นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก รอบที่ 1 (Session I) ผลักดันเอเปคที่เปิดกว้าง ส่งเสริมการมีส่วนร่วม และมุ่งสู่อนาคต
31ต.ค.2568- เมื่อ เวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองคยองจู ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) ณ ห้อง 300C ศูนย์ประชุม Hwabaek International Convention Centre (HICO) เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 32 รอบที่ 1 (The 32nd APEC Economic Leaders’ Meeting – Session I) ภายใต้หัวข้อ “Towards a More Connected, Resilient Region and Beyond” พร้อมกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม โดยมีสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความขอบคุณต่อประธานการประชุมและรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลี สำหรับการต้อนรับและการจัดเตรียมการประชุมที่ยอดเยี่ยม พร้อมกล่าวต้อนรับการเข้าร่วมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในฐานะแขกรับเชิญของประธาน และขอบคุณผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ได้กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจโลกประจำปี 2025 โดยกล่าวอ้างถึงถ้อยคำของผู้อำนวยการ IMF ที่ระบุว่า “ความไม่แน่นอนคือความปกติใหม่” ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ในยุคที่โลกเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน “ความร่วมมือไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็น” พร้อมย้ำว่า เอเปกต้องคงไว้ซึ่งความเปิดกว้าง การมีส่วนร่วม และมุ่งสู่อนาคต เพื่อสร้างภูมิภาคที่มีความเข้มแข็งและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การค้าเสรีและตลาดที่เชื่อมโยงกัน คือรากฐานของความมั่งคั่งที่ยั่งยืน ไทยสนับสนุนกรอบความร่วมมือที่ทันสมัย ครอบคลุม และตั้งอยู่บนกติกาสากล เพื่อให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจ MSMEs ให้ได้รับประโยชน์จากการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค
ขณะเดียวกัน การลงทุนควรเป็นแรงขับเคลื่อนทั้งด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน โดยไทยได้ดำเนินโครงการ Thailand FastPass เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนคุณภาพในสาขาพลังงานสะอาด โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อให้การเติบโตในวันนี้ช่วยรักษาโลกให้คนรุ่นต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ภาคเอกชนคือกำลังหลักในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคต โดยการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ การเสริมสร้างทักษะด้านดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการปรับมาตรฐานดิจิทัลให้สอดคล้องกัน จะช่วยให้การค้าระหว่างเขตเศรษฐกิจมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ไทยได้รับแรงบันดาลใจจากความร่วมมือในกรอบเอเปก และได้เริ่มกระบวนการเข้าสู่การเป็นสมาชิก OECD เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการยึดมั่นต่อมาตรฐานสากลและความร่วมมือระหว่างเขตเศรษฐกิจ
ไทยยังมุ่งขยายความร่วมมือกับเขตเศรษฐกิจนอกภูมิภาค โดยในปีนี้ ไทยและจีนจะร่วมเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง และในปีหน้า ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD Ministerial Meeting) และการประชุมประจำปีของ IMF และธนาคารโลก
“การประชุมเหล่านี้จะเป็นเวทีสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างสมาชิกเอเปกและนอกเอเปก เพื่อร่วมกันรับมือกับความท้าทายและเปิดโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ เอเปกสามารถร่วมกันสร้างภูมิภาคที่เชื่อมโยง เข้มแข็ง และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น เพื่อประชาชนในวันนี้และคนรุ่นต่อไปในอนาคต” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาล อำนวยความสะดวกปชช.เดินทางวันหยุดยาวปีใหม่ เปิดใช้ทางหลวงพิเศษฟรี!หลายเส้นทาง
รัฐบาล อำนวยความสะดวกปชช.เดินทางกลับภูมิลำเนา-ท่องเที่ยว วันหยุดยาวปีใหม่ เปิดใช้ทางหลวงพิเศษฟรี!หลายเส้นทาง
นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตอิเหนาร่วมมือปราบสแกมเมอร์
นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียฯ ขอบคุณรัฐบาลไทยให้ความช่วยเหลือเหยื่อสแกมเมอร์ชาวอินโดนีเซียกลับประเทศ พร้อมเดินหน้าร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและต่อต้านลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย
เริ่มแล้ว! ไทย- UNODC จัดประชุมระดับโลกปราบสแกมเมอร์
เริ่มแล้ววันนี้! การประชุมระดับโลกปราบสแกมเมอร์ ไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับ UNODC พร้อมผนึกกำลังกับ 39 ประเทศ สร้างความร่วมมือระดับโลกรับมือปัญหาอาชญากรรมออนไลน์
รัฐบาลเตือนผู้รับสิทธิ์คนละครึ่งพลัสกว่า 14 ล้านรีบใช้สิทธิให้หมดในสิ้นปี!
รัฐบาลย้ำเตือนได้รับสิทธิ์ 'คนละครึ่งพลัส' กว่า 14 ล้านคน รีบใช้สิทธิใช้จ่ายเงินผ่านโครงการฯ ให้หมดภายใน 31 ธ.ค. นี้ เชิญชวนร้านค้าถุงเงินในโครงการคนละครึ่งพลัส รีบพัฒนาทักษะสำเร็จ ภายใน 19 ธ.ค.นี้
ฟื้นฟู หาดใหญ่ คืบหน้ากว่า 70% สั่งการเตรียมรับมือฝนหนักภาคใต้ 11–16 ธ.ค. นี้
'สิริพงศ์' เผย ฟื้นฟูหาดใหญ่ คืบหน้ากว่า 70% รัฐบาลสั่งการเตรียมรับมือฝนหนักภาคใต้ ช่วง 11–16 ธ.ค. นี้
รัฐบาลโอนเยียวยาน้ำท่วมใต้ครั้งที่ 6 'สงขลา-ตรัง' 40,935 ครัวเรือน กว่า 300 ล้านบาท
โฆษกเผยการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 แบบเหมาจ่ายในอัตราครัวเรือนละ 9,000 บาท ใน 4 รูปแบบ

