ถึงเวลาเปลี่ยนแล้ว! 'กรณ์' ลั่น 2 ปี 'กล้า' มาถูกทางพร้อมลุยเลือกตั้งใหญ่

‘พรรคกล้า’ ทำบุญครบ 2 ปี ‘กรณ์’ ประกาศถึงเวลาเปลี่ยนแล้ว ประชาชนต้องมีทางเลือกใหม่ ย้ำหลักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เข้มแข็ง ยึดถืออุดมการณ์เสรีนิยมประชาธิปไตย

14 ก.พ. 2565 – พรรคกล้า จัดงานทำบุญครบรอบ 2 ปี วันก่อตั้งพรรค โดยทำบุญทำพิธีศาสนาอิสลามและศาสนาพุทธตั้งแต่ช่วงเช้า มีผู้บริหารพรรค สมาชิกพรรค ผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จากภาคต่างๆ ผู้เสนอตัวสมัคร ส.ก. และผู้สนับสนุนพรรค มาร่วมงานจำนวนมาก

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันดี เป็นวันแห่งความรัก เป็นวันครบรอบวันจดทะเบียนชื่อพรรค เป็นวันเริ่มต้นเส้นทางทำงานการเมืองคุณภาพ เวลาผ่านไป 2 ปี พรรคกล้ามีโอกาสช่วยเหลือประชาชน ทำภารกิจสำคัญให้กับบ้านเมืองมากมาย ทั้งที่ยังไม่มีใครมีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ได้พิสูจน์ตัวเองในสนามการเมืองมาหลายสนาม จึงมีความพร้อม ความมุ่งมั่นตั้งใจ ใกล้เวลามากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะมีโอกาสได้เสนอแนวความคิดและตัวบุคลากรคุณภาพ ให้ประชาชนมีโอกาสได้เลือก ในสนามเลือกตั้งใหญ่ที่คิดว่าจะมาถึงในอีกไม่ช้า

นายกรณ์ กล่าวถึงหลักการของพรรคว่า พรรคกล้ายึดหลักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ต้องเข้มแข็ง โดยเฉพาะความเป็นชาติคือสังคมต้องเข้มแข็ง ความขัดแย้งทั้งหมดที่ผ่านมา ต้องก้าวข้ามให้ได้ เศรษฐกิจต้องเข้มแข็ง ซึ่งวันนี้ประชาชนสัมผัสได้ถึงความเดือดร้อนเรื่องปากท้อง และหลักการที่พรรคกล้ายึดถือมาตลอดคือหลักเสรีนิยมประชาธิปไตย ยอมรับในความเป็นอิสระส่วนบุคคล ที่จะคิดจะทำอะไรก็ได้ ตราบใดที่ไม่ได้มีผลกระทบต่อผู้อื่น ไม่ได้มีผลกระทบในแง่ลบต่อสังคม ยอมรับความแตกต่างความหลากหลาย ยึดหลักเสียงข้างมากแต่ต้องให้เกียรติเสียงข้างน้อย แต่ในช่วงที่ผ่านมาเรื่องนี้ขาดหายไปจากการเมืองไทย และทำให้เราติดกับดักความขัดแย้ง ทำให้ประเทศชาติไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ ส่วนหลักการปฏิบัติ เรามุ่งมั่นลงมือทำ ด้วยหลักปฏิบัตินิยม อยู่บนโลกความเป็นจริง เอาผลลัพธ์เป็นที่ตั้ง โดยเป้าหมายหลักคือเรื่องปากท้อง เรื่องเศรษฐกิจ ส่วนเครื่องมือสำคัญที่จะใช้ในการสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชน คือการให้ความสำคัญในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ตอบโจทย์ปัญหาความท้าทาย ทั้งหมดนี้คือแนวความคิดความตั้งใจของพรรคกล้า และนโยบายทั้งหมดที่จะนำเสนอต่อพี่น้องประชาชน

ส่วนการส่งผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนั้น นายกรณ์ กล่าวว่า เป้าหมายพรรคกล้าตอนนี้อยู่ที่สนามเลือกตั้งใหญ่เป็นหลัก เพราะรัฐบาลยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เมื่อใด ในวันที่รัฐบาลมีความชัดเจน พรรคกล้าก็จะมีความชัดเจน ซึ่งตนเองพูดเรื่องนี้มาโดยตลอด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือเลือกตั้งใหญ่ก่อน แต่พรรคกล้าก็มีการเตรียมชุดความคิดในแง่นโยบายว่าอยากจะทำงานให้คนกรุงเทพฯ การพัฒนาความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ ทำมาหากินโดยสะดวก มั่นใจว่าเทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญมากในการเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองในฝันของพวกเราทุกคน

