'โรม' เปิดข้อมูลละเอียดยิบแก๊งสแกมเมอร์กัมพูชา บี้ 'อนุทิน' จัดการเด็ดขาดอย่าอืดอาดเหมือนสมัย มท.1


“โรม” ร่ายยาว เปิดข้อมูล “เบนจามิน” ที่ปรึกษาฮุนเซน เครือข่ายสแกมเมอร์ เชื่อมโยงนักการเมืองไทย “อนุทิน” อย่าซ้ำรอยรัฐบาลเดิม บอก คิดผิดฝากความหวังทหารแก้ปัญหาชายแดน ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน

30 กันยายน 2568 - เมื่อเวลา 14.30 น. นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่า ตอนนี้ไทยและกัมพูชาเรามีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อกัน เริ่มจากความขัดแย้งของสองครอบครัวนำไปสู่ความขัดแย้งเรื่องอื่นๆ ที่ทำให้การแก้ไขปัญหาของสองประเทศทำได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเขตแดน ปัญหาสามประสาท การเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งการรุกล้ำของคนกัมพูชาที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทยซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการทุจริตคอร์รัปชั่นของผู้มีอำนาจตามแนวชายแดน ไปจนถึงเรื่องปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติซึ่งเกี่ยวพันกับการค้ามนุษย์และฟอกเงิน ซึ่งถือเป็นความซับซ้อนหรือถูกซุกไว้ใต้พรมเป็นเวลานาน

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ดังนั้น นโยบายของนายกรัฐมนตรีที่จะเร่งแก้ปัญหาระหว่างข้อพิพาทไทยกัมพูชา ตลอดจนการรักษาหลักนิติรัฐนิติธรรมโดยเฉพาะในเรื่องปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ภัยไซเบอร์ ซึ่งต้องทำไปพร้อมกัน จึงจะสร้างความมั่นคงสถาพรให้กับทั้งสองชาติได้ เรื่องสแกมเมอร์ ข้อมูลจากองค์กรกาซ่าที่พัฒนารายงาน ร่วมกับบริษัทพัฒนาแอพพลิเคชั่นฮูคอล (Who Call) เคยระบุไว้ในรายงานว่าในปีนี้ย้อนหลังไป 12 เดือนก่อนหน้า คนไทยสูญเสียเงินให้กับสแกมเมอร์มากกว่า 1 แสนล้านบาท โดยเส้นเงินส่วนใหญ่สามารถระบุได้ว่าอยู่ที่กัมพูชา และสแกมเมอร์ที่ตั้งอยู่ที่กัมพูชา ยืนยันแล้วว่ามีทั้งหมด 53 แห่ง โดยสแกมเมอร์ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ตามแนวชายแดนไทยเพราะต้องพึ่งพาทรัพยากรที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นน้ำ ไฟ หรืออินเตอร์เน็ต เครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวละครสำคัญของแก๊งสแกมเมอร์ ได้แก่ ก๊กอาน ที่เป็นสมาชิกวุฒิสภาของกัมพูชา และมีฉายานามว่าเป็นราชาแห่งปอยเปต เป็นเจ้าของกาสิโนและตึก 18 ชั้น ตึก 25 ชั้น เป็นหัวขบวนคนสำคัญของแก๊งสแกมเมอร์ ปัจจุบันถูกออกหมายจับโดยทางการไทยในข้อหาอาชญากรรมข้ามชาติ และนำไปสู่การยึดทรัพย์สินมากมาย แม้จะยังจับกุมไม่ได้แต่ถือเป็นคดีเดียวที่มีความก้าวหน้ามากที่สุด ลี ยง พัด หรือคนที่ได้รับฉายาว่าราชาแห่งเกาะกง หรือที่ชาวจังหวัดตราดเรียกว่าเสี่ยพัด ข้อมูลจากทางการสหรัฐอเมริการะบุไว้ว่ามีสัญชาติไทยและกัมพูชา เป็นผู้ก่อตั้ง LYP กรุ๊ป และโอร์เสม็ดรีสอร์ท รวมถึงถูกคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังดำรงตำแหน่งประธานสมาคมออกญาของกัมพูชาด้วย มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับศูนย์กลางอำนาจของกัมพูชาอย่างแนบแน่น

