“ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์” อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล สู้เรื่อง “น้ำ” - ทำเรื่อง “ดิน” เพื่อประชาชน

ต้องยอมรับว่าตลอดระยะเวลา 3 ปีของ “ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์” ในตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีผลงานมากมาย

โดยเฉพาะการเป็น “ผู้พลิกโฉม” และขับเคลื่อนกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จากกรมเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก ให้กลายเป็นหน่วยงานสำคัญในการจัดหาแหล่งน้ำให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้น้ำกินน้ำใช้ และน้ำภาคการเกษตร

ทั้งยังเป็นหน่วยงานที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นับตั้งแต่วันแรกที่ นายศักดิ์ดา เข้าไปทำงานที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้พัฒนาน้ำบาดาลของประเทศอย่างเป็นจริงเป็นจัง สิ่งแรกที่ทำคือการนำรูปแบบของตู้น้ำดื่มสะอาดสีเขียว ให้บริการน้ำดื่มฟรีแก่ประชาชน โดยตู้แรกได้ติดตั้งที่บริเวณกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรุงเทพฯ ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถนำภาชนะมารับน้ำดื่มฟรีได้ตลอดทั้งวัน ต่อมาได้ขยายผลไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ในรูปแบบของจุดจ่ายน้ำแร่กระทรวงทรัพย์ ที่ให้บริการตามถนนสายหลักและถนนสายรองทั่วประเทศ คนที่เคยใช้บริการมักจะเรียกกันว่า น้ำริมทาง ดื่มได้และดื่มฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก

ต่อมาคือ “การปฏิวัติวงการน้ำบาดาล” โดยการเจาะสำรวจน้ำบาดาลที่ลึกที่สุดของประเทศไทยและลึกที่สุดในอาเซียน ที่บ้านหินขาว ม.6 ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยเจาะลงไปในหิน ที่ความลึก 1,014 เมตร พบชั้นน้ำบาดาล ทั้งหมด จำนวน 8 ชั้น เป็นชั้นน้ำจืด จำนวน 2 ชั้น และชั้นน้ำกร่อยเค็ม จำนวน 6 ชั้น โดยชั้นน้ำจืดมีความลึก 50 ถึง 100 เมตร และ 540 ถึง 600 เมตร และพบว่าชั้นน้ำจืดที่ความลึก 540 ถึง 600 เมตร มีอายุมากถึง 22,000 ปีและมีคุณภาพดี สามารถดื่มได้

ที่สำคัญในปี 2564 จุดกระแสให้น้ำบาดาลเป็นที่กล่าวขานถึงทั่วประเทศ เมื่อมีการค้นพบแหล่งน้ำพุโซดา ที่บ้านทุ่งคูณ ม.19 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นการเจาะสำรวจตามหลักวิชาการ ที่ความลึก 234 และ 304 เมตร จำนวน 2 บ่อ และต่อมาได้พัฒนากลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของ จ.กาญจนบุรี นอกจากนี้ยังได้พัฒนาน้ำพุโซดาให้กลายมาเป็นน้ำดื่มบรรจุขวด ที่เรียกว่า น้ำแร่โซดา แจกจ่ายให้กับประชาชนและหน่วยงานต่างๆ แบบฟรีๆ อีกด้วย

นอกจากนี้ ชาวบ้านในอำเภอห้วยกระเจา ที่ประสบปัญหาภัยแล้งเป็นประจำทุกปี เนื่องจากอยู่ในเขตเงาฝน และถูกขนานนามว่าเป็นอีสานของภาคกลาง ทุกปีชาวบ้านต้องซื้อน้ำจากรถบรรทุกน้ำมาใช้ เพราะไม่มีน้ำประปาใช้ เดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ถึงกับต้องสร้างพระพุทธรูป “ปางขอฝน” ให้ประชาชนได้กราบไหว้ เพื่อภาวนาขอให้ฝนตกลงมาในพื้นที่ นายศักดิ์ดา จึงได้ระดมนักวิชาการ นักธรณีวิทยา ช่างเจาะ วิศวกร เข้าไปสำรวจหาแหล่งน้ำบาดาล จนค้นพบพื้นที่ที่มีศักยภาพน้ำบาดาลสูง ที่มีรูปร่างบนแผนที่คล้ายคันธนู มีความกว้าง 2.5 กิโลเมตร ยาว 23 กิโลเมตร ก่อนจะพัฒนาน้ำบาดาลขึ้นมาให้ประชาชนได้ใช้ ครอบคลุมทั้งตำบลห้วยกระเจา ชาวบ้านต่างดีใจยิ่งกว่าเทวดามาโปรด เพราะมีน้ำ ชาวบ้านจะไม่จน!

