รมว.สุชาติ เร่งปูพรมพัฒนาทักษะผู้มีบัตรคนจนทั่วประเทศ ฝึกจบมอบเครื่องมือทำกินส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ

รมว.แรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น สั่งกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ปูพรมฝึกผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั่วประเทศ 31,500 คน ฝึกจบมอบเครื่องมือทำกิน ย้ำ ต้องการส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ สร้างรายได้ก้าวผ่านความยากจน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกครั้ง ซึ่งพบว่าผู้มีบัตรดังกล่าวส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอิสระ ทำงานในรูปแบบงานชั่วคราวหรืองานรับจ้างระยะเวลาสั้นจบเป็นครั้งๆ ซึ่งแรงงานเหล่านี้ยังขาดทักษะในการประกอบอาชีพ จำเป็นต้องได้รับการยกระดับทักษะฝีมือ เพื่อเพิ่มความรู้ ความสามารถ มีงาน มีรายได้เพิ่มขึ้น จึงได้มอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เร่งดำเนินการฝึกอบรมด้านอาชีพให้แก่ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เนื่องจากแรงงานกลุ่มนี้มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในครอบครัว สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากมีรายได้ไม่ต่อเนื่อง บางวันมีงานทำ บางวันไม่มีงาน ทำให้มีรายได้เฉลี่ยต่อปีต่ำกว่าเกณฑ์ หากมีความรู้หรือทักษะฝีมือด้านอาชีพ และมีเครื่องมือทำกินไม่ต้องไปกู้เงินมาลงทุนซื้อเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆ จะช่วยให้แรงงานสามารถประกอบอาชีพได้ทันที จึงเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย มีอาชีพและมีรายได้เพิ่มขึ้น การฝึกอบรมดำเนินการทั่วประเทศรวม 31,500 คน นอกจากนี้ ได้ย้ำกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานด้วยว่า ให้ติดตามการมีงานทำของผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมด้วย เพื่อให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมในกรณีที่ติดปัญหาด้านอื่น

นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการพัฒนาทักษะเฉพาะของแรงงานอิสระยุค 4.0 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อฝึกทักษะด้านอาชีพ ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 ดำเนินการแล้วเกือบ 10,000 คน และทยอยมอบเครื่องมือให้แก่ผู้ที่ผ่านการอบรมแล้ว นอกจากนี้ ได้กำหนดให้มีการติดตามการมีงานทำและตรวจเยี่ยมการประกอบอาชีพหลังฝึกอบรมจบแล้วภายใน 3 เดือน เพื่อให้คำแนะนำและสร้างความมั่นใจว่าผู้ผ่านการฝึกนำความรู้และเครื่องมือที่ได้รับไปประกอบอาชีพ และช่วยให้มีงานทำ มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างแท้จริง