นายกรณ์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมสนามเลือกตั้งใหญ่ว่า ตอนนี้มีปัญหาความเดือดร้อนที่ประชาชนรอคอยการแก้ไข แต่ดูเหมือนรัฐบาลขาดสมาธิ ขาดความคิดใหม่ๆ ที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน สถานการณ์รอบตัวลักษณะนี้ อดคิดไม่ได้ว่าการเลือกตั้งอาจจะเร็วกว่าที่คิดก็ได้ ซึ่งเราก็ต้องเตรียมความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเดือนนี้หรือเดือนหน้า ก่อนหรือหลังพฤษภาคม ปีนี้หรือต้นปีหน้าก็ตาม มีเวลาเหลืออีกไม่เยอะ ซึ่งผลการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา สะท้อนว่าประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลง และบ่งบอกว่าพรรคกล้ามาถูกทางแล้ว นำเสนอทางเลือกใหม่และว่าที่ผู้สมัครคนใหม่ เชื่อว่าทั้งหมดคือสิ่งที่สังคมต้องการ

สำหรับการวางเป้าหมายส่งผู้สมัครนั้น หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า ด้วยกติกาการเลือกตั้งและด้วยความที่ยังเป็นพรรคการเมืองใหม่ การส่งผู้สมัครลงทุกเขตคงเป็นไปได้ยาก เพราะฉะนั้นก็จะเลือกเขตที่มองว่ามีโอกาส มีผู้สมัครที่พร้อม และเป็นผู้สมัครที่มีชุดความคิดตรงกับอุดมการณ์ของพรรคชัดเจน ซึ่งก็มีอยู่ไม่น้อย ไม่ดันทุรังส่งผู้สมัครที่ไม่พร้อม แต่เบื้องต้นยังไม่ได้ประเมินถึงจำนวน แต่เชื่อว่าพรรคกล้าจะเข้าไปเป็นส่วนสำคัญ ในสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาลรอบหน้า ย้ำว่าพรรคมีความตั้งใจเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ไม่ได้ตั้งพรรคมาเพื่อเป็นพรรคสำรองของใคร และจะเสนอหัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

“ช่วงที่ผ่านมาความเดือดร้อนของประชาชนชัดเจน แต่ประชาชนก็มีความรู้สึกว้าเหว่ มีความรู้สึกว่ารัฐบาลขาดความคิดหรือสมาธิมาใส่ใจแก้ปัญหา เมื่อวันก่อนคณะของพวกเราที่กรุงเทพฯ ลงไปพบปะพี่น้องประชาชนเรื่องหนี้สิน ถือเป็นปัญหาหนักมากทั่วประเทศ เศรษฐกิจแย่อยู่แล้ว เจอโควิดเข้าไปอีก โอกาสทำมาหากินไม่มี ค่าใช้จ่ายไม่ลดลง สิ่งที่ตามมาก็คือหนี้สินที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น โอกาสเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ ที่มีอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมก็ยาก ต้องหันไปพึ่งนายทุนนอกระบบ แต่อัตราดอกเบี้ยโหดมาก ไม่สามารถอยู่ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็อดคิดไม่ได้ว่า ความเดือดร้อนประชาชนที่ชัดเจน แต่ทำไมถึงไม่มีข้อเสนอแนวความคิดความตั้งใจที่จะมาดูแล โดยผู้ที่ยังอยู่ในอำนาจ เพราะเหตุนี้ประชาชนถึงมองว่า ถึงเวลาเปลี่ยนได้หรือยัง ถึงเวลาที่จะมีคณะบุคคล ที่มีแนวความคิดความตั้งใจและสมาธิในการทำงานตามภารกิจที่มอบหมาย และยิ่งเห็น ส.ส.ในสภา เข้าประชุมบ้างไม่เข้าประชุมบ้าง ยิ่งทำให้ประชาชนเสียกำลังใจ อดมีคำถามไม่ได้ว่า ทั้งหมดที่เลือกมาเพื่ออะไร เพราะฉะนั้นถึงเวลาที่ต้องมีการเมืองคุณภาพ ถึงเวลาที่ประชาชนต้องมีทางเลือกใหม่แล้ว” หัวหน้าพรรคกล้า ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เผยรัฐบาลผลักดัน นวดไทย-อาหารไทย-สมุนไพรไทย เป็น Soft Power

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกา

รัฐบาลลุยต่อยอด 'ผ้าขาวม้าไทยฟีเวอร์' ขยายตลาดช่วยชุมชนโกยรายได้

รัฐบาลเดินหน้าส่งเสริมต่อยอด 'ผ้าขาวม้าไทยฟีเวอร์' เพิ่มมูลค่าขยายตลาด ช่วยผู้ประกอบการชุมชนโกยรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

เช็กเงื่อนไข 'ครอบครัวอุปถัมภ์' ผู้สูงอายุ รับเดือนละ 3 พัน

'รองโฆษกรัฐบาล' เผยเงื่อนไขคุณสมบัติ 'ครอบครัวอุปถัมภ์' ผู้สูงอายุ มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 3 พันบาท เริ่มยื่นเรื่องได้ตั้งแต่เดือน พ.ค.