ยิ่งไปกว่านั้น คือ การค้นพบแอ่งน้ำบาดาล ที่ ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ถือว่าเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ เนื่องจาก อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี เป็นพื้นที่หาน้ำยาก ที่ใครๆ ต่างหันหลังกลับเมื่อได้รับว่าจ้างให้ไปเจาะน้ำบาดาลในบริเวณนี้ แต่เมื่อนายศักดิ์ดา นำกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ระดมเจ้าหน้าที่เข้าไปทำงาน ไม่นานก็ค้นพบแอ่งน้ำบาดาล ที่มีความกว้าง 6 กิโลเมตร ยาว 12 กิโลเมตร ลึก 250 เมตร มีปริมาณน้ำกักเก็บ 500 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงได้ออกแบบก่อสร้างระบบประปาบาดาลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่นี่ จนสามารถส่งน้ำสะอาด คุณภาพน้ำแร่ธรรมชาติให้กับประชาชนครอบคลุมทั้งตำบล

อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 15 แห่ง ซึ่งรวมพื้นที่ ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี แห่งนี้ด้วย โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้เสด็จไปทรงเปิดโครงการ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2565 สร้างความปลื้มปีติให้แก่พสกนิกรเป็นล้นพ้น และคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติให้วันที่ 3 เมษายน ของทุกปี เป็นวันน้ำบาดาลแห่งชาติ เพื่อสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนเพื่อรักษาและอนุรักษ์น้ำบาดาลให้มีใช้ตลอดไป

จากนั้นในเดือน ส.ค.2565 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ ระยะที่ 2 จำนวน 18 แห่ง ครอบคลุม 10 จังหวัด ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

วันที่ 30 ก.ย.2565 นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ จะเกษียณอายุราชการ ก้าวต่อไปของนายศักดิ์ดา ยังยืนยันว่าจะทำประโยชน์ให้ประชาชน ให้ประเทศชาติต่อไป เพราะตลอดชีวิตราชการเกือบ 40 ปี คลุกคลีกับเรื่องน้ำ เรื่องดินและทรัพยากรธรรมชาติมาตลอดตั้งแต่ทำงานอยู่กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล

“ผมต้องทำให้น้ำกินน้ำใช้ ไม่ขาดแคลน น้ำภาคการเกษตรต้องมีเพียงพอตลอดทั้งปี ผมสู้เรื่องน้ำบาดาลจนวันนี้น้ำบาดาลเป็นที่ยอมรับของประชาชน ของสังคม สิ่งที่จะทำควบคู่ต่อไปหลังจากนี้คือเรื่องที่ดิน เพราะที่ดินเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญของเกษตรกร ของประชาชน ทุกวันนี้ เรามีที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ประโยชน์มากมาย ถ้ามีการนำมาจัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง เป็นธรรม แล้วมีการพัฒนาแหล่งน้ำ พัฒนาระบบน้ำมาใช้อย่างไม่ขาดแคลนทั้งน้ำผิวดิน น้ำใต้ดิน เชื่อว่าคุณภาพชีวิตของประชาชนจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน” นี่คือปณิธานของนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ถึงงานที่จะทำต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้

นั่นก็คือการสู้เรื่อง “น้ำ” - ทำเรื่อง “ดิน” เพื่อประชาชน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมทรัพยากรน้ำบาดาล นำคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ศึกษาดูงานโครงการเจาะบ่อน้ำบาดาลระดับลึก 1,008 เมตร จ.สมุทรสาคร

พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา และคณะ เดินทางไปศึกษาดูงานโครงการศึกษาสำรวจแหล่งน้ำบาดาลระดับลึก

ด่วน 'จิรายุ' รู้ตัวแล้วไม่มีค่ากับพรรคเพื่อไทย หลังขวางไม่อยู่ส่ง 'ศักดิ์ดา' ลงสส.

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง

อธิบดีกรมน้ำบาดาล ยันไม่มีการยกเลิกโครงการพระราชดำริ​ แต่ให้ชะลอไว้ก่อน ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว 7 วันรู้ผล

นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังได้รับการร้องเรียนกรณีรายละเอียดคุ

กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ค้นพบแหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่ บนพื้นที่เกาะลันตา มากกว่า 16 แห่ง เตรียมสร้างระบบส่งน้ำให้ทั่วถึงทุกพื้นที่บนเกาะลันตา หนุนเป็นต้นแบบพื้นที่เกาะใกล้เคียงและทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 26 ก.ค.นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ลงพื้นที่โครงการศึกษาสำรวจเพื่อประเมินศักยภาพน้ำบาดาล

ช่วยหมู่บ้านกะเหรี่ยง “ศักดิ์ดา” นำกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ส่งมอบโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อความมั่งคงระดับชุมชน ในพื้นที่อำเภอหนองปรือ จ.กาญจนบุรี แก้ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมนายเฉลิม กลิ่นนิ่มนวล ที่ปรึกษากรมทรัพยากรน้ำบาดาล

“อธิบดีน้ำบาดาล” ส่งมอบโครงการน้ำบาดาลเสริมความมั่นคงระดับชุมชน ช่วยชาวบ้านอ.บ่อพลอย และอ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี

วันที่ 21 มิ.ย.ตั้งแต่ช่วงเช้านายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมด้วยนายทนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เ