คุณชลนิกาล อินทรเกษม (รุ้ง) อายุ 46 ปี เป็นผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรบาริสต้ามืออาชีพ จากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 19 เชียงใหม่ (สพร.19 เชียงใหม่) เล่าว่า เป็นแม่ค้าขายน้ำอยู่ในโรงเรียนที่จังหวัดเชียงใหม่ ต้องการนำความรู้การชงเครื่องดื่ม เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าร่วมกับการขายน้ำที่ขายในร้าน ซึ่งคิดว่าจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองมากขึ้น เมื่อเข้ามาอบรมแล้วนอกจากจะมีความรู้ในการชงกาแฟแล้ว ยังได้เทคนิคในการทำการตลาดด้วย ต้องขอขอบคุณหน่วยงานของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และรัฐบาลที่เข้ามาช่วยเหลือ และจัดให้มีโครงการดีๆ แบบนี้ "ที่อยากอบรมเพิ่มเติมอีก 1 หลักสูตรคือเบเกอรี่ เพราะเกี่ยวข้องกัน และจะช่วยเพิ่มความหลากหลายในการขายสินค้า ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น" รุ้งกล่าว
ทางด้านของนายเสนอ สรชัย อายุ 51 ปี ผู้ผ่านการฝึกอบรมการขายสินค้าออนไลน์จากสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานบุรีรัมย์ (สนพ.บุรีรัมย์) เล่าว่า เป็นพ่อค้าขายผักและผลไม้ตามตลาดนัด ต้องการรู้วิธีการขายสินค้าทางออนไลน์ ว่าขายแบบไหน จะทำอย่างไรที่จะขายผักและผลไม้บนสื่อออนไลน์ได้ จะได้มีรายได้มากขึ้น ปกติที่ขายตามตลาดนัด จะมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 5,000-8,000 บาท คาดว่าเมื่อขายสินค้าทางออนไลน์จะช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 10,000 บาท ช่วงแรกต้องฝึกขายทางออนไลน์ให้มากขึ้น เนื่องจากพูดไม่ค่อยเก่ง แต่อย่างน้อยคือได้รู้วิธีการทั้งการถ่ายภาพสินค้า การอัพสินค้าในเพจเฟสบุ๊คเพิ่มช่องทางการขาย ทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นแน่นอน ส่วนนางสุนันทา สายดี อายุ 44 ปี เป็นผู้ผ่านการฝึกอบรมการตัดเย็บเสื้อผ้าจากสพร. 32 จันทบุรี บอกว่า ได้รับจักรเย็บผ้าเพื่อนำไปรับตัดเย็บและซ่อมแซมเสื้อผ้า อยากให้มีโครงการแบบนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีคนที่ต้องการความช่วยเหลือด้านอาชีพอีกจำนวนมาก" เช่นเดียวกับ นางพิไลพร แสงผะกาย อายุ 58 ปี ผ่านการฝึกอบรมตัดเย็บเสื้อผ้าจาก สพร. 22 นครศรีธรรมราช บอกว่า ขอบคุณรัฐบาลที่เห็นความสำคัญของคนที่มีรายได้น้อยให้มีโอกาสฝึกอบรมจะได้มีงานทำและรายได้ที่มากขึ้นกว่าเดิม

สำหรับผู้มีบัตรบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่สนใจ สามารถติดต่อได้ที่ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามเพิ่มเติมที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โลกเดือด !!! “พิพัฒน์” ห่วงใย “ผู้ใช้แรงงาน” แนะ 6 ข้อ ช่วงอากาศร้อนจัด 40-43 องศา

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดงานวันความปลอดภัยและอาชีวอนามัยสากล ประจำปี พ.ศ.2567 ภายใต้หัวข้อ

ผู้ใช้แรงงานเฮ! 1 พ.ค.2567 วันแรงงาน "พิพัฒน์" ย้ำชัดประกาศแน่ ทำเร็วขึ้น ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ทั่วประเทศ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยืนยันถึงการประกาศบิ๊กเซอร์ไพรส์ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ว่า

"พิพัฒน์" เตรียมเปิดบิ๊กเซอร์ไพรส์ มอบของขวัญวันแรงงาน ค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ 400 บาท

วันที่ 22 เมษายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงงาน กล่าวถึงของขวัญสำหรับผู้ใช้แรงงาน ในวันแรงงาน 1 พ.ค.2567 นี้ว่า

ข่าวดี!! “พิพัฒน์” รมว.แรงงาน จัดให้บริการตรวจเช็คสภาพรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย ใส่ใจทุกเส้นทาง ก่อนเดินทางช่วงสงกรานต์ 2567

วันที่ 11 เมษายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 นี้ ตนมีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงาน และพี่น้องประชาชนทั่วไปที่เดินทางกลับภูมิลำเนา รวมทั้งผู้ที่เดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาวติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันนั้น

"พิพัฒน์" เชื่อมขยายผล ทันที! หลังบริษัทอาหารญี่ปุ่น ชื่นชมแรงงานไทยมีทักษะ เปิดรับแรงงาน เริ่มวุฒิ ม.6 รายได้ 3 หมื่นขึ้นไป

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม นายอัครพงศ์ เฉลิมนนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา นางสาวสดุดี กิตติสุวรรณ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน)