นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้กระทรวงแรงงานหาแนวทางขยายตลาดแรงงานในต่างประเทศให้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสการมีงานทำ มีรายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับแรงงานไทย กระทรวงแรงงานจึงเจรจาหารือร่วมกับสมาคม KHOSHIPA ซึ่งเป็นสมาคมอู่ต่อเรือของสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานด้วย วีซ่า E -7 (วีซ่าทักษะฝืมือ) เรื่อยมา และรับแจ้งความต้องการจากบริษัทจัดหางานให้คนหางานไปทำงานต่างประเทศ ที่จะพาแรงงานไทยไปทำงานอู่ต่อเรือแล้ว 7 บริษัท รวมตำแหน่งงาน 4,477 อัตรา มีการจัดส่งไปแล้ว จำนวน 711 อัตรา โดยล่าสุดตนได้รับรายงานจากอธิบดีกรมการจัดหางาน ว่าผู้แทนจากบริษัท SAMSUNG HEABY INDUSTRIES สาธารณรัฐเกาหลี ยังมีความต้องการแรงงานไทยไปทำงานในอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือ จำนวน 1,227 คน แบ่งเป็นสาขาช่างเชื่อม 527 อัตรา ช่างทาสี 500 อัตรา และช่างไฟฟ้า 200 อัตรา อัตราค่าจ้าง 2.5 ล้าน - 3.0 ล้านวอน/เดือน หรือประมาณ 90,000 - 108,000 บาทต่อเดือน
“เกาหลีใต้กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และเริ่มขาดแคลนแรงงานทักษะ จึงยอมที่จะจ่ายค่าจ้างและค่าล่วงเวลาในอัตราสูง เพื่อนำเข้าแรงงานต่างชาติที่มีทักษะฝีมือไปทำงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของแรงงานไทย เพราะทักษะฝีมือด้านช่างของแรงงานไทยเป็นที่ยอมรับจากนายจ้างต่างประเทศ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว
ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า การเดินทางไปทำงานอู่ต่อเรือในเกาหลีใต้เป็นการเดินทางโดยวิธีบริษัทจัดหางานจัดส่ง ซึ่งเป็น 1 ในวิธีเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 5 วิธี ได้แก่ 1.บริษัทจัดหางานจัดส่ง 2.กรมการจัดหางานจัดส่ง 3.เดินทางด้วยตัวเอง 4.นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างของตนไปทำงานในต่างประเทศ และ5.นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างของตนไปฝึกงานในต่างประเทศ โดยแรงงานไทยที่ต้องการไปทำงานในภาคอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือในเกาหลีใต้ สามารถติดต่อที่บริษัทจัดหางานให้คนหางานไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งจดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน โดยตรวจสอบรายชื่อบริษัทได้ที่เว็บไซต์ กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน www.doe.go.th/ipd หัวข้อ ข้อมูลบริษัทจัดหางานและบริษัทนำเข้าคนต่างด้าวมาทำงาน หรือสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ โทร. 02 245 6713 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694 หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน
“กรมการจัดหางานขอให้คนไทยเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะจะทำให้แรงงานไทยสามารถทำงานได้อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ต้องหลบซ่อน ได้รับการคุ้มครองตามหลักสากลและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งนอกจากประโยชน์ของตนเองแล้ว การไปทำงานถูกต้องตามกฎหมายยังทำให้รัฐบาลของประเทศต่างๆ เชื่อมั่นในแรงงานไทย เพิ่มโอกาสให้แรงงานไทยรุ่นต่อไปสามารถไปทำงานได้เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศในระยะยาว” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"พิพัฒน์" รับแก้ปัญหาแรงงานนอกระบบ อิสระ ทำงานที