นายรังสิมันต์ ระบุว่า อย่างไรก็ตาม ลี ยง พัด ถูกเพิกเฉยโดยตำรวจเรากำลังเกรงใจใครอยู่หรือไม่ ทั้งนี้ ตนอยากให้นายกรัฐมนตรีรับปากว่าจะไม่ปล่อยผ่านเหมือนที่เคยผ่านมา คนต่อมาคือ ฮุน โต เป็นลูกพี่ลูกน้องของฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก่อนอื่นขอเท้าความว่า ฮุยวัน กรุ๊ป ถูกหน่วยงานทางการของสหรัฐฯ กำหนดให้เป็นสถาบันการเงินที่น่ากังวลต่อการฟอกเงิน เนื่องจากพบหลักฐานว่าฮุยวัน กรุ๊ป ถูกนำมาใช้เพื่อการฟอกเงินจากการหลอกลวงเงินที่ไหลเวียนแบบผิดกฎหมายมากถึง 4 พันล้านดอลลาร์ผ่านบริษัทลูก 3 แห่งในเครือ หนึ่งในนั้นได้แก่ ฮุยวัน เพย์ ที่ฮุน โต เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีตัวละครที่สำคัญอีกคือเป็นธนาคาร ของธนาคารที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นซ่องสุม ฟอกเงิน โดยมีทั้งคนไทยและคนกัมพูชาเข้าไปใช้บริการ ธนาคารแห่งนี้มีชื่อว่า BIC Bank ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบีไอซีกรุ๊ป มีประธานบริษัทชื่อว่ายิม เลียก ซึ่งเป็นบุตรชายของยิมไซลี อดีตรองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยยิม เลียก มีพี่สาวแต่งงานกับตระกูลฮุน เขาจึงไม่ใช่บุคคลธรรมดาแต่เป็นคนที่มีคอนเน็กชันทั่วกัมพูชา อีกทั้งยังมีหุ้นส่วนที่สำคัญคือนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ เบน สมิธ เป็นชาวแอฟริกาใต้ มีภรรยาเป็นคนไทยชื่อน.ส.แคทรียา บีเวอร์ โดยนายเบนจามิน มีประวัติเคยทำธุรกิจหลอกลวงเป็นคอลเซ็นเตอร์รุ่นดั้งเดิม นอกจากนี้ ยังเคยพบว่ามีการพยายามขายหุ้นที่น่าสงสัยโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ถูกศาลในนิวซีแลนด์ปรับเนื่องจากหนีหมายศาล และยังมีข้อมูลอีกว่านายเบนจามิน มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจหลอกลวงที่ชื่อว่าเทียนเทียนเวนเจอร์ ที่ในอดีตเคยหลอกให้คนไทยไปลงทุน

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม นายเบนจามิน ยังถือว่ามีส่วนสำคัญในการสร้างอาณาจักรบีไอซี ของนายยิม เลียก โดยในรายงานของบีไอซีแบงค์ เมื่อปี 2023 ยังพบว่านายเบนจามินและนายยิม เลียก ถ่ายรูปเคียงข้างกันระหว่างเปิดสาขาของธนาคารบีไอซี และนายเบนจามินคนนี้ยังเป็นที่ปรึกษานายยิม เลียก ในการสร้างรายได้ในการฟอกเงินให้แก่ทุนจีน พัฒนาที่ดินให้เป็นคาสิโนเพื่อใช้สำหรับการฟอกเงิน โดยหนึ่งในโครงการที่ทั้งคู่อาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องคือ โครงการเมืองใหม่ดาราสาครที่ทั้งคู่จะได้รับส่วนแบ่ง 20 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่เข้ามา แล้วยังเข้าไปข้องเกี่ยวกับบริษัทลองเบย์ อย่างไรก็ตามบริษัทลองเบย์ ดาราสาคร ยังพบผู้ร่วมลงทุนคนสำคัญคือ เสอ จื้อ เจียง ผู้สร้างเมืองใหม่ชเวก๊ก โก ที่เกี่ยวข้องกับแสตมป์เมอร์และการค้ามนุษย์ในเมืองเรียวดี ประเทศเมียนมาร์

