'เพื่อไทย' แนะรัฐอย่าด่วนปลดโรคโควิดพ้นยูเซ็ป โยนภาระให้ประชาชน ทั้งๆที่มีเงินกู้ 1.5ล้านล้าน

เพื่อไทย แนะรัฐทบทวนอย่าด่วนปลดโรคโควิดพ้นยูเซ็ป เหตุผู้ติดเชื้อรายวันยังพุ่ง ข้องใจ ใช้งบเงินกู้ 1.5 ล้านล้านแก้โควิดถูกต้องตามวัตถุประสงค์การกู้หรือไม่

13 ก.พ. 2565 น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลทบทวนการปลดโรคโควิด-19 ออกจากบริการยูเซ็ป (UCEP) หรือสิทธิรักษาฟรีสำหรับอาการป่วยฉุกเฉิน ซึ่งจะทำให้ประชาชนเข้ารับการรักษาได้เฉพาะกับโรงพยาบาลที่ตนเองมีสิทธิเท่านั้น เช่น สิทธิบัตรทอง ประกันสังคม ประกันสุขภาพ สวัสดิการข้าราชการ มีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 1 มีนาคม 2565 จากเดิมที่ผู้ถือบัตรสวัสดิการดังกล่าวสามารถเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชนใดก็ได้เมื่อติดเชื้อโควิด-19

ทั้งนี้มองว่าการปลดโรคโควิด-19 ออกจากยูเซปจะสร้างผลกระทบและสร้างความยุ่งยากให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ยิ่งในขณะนี้ที่มีผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่มีการระบาดหนักและแพร่กระจายเร็ว ยอดติดเชื้อต่อวันเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเกินหมื่นคนใกล้เคียงกับการระบาดในระลอกที่ 1 จึงมีความกังวลว่าจะเกิดกรณีเตียงไม่เพียงพออีกครั้ง และจะยิ่งสร้างแรงกดดันมายังระบบสาธารณสุขซ้ำรอยการระบาดในช่วงที่ผ่านมาหรือไม่

น. ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า ในกรณีที่ประชาชนถือบัตรทอง แม้จะมีการปรับให้สามารถแจ้งเปลี่ยนโรงพยาบาลได้ตามถิ่นที่อยู่ปัจจุบันได้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ สปสช.เปิดให้เปลี่ยนโรงพยาบาลได้ผ่านเวปไซต์และแอปพลิเคชันเท่านั้น ในขณะที่ผู้ถือบัตรทองส่วนใหญ่เป็นผู้ยากไร้ รายได้ต่ำ บางรายอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและเข้าไม่ถึงเทคโนโลยี ไม่สามารถแจ้งย้ายโรงพยาบาลได้โดยสะดวก การปลดโควิดออกจากยูเซปจึงไม่เหมาะสมกับสถานการณ์การระบาดของโรคและภาวะเศรษฐกิจปากท้องที่ยังไม่ฟื้นตัวในขณะนี้

“อยากให้รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขคิดให้รอบด้าน อย่าเพิ่งตัดโควิดออกจากยูเซปในภาวะที่การระบาดยังคงต่อเนื่องและสูงขึ้น ในขณะที่คนไทยยังคงลำบาก คนจำนวนมากยังตกงาน ไม่มีรายได้ การเร่งปลดโควิดออกจากการรักษา เป็นเพราะรัฐมีความกังวลเรื่องงบประมาณที่ใช้ในการช่วยเหลือ สปสช. ที่ค้างจ่ายหรือไม่ หากกังวลว่าจะแบกรับภาระไม่ไหว ก็ควรใช้เงินงบประมาณใน พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วงเงินรวม 1.5 ล้านล้านบาทให้ถูกวัตถุประสงค์ ไม่ใช่โยกงบประมาณไปใช้ส่วนอื่นจนละเลยโรคระบาดที่ยังคงอยู่ หากรัฐบาลยังบริหารแบบนี้ กู้เท่าไหร่ก็ไม่พอ”นส.ธีรรัตน์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โฆษกเพื่อไทย กังขารัฐบาลโยกย้ายขรก. 122 ตำแหน่ง เดือนเดียวถูกต้องหรือไม่

ศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทยตั้งข้อสังเกตการโยกย้ายระดับสูงหลายกระทรวง รวมกว่า 122 ตำแหน่ง บางส่วนเกี่ยวโยงคดีสำคัญ พร้อมชวนสังคมจับตาว่ามีผลต่อการเลือกตั้งใหญ่หรือไม่

เรียงหน้าถล่ม ‘โฆษกเพื่อไทย’ อัดคำพูด อนุทิน ไร้วุฒิภาวะ-เสียพันธมิตร

“เพื่อไทย” ชี้ คำพูดไร้วุฒิภาวะ-เสียพันธมิตร ทำประเทศเสี่ยงทั้งอธิปไตยและเศรษฐกิจ กว่า 3 ล้านล้านต่อปี ที่ประชาชนหลายสิบล้านคนจะได้รับผลกระทบ รวมทั้งปัญหาคอลเซนเตอร์

'โฆษกรัฐบาล' ตบปาก 'ทวี-จอม' แจงยิบปมอนุมัติงบ MotoGP

'สิริพงศ์' ฟาด 'ทวี-จอม' ทำการบ้านน้อย กล่าวหา MotoGP เอื้อธุรกิจใคร ชี้จัดมา 7 ปี สนามช้างฯ ให้ใช้ฟรีมาตลอด 'อนุทิน' ทะเบียนบ้านอยู่ที่นั่นไม่แปลก ไม่ใช่คู่สัญญา ชวนไปใส่ใจโครงการ Tomorrowland 2025

โฆษกพรรคเพื่อไทยตั้งคำถามรัฐเร่งเจรจาต่อสัญญา MotoGP เพื่อประโยชน์ของใคร

นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ตั้งคำถามเร่งเจรจาต่อสัญญา MotoGP เพื่อประโยชน์ของใคร?การใช้กิจกรรมกีฬาขนาดใหญ่ในการดึงดูดการท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่ดีนะครับ

เพื่อไทยจับตาตั้ง รมว.ยุติธรรม-มหาดไทย-คมนาคม ห่วงเรื่องที่ดินเขากระโดงและคดีฮั้ว ส.ว.

นายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีที่หลายฝ่ายออกมาตั้งข้อสังเกตถึงบุคคลที่จะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคภูมิใจไทยตาม MOA ของพรรคประชาชน