“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ ปมลอรี่-พงศ์พล รสทช. “กลุ่มสุดซอย” เป็นเหตุให้บริษัท “ซิน เคอ หยวน สตีล” ฟ้อง “เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” อดีต รมว.อุตสาหกรรม มูลค่า 3.2 พันล้าน และถูกร้องให้ ป.ป.ช. ดำเนินคดีอาญา
3 ตุลาคม 2568 - ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ “ดร.ณัฏฐ์” นักกฎหมายมหาชน ให้ความเห็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ กรณี นายพงศ์พล หรือ “ลอรี่” ยอดเมืองเจริญ อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ข้อความว่า “สุดซอยไป สุดส่วยมา” พร้อมระบุว่ามีทุนต่างชาติยื่นขอเปิดโรงงาน 6 แห่งในพื้นที่ที่มีปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์มหาศาล โดยมีเนื้อหาโจมตี นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ รวมถึง จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รมช.อุตสาหกรรม
ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า แม้โพสต์จะไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่ผู้คนทั่วไปย่อมทราบได้ว่าเป็นการพาดพิงบุคคลใด ซึ่งเข้าลักษณะผู้เสียหายตาม ป.วิอาญา มาตรา 2(4)
เขาอธิบายว่า คำว่า “สุดซอยไป สุดส่วยมา” มีลักษณะ “เอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่คนอื่น” และหากย้อนดูความจริง คำว่า “สุดซอยไป” ก็คือคณะสุดซอย ที่เคยถูกบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ฟ้องคดีปกครองระยอง เรียกค่าเสียหายสูงถึง 3.2 พันล้าน และถูกร้องให้ ป.ป.ช. ดำเนินคดีอาญาอีกด้วย
ดร.ณัฏฐ์ กล่าวตั้งคำถามว่า คณะสุดซอยที่นายพงศ์พลสังกัดนั้น มีความรับผิดชอบต่อความเสียหายอย่างไร จะเอาเงินจากไหนมาจ่ายเอกชน แม้กฎหมายละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 มาตรา 5 จะให้ฟ้องหน่วยงานรัฐได้ แต่หากเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจโดยไม่มีหน้าที่ ก็ต้องรับผิดส่วนตัว
เขาเสริมว่า ประชาชนบางส่วนมองว่า กลุ่มนี้ไม่ใช่ “คณะสุดซอย” แต่เป็น “คณะตีกินสุดซอย” มากกว่าหรือไม่ เพราะในบางกรณีการสั่งปิดโรงงานเหล็กถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือเปล่า โดยอ้างเรื่องมาตรฐาน ทั้งที่มาตรฐานเหล็กควรอ้างอิงผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ด่วนสรุปจากการคาดคะเน การดำเนินการในลักษณะนี้อาจกระทบต่อระบบเศรษฐกิจมหภาค และบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
นอกจากนี้ ดร.ณัฏฐ์ ยังชี้ว่า ใบอนุญาตจัดตั้งโรงงานเป็นอำนาจอธิบดีกรมโรงงาน ไม่เกี่ยวกับฝ่ายการเมือง เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลก็เปลี่ยนนโยบายได้ จึงไม่ควรถูกกล่าวหาว่า “สุดส่วยมา” เพราะเป็นเพียงการคาดคะเน ซึ่งอาจสะท้อนพฤติกรรมของผู้โพสต์เองมากกว่า
“หากประเทศได้คนอย่างนายพงศ์พลมาเป็น สส.หรือคณะทำงานสุดซอย ก็น่าจะกลายเป็นความ ‘สุดซวย’ มากกว่า เพราะการตั้งกลุ่มแบบนี้ไม่มีกฎหมายรองรับ และเข้าข่ายผิดกฎหมาย คุณใช้อำนาจอะไรไปตรวจสอบคนอื่น ควรหันไปตรวจสอบหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค มากกว่า ว่าแจ้งหรือปกปิดหุ้น ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 และ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ.2543 หรือไม่ เพราะทั้ง ป.ป.ช. และ กกต. ก็ได้รับคำร้องไว้แล้ว” ดร.ณัฏฐ์ กล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.ณัฏฐ์ ชี้ชัดบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคใดชนะเบ็ดเสร็จ
“ดร.ณัฏฐ์” ชี้ระบบ “บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ” เกิดรัฐบาลผสม ไม่มีพรรคการเมืองใด ชนะเลือกตั้งเบ็ดเสร็จ เปิดตัวทีม “ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี” ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้
“รองนายกฯ สุชาติ” เป็นประธาน กก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เห็นชอบ EIA โครงการสำคัญ แก้ปัญหาอุทกภัย–เสริมบริหารจัดการน้ำ
นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
ทส. ร่วมติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาเกาะสีชัง ตามพระบรมราโชบาย จ.ชลบุรี มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ควบคู่การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
วันนี้ (17 ธันวาคม 2568) เวลา 09.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
รองนายกฯ สุชาติ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการมรดกโลก เดินหน้าผลักดันแหล่งวัฒนธรรมไทยสู่เวทีโลก
วันที่ 16 ธันวาคม 2568 เวลา 15.00 น. ณ ห้องประชุม 1001 ชั้น 10 สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาคารทิปโก้ และผ่านระบบประชุมทางไกล นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี
รองนายกฯ “สุชาติ” สั่งการ กรมอุทยานฯ ผนึก DSI–กรมป่าไม้ ทลายโกดังไม้เถื่อนหนองคาย รวบ 4 ผู้ต้องหา ยึดไม้หวงห้ามกว่า 275 ลบ.ม.
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช บูรณาการร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และกรมป่าไม้ เร่งปราบปรามขบวนการลักลอบตัดและค้าไม้ผิดกฎหมายอย่างเข้มข้น หลังพบพฤติการณ์เชื่อมโยงขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ
รองนายกฯ สุชาติ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ สบอ.16 เชียงใหม่ รวมพลังบริจาคโลหิต หนุนทหารกล้าแนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา
นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 (เชียงใหม่) ได้นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า รวมจำนวน 100 นาย เข้าร่วมกิจกรรมบริจาคโลหิต ณ โรงพยาบาลสวนดอก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งต่อชีวิต ความหวัง และกำลังใจให้แก่ “ทหารกล้าแนวหน้า” ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสี่ยงภัย