ทั้งนี้ สำหรับธนาคารบีไอซีมักจะมีผู้มีอิทธิพลนำทรัพย์สินไปฝากไว้ นักการเมืองบางคนหรือสว.ที่มีลักษณะทรงเอ เข้าใจว่าไม่ใช่ชุดนี้ ก็มีทรัพย์สินที่นั่น อย่างไรก็ตาม บีไอซีกรุ๊ปมีบริษัทตั้งอยู่ที่ประเทศไทยในอาคารเกษร อย่างไรก็ตาม ในหนังสือเดินทางของนายเบนจามิน ยังมีการระบุว่าเป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฮุนเซน พร้อมระบุชื่อนายยิม เลียก เป็นบุคคลสำหรับติดต่อฉุกเฉินอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการปรากฏภาพว่านายเบนจามิน คู่กับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่านไม่ทราบหรือว่านายเบนจามิน มีความเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ในกัมพูชา ท่านทราบหรือไม่ว่าในอดีตมีประวัติความด่างพร้อย ในฐานะที่ท่านเป็นสส.และวันนี้เป็นรองนายกฯ ท่านไม่ต้องระวังกับการคบหากับคนเทาๆ เลยหรือ รวมถึงยังมีการออกงานบุญพร้อมกัน และยังปรากฏภาพนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการร่วมด้วย พวกท่านไปรู้จักกับเจ้าพ่อสแกมเมอร์ระดับแมมมอสได้อย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่กล่าวถึงประเด็นนี้ นายรังสิมันต์ ได้เปิดภาพบุคคลที่ใบหน้าคล้าย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดดำปิดดวงตาไว้ด้วย พร้อมกล่าวว่า นอกจากนี้ยังพบว่า นายเบนจามิน ยังมีพยายามเปลี่ยนสัญชาติเป็นไทยจนถึงขั้นที่จะมีการเปลี่ยนชื่อเป็นภาษาไทยชื่อนายสาธิต ที่เขตวัฒนา ซึ่งนายอนุทินก็เคยชี้แจงว่า ไม่ได้เซ็นอนุมัติเพราะเอกสารไม่ครบ แต่ท่านรับปากกับรัฐสภาได้หรือไม่ ว่าแม้เอกสารจะครบก็จะไม่เซ็นให้สัญชาติกับใครก็ตามที่เกี่ยวกับแก๊งสแกมเมอร์

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า เรื่องเรือยอร์ช 6 ลำ ที่อดีตนายกรัฐมนตรีไทยใช้เดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ รวมถึงเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว รุ่น Bombardier Global 7500 ที่ใช้บินไปดูไบเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้ล้วนถูกจัดหาโดยนายเบนจามิน ตนหวังว่าจะเป็นเพียงเรื่องเล่า ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะหากเป็นเรื่องจริงหมายความว่า เงินจากการค้ามนุษย์ จากสแกมเมอร์ในกัมพูชา ได้แปรสภาพเป็นของขวัญสุดหรูเพื่อสร้างอิทธิพล จึงขอให้นายกรัฐมนตรีตรวจสอบเรื่องนี้ ปล่อยผ่านไม่ได้เด็ดขาด นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ในการประชุมหารือเพื่อผลักดันเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็มีนายเบนจามิน ร่วมประชุมอยู่กับอดีตนายกรัฐมนตรีด้วย นั่นเท่ากับเป็นวิธีการนำเงินผิดกฎหมายจากกัมพูชา นำเงินมาฟอกให้ถูกกฎหมายผ่านคาสิโนในประเทศไทย ซึ่งจะทำร้ายภาพลักษณ์ของประเทศไทยอย่างร้ายแรง

“จำได้หรือไม่ที่ผมบอกว่า รายได้หลัก 60 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ของกัมพูชามาจากการหลอกลวง ดังนั้น การที่ประเทศไทยจะมีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่มีวันจะกระทบต่อธุรกิจหลักของกัมพูชาอยู่แล้ว นอกจากประเทศไทยต้องการจะเป็นฐานสแกมเมอร์แห่งใหม่แข่งกับกัมพูชา ซึ่งผมไม่เชื่อว่ารัฐบาลที่แล้วจะเลวร้ายถึงขนาดนั้น ผมคาดหวังว่า ในช่วงเวลา 4 เดือน นายกรัฐมนตรีจะเอาจริงต่อปัญหานี้ อย่าให้เหมือนรอบที่แล้วเมื่อท่านดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่กว่าจะปราบได้ก็ใช้เวลามากมายเสียเหลือเกิน” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ ระบุว่า ฉะนั้น ตนเสนอแนวทางปราบปรามสแกมเมอร์ ดังนี้ 1.ตั้งศูนย์ประสานงานต่อต้านสแกมเมอร์ข้ามชาติ รวมหน่วยงานทั้ง DSI ก.ล.ต. ธปท. ปปง. กต. และอัยการสูงสุด ทำงานเชิงรุกประสานงานกับต่างชาติ แลกเปลี่ยนข้อมูล 2.ให้ DSI ตร. ปป. สอบเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับ เบน สมิธ ทั้ง ลี ยง พัด และยิม เลียก ทำลายเครือข่ายการเงินและเอเยนต์ ซึ่งตนเองมีพยานปากเอกคือ ร.อ.ธรรมนัส เชื่อว่าให้การเป็นประโยชน์ 3.ให้ ก.ล.ต.วางกฎเกณฑ์ Travel Rule มีผลกับสกุลเงินคริปโต เพื่อป้องกันการฟอกเงิน และ 4.ให้กระทรวงการต่างประเทศ ศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้กไก ICC พากัมพูชาขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ สำหรับข้อเสนอในการแก้ปัญหาชายแดนนั้น กัมพูชามีรายได้มากมายจากการหลอกคนทั่วโลก ผู้มีอำนาจในกัมพูชาไม่ต้องสนใจว่าการค้าและธุรกิจของประเทศไทยเป็นอย่างไร ตราบใดที่ตัวเลขจากสแกมเมอร์ยังเพิ่มขึ้น ความสำคัญของการค้าปกติก็จะน้อยลง ถ้านายกรัฐมนตรีจะฝากความหวังไว้กับทหารอย่างเดียว ท่านคิดผิด และจะเป็นการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาด ทั้งนายกรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม และทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาชายแดน อย่าผิดพลาดเหมือนรัฐบาลที่แล้ว เชื่อว่าแก้ปัญหาชายแดนได้ หากรายได้จากสแกมเมอร์ของกัมพูชาลดลง อะไรๆ ก็จะง่ายขึ้น

