เร่งชี้แจงทูตอินเดีย รื้อถอนสิ่งก่อสร้างเพื่อควบคุมพื้นที่ ไม่ใช่เทวสถาน
นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงแนวทางของกระทรวงการต่างประเทศ ต่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการประชุม เช่น วานนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ในหลวง โปรดเกล้าฯ พระราชทานความช่วยเหลือแก่กำลังพล-ประชาชนในพื้นที่ชายแดน
พระเจ้าอยู่หัวฯพระราชทาน ความช่วยเหลือแก่กำลังพล-ประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ พร้อมให้พิจารณาสิทธิพิเศษเพิ่มเติมแก่ทหาร-ครอบครัวที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
กองทัพแจงรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแปลกปลอมในพื้นที่อธิปไตยไทย ไม่ใช่ศาสนสถาน
ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ตามที่มีการเผยแพร่ภาพและคลิปวิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างซึ่งมีลักษณะคล้ายประติมากรรมทางศาสนา ในพื้นที่ใกล้แนวชายแดนไทย–กัมพูชา จนก่อให้เกิดความห่วงกังวลและการตีความที่หลากหลายในสังคมนั้น
เสธ.ทบ. ลั่นจุดยืนไทย กัมพูชาต้องประกาศหยุดยิงก่อน ไม่ใช่หยุดพร้อมกัน
พลเอกชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย -กัมพูชาโดยทั่วไป ซึ่งปัจจุบันยังเป็นไปตามเป้าหมายของกองทัพที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งขั้นตอนต่อไปก็ยังเดินไปตามแผนที่เราได้คาดการณ์ไว้เหลืออีกเพียงบางส่วน ซึ่งในพื้นที่ปฏิบัติการจะดำเนินการให้แล้วเสร็จ โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้
นายกฯ ลั่นทำลายรูปปั้นสัญลักษณ์เขมร เทียบไม่ได้กับทหารไทยขาขาด มองอินเดียตำหนิ ให้เป็นเรื่องแค่ 2 ประเทศ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ภายหลังมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปหรือ GBC ระดับเลขานุการ ระหว่างฝ่ายไทยและกัมพูชาที่ จ.จันทบุรี

