ขับเคลื่อน Happy Workplace บริษัทปลอดภัย 600 แห่ง ทั่วไทย ปี 65

ก.แรงงาน-สสส.ประชุมเดินหน้าขับเคลื่อน  “Happy Workplace” ปลุกปั้นกลุ่ม จป. นำร่องเจาะพื้นที่ศักยภาพทางเศรษฐกิจภาคตะวันออก ชลบุรี ระยอง เป็นผู้นำความปลอดภัย-ลดอุบัติเหตุ-ลดโรคในสถานประกอบการ ควบคู่พัฒนาชุดความรู้ การจัดการความเสี่ยงแบบองค์รวม-การสร้างเสริมสุขภาพ 10 Packages มุ่งขยายผลองค์กรสุขภาวะจาก 200 แห่ง เป็น 600 แห่งทั่วประเทศ ภายในปี 65

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “พัฒนา จป. เพื่อเป็นผู้นำการขับเคลื่อนองค์กรสุขภาวะ” รุ่นที่ 2 ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพและบทบาทหน้าที่เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานด้านสุขภาวะองค์กร เพื่อเป็นผู้นำการขับเคลื่อนองค์กรสุขภาวะเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2565 ที่โรงแรมโนโวเทล มารีน่า ศรีราชา แอนด์ เกาะสีชัง จ.ชลบุรี มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานพื้นที่ จ.ชลบุรีและระยอง เข้าร่วมอบรม 100 คน

นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน

นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “พัฒนาศักยภาพ จป. เพื่อเป็นผู้นำการขับเคลื่อนองค์กรสุขภาวะ” ตามโครงการพัฒนาศักยภาพและบทบาทหน้าที่เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานด้านสุขภาวะองค์กร เพื่อเป็นผู้นำการขับเคลื่อนองค์กรสุขภาวะ  กล่าวว่า กระทรวงแรงงานมีหน้าที่กำกับดูแลให้สถานประกอบการมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานตามกฎหมาย เป็นบุคคลสำคัญในองค์กรซึ่งถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจสู่ผู้ปฏิบัติงานในทุกระดับเพื่อทำให้เกิดความปลอดภัย ไม่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุและโรคจากการทำงาน กองความปลอดภัยแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน จึงร่วมกับ สสส. ริเริ่มโครงการพัฒนาศักยภาพและบทบาทหน้าที่เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานด้านสุขภาวะองค์กร เพื่อเป็นผู้นำการขับเคลื่อนองค์กรสุขภาวะ (Happy Workplace) มุ่งพัฒนาเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานให้มีทักษะที่จำเป็นในการขับเคลื่อนองค์กรสุขภาวะให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ขณะนี้โครงการได้นำร่องในสถานประกอบการแล้ว 200 แห่ง พร้อมขยายผลไปสู่ 600 แห่งทั่วประเทศ ภายในเดือน ธ.ค.2565

“การกำหนดนโยบาย Safety Thailand ขับเคลื่อนงานด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด สนับสนุนให้มีการสร้างและพัฒนาเครือข่ายความปลอดภัยในการทำงานให้เข้มแข็งและมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สร้างการรับรู้และจิตสำนึกให้เกิดขึ้นทุกภาคส่วน มุ่งหวังให้สถิติอุบัติเหตุจากการทำงานลดลงอย่างต่อเนื่อง ความปลอดภัยในการทำงานจะสำเร็จได้ต้องร่วมมือ พัฒนาบริหารจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัย สภาพแวดล้อมในการทำงานอย่างเป็นระบบจากทุกภาคส่วน การรู้เท่าทันถึงอันตรายที่มาควบคู่กับพัฒนาการทางเทคโนโลยีต่างๆ”

จากการระบาดของโควิด-19 เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานมีบทบาทสำคัญในการประสานงานหน่วยงานภาคสาธารณสุข ดำเนินมาตรการควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดในสถานประกอบการ มาตรการ Bubble and Seal และ Factory Sand Box ทำให้ควบคุมการแพร่ระบาดในสถานประกอบการควบคู่กับกระบวนการผลิต

นายพงษ์ศักดิ์ ธงรัตนะ ผอ.สำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สสส.

นายพงษ์ศักดิ์ ธงรัตนะ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สสส. กล่าวว่า สสส.มุ่งพัฒนาสุขภาวะ “คนทำงานในองค์กร” บุคคลสำคัญและเป็นกำลังหลักของครอบครัว องค์กร ชุมชน และสังคม โดยเฉพาะกลุ่มเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย กลุ่มที่เป็นกลไกสำคัญในการขยายผล ถ่ายทอด และติดตามประเมินผลการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาวะในสถานประกอบการ สสส.ได้ร่วมกับกระทรวงแรงงาน พัฒนาชุดความรู้ในการสร้างเสริมสุขภาพ ภายใต้แนวคิดสุขภาวะองค์รวมของวัยทำงาน อาทิ คู่มือขั้นตอนการดำเนินการโครงการสร้างเสริมสุขภาพในสถานประกอบกิจการ แนวคิดหลักการประเมินและจัดการความเสี่ยงแบบองค์รวม วิธีการจัดทำแผนการบริหารจัดการความเสี่ยง หลักการและกลวิธีการสร้างเสริมสุขภาพ ชุดความรู้สุขภาพ 10 Packages และมาตรการ COVID Free Setting ในสถานประกอบกิจการ รวมถึงคู่มือการส่งเสริมสุขภาวะในองค์กร ผู้สนใจข้อมูลติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.happy8workplace.com