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ส่วนข้อเสนอเรื่อง MOU ไทย-กัมพูชา ที่รัฐบาลจะทำประชามติยกเลิกหรือไม่ ฟังเหมือนจะดี แต่ต้องไม่ลืมว่าเกี่ยวพันกับหลายเรื่องที่สลับซับซ้อนต้องพิจารณา ที่ผ่านมาที่ประชุมรัฐสภาเคยหารือเรื่องนี้ในการประชุมลับ แล้วเราจะเปิดเผยให้ประชาชนคนไทยรับทราบข้อมูลที่สำคัญต่อการตัดสินใจเรื่อง MOU อย่างไร โดยไม่ให้กัมพูชาล่วงรู้ ถ้ารัฐบาลจะให้ประชาชนตัดสินใจในเรื่องสลับซับซ้อนเช่นนี้ นายกรัฐมนตรีต้องทำให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลอย่างเพียงพอ นายกรัฐมนตรีต้องคิดต่อด้วยว่า หากมีการยกเลิก MOU แล้ว ก็ต้องเตรียมความพร้อมทุกฉากทัศน์ที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น การเจรจาเรื่องเขตแดน และหากยกเลิก MOU43 กัมพูชาอาจจะอ้างว่า กลไกทวิภาคีระหว่างไทยและกัมพูชาไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น จึงต้องไปศาลโลก รัฐบาลต้องคิดและเตรียมการไว้ตั้งแต่วันนี้เลย ขณะที่เรื่องชายแดนทางทะเล ตัวอย่างบริษัททุนข้ามชาติจะฟ้องไทยในอนุญาโตตุลาการหรือไม่ หากไทยยกเลิก MOU44 รัฐบาลต้องเตรียมรับมือ เพราะจะเสี่ยงทำให้ไทยต้องเสียค่าชดใช้นับหมื่นล้านด้วยภาษีของประชาชน

“ผมเองให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของชาติไทยสูงสุด การยกเลิก MOU ถ้าจะทำ ก็ต้องแน่ใจว่าเราได้อะไรกลับคืน และต้องดูว่าสุดท้ายแนวทางใดคุ้มกว่ากัน บางทีการปรับปรุง MOU ทั้ง 2 ฉบับ ท่ีตั้งอยู่บนพื้นฐานผลประโยชน์ของชาติสูงสุด อาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งก็ได้ ผมขอเตือนความจำนายกรัฐมนตรี ให้เห็นตัวอย่างจากรัฐบาลที่แล้ว ว่าผลกระทบของการมีผลประโยชน์ทับซ้อน และการขาดเจตจำนงทางการเมืองในงานความมั่นคง ส่งผลต่อชาติอย่างไร ตนเองยืนยันว่า ต้องการเห็นการถอนอาวุธหนัก การร่วมมือกันเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการปราบปรามสแกมเมอร์ นี่เป็นหนทางสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของสองประเทศ และคืนความปกติตามพื้นที่แนวชายแดน เพื่อแก้ปัญหาในเรื่องอื่นๆ ต่อไป” นายรังสิมันต์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน

'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ

เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา

"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย

โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ

โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ

สส.ปชน. เรียกร้องรัฐบาลเยียวยาน้ำท่วมภาคกลางให้มีมาตรฐานเดียวกับภาคใต้

"เต้ ทวิวงศ์​" จี้รัฐบาลอย่า 2 มาตรฐาน ช่วยน้ำท่วมใต้แล้ว หันมาช่วยน้ำท่วมภาคกลางด้วย บอก "ภราดร" ลองกลับมาถามคนอ่างทอง หากรอการเยียวยาเป็นลำดับถัดไปไหวหรือไม่ เหตุอยุธยาจมน้ำมา 4-5 เดือนแล้ว คนเสียชีวิตไปกว่า 20 ราย ชี้ ชาวบ้านต้องทำมาหากิน ควรมีมาตรการชดเชย-ช่วยเหลือเต็มรูปแบบเหมือนกัน