การจัดทำหลักสูตรให้เจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัยในการป้องกันอุบัติเหตุ ตั้งแต่การดูแลตัวเอง สังคมรอบข้าง โควิดสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การฉีดวัคซีนเป็นการเรียนรู้เพื่อที่จะไปต่อ การสร้างความสุขเพื่อมองเห็นองค์รวมและสังคมของคนรอบข้าง การสร้างความสมดุล 4 มิติ การควบคุมเรื่องการสูบบุหรี่และดื่มเหล้า เรามีอัตราความตายจากโรค NCDs มากถึง 70% รวมถึงปัญหาสุขภาพจิต และจะต้องช่วยสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับลูกจ้างในสถานประกอบการด้วย

นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า โครงการพัฒนาศักยภาพและบทบาทหน้าที่เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานด้านสุขภาวะองค์กร เพื่อเป็นผู้นำการขับเคลื่อนองค์กรสุขภาวะ มุ่งพัฒนาเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานให้มีทักษะที่จำเป็นในการเป็นผู้นำการสร้างเสริมสุขภาวะองค์กร ที่มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกิดจากพฤติกรรมของลูกจ้างในสถานประกอบการ รวมทั้งให้คำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ เพื่อให้ลูกจ้างมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้องและปลอดภัยในการทำงาน.

...............................................

นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี

จังหวัดชลบุรีได้รับการวางแผนให้เป็นเมืองนวัตกรรม เป็นเมืองหลักทางด้านอุตสาหกรรม และการค้าขายของภาคตะวันออก กำหนดวิสัยทัศน์การพัฒนาจังหวัดให้เป็นเมืองนวัตกรรมเศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียน มีท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรือพาณิชย์สำคัญของไทย มีโรงงานอุตสาหกรรมมากมาย โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานประกอบรถยนต์ โรงงานน้ำตาลทราย โรงงานมันสำปะหลังอัดเส้นและอัดเม็ด โรงงานผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชลบุรีมีสถานประกอบการ 1.6 หมื่นแห่ง ลูกจ้าง 7.6 แสนคน เป็นแหล่งศูนย์รวมอุตสาหกรรมนำรายได้เข้าประเทศไทยจำนวนมาก ความสำเร็จจากการขับเคลื่อนผู้ใช้แรงงานพัฒนาอุตสาหกรรมส่งผลให้จังหวัดชลบุรีเป็นเมืองอุตสาหกรรมน่าอยู่ ความมั่นคงของประเทศ

ขณะเดียวกัน ชลบุรีมีแหล่งท่องเที่ยว กิจกรรมหลากหลายทางธรรมชาติ วัดวาอารามเก่าแก่ ชุมชนน่าสัมผัส งานหัตถกรรมประณีต สถานบันเทิงทันสมัย กิจกรรมผจญภัยหลายรูปแบบเป็นที่ดึงดูดนักลงทุน มีประชากร 1.3 ล้านคน มีประชากรแฝงเข้ามาทำงาน เมืองชลบุรีมีงานเทศกาลงานบุญกลางบ้าน งานเครื่องจักสานพนัสนิคม งานประเพณีวันไหล งานประเพณีกองข้าวศรีราชา งานประเพณีวิ่งควาย งานแห่พระพุทธสิหิงค์ งานกาชาดชลบุรี แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ความโดดเด่น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมสวัสดิการย้ำวันแรงงานฯ นายจ้างต้องให้ลูกจ้างหยุดงานและจ่ายค่าจ้างปกติ

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ย้ำเตือนนายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างหยุดงานในวันแรงงานแห่งชาติ 1 พฤษภาคม และจ่ายค่าจ้างเท่ากับวันทำงาน หากมีลูกจ้างจำเป็นต้องทำงานให้หยุดชดเชยในวันถัดไปหรือจ่ายเงินเพิ่มไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าของวันปกติ

"ออมสุขภาพ” รับวัยเกษียณ เตรียมพร้อมสู่สังคมผู้สูงวัย

สังคมไทยเดินเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ขณะนี้มีผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 12 ล้านคน จากจำนวนคนไทย 66 ล้านคน และในอนาคตคืออีก 60 ปีข้างหน้า

เด็กไทย 1 ใน 10 น้ำหนัก/ส่วนสูงหลุดเกณฑ์ กระทบสมอง เสี่ยงปัญหาสุขภาพจิต ป่วย NCDs

นางเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากข้อมูลพัฒนาการเด็กปฐมวัยของไทย ปี 2566 โดยกรมอนามัย

วิจัยพบสังคมไทยเหลื่อมล้ำทุกมิติ สื่อสารในครอบครัวลดช่องว่างได้

ผลสำรวจเด็กและเยาวชนไทยปลอดภัยจากความรุนแรงออนไลน์ รั้งท้ายโลกเป็นอันดับที่ 29 เหนือกว่าอุรุกวัยเพียงประเทศเดียวเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบ 30 ประเทศทั่วโลกเมื่อปี 2022

กทม.เนรมิตเมือง 15 นาทีเป็นจริง สร้างพื้นที่สีเขียวอิ่มเอมใจทั่วกรุง

กทม.ทวีความรุนแรง เมืองจมฝุ่น การจราจรติดขัด ขาดแหล่งอาหาร สำรวจคนกรุงเผชิญรถติดเฉลี่ยวันละ 2 ชั่วโมง หรือใน 1 ปีชีวิตติดหนึบอยู่บนรถเท่ากับ

ไขคำตอบ..ออกกำลังกายเป็นนิจ ตัวช่วยอายุยืนยาวห่างไกล NCDs

อุบัติการณ์โรคในยุคนี้ปรากฏว่า "โรคไม่ติดต่อ (NCDs)" กลายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 คิดเป็น 75% ของสาเหตุการเสียชีวิตทั้งหมด หรือเกือบ 4 แสนคนต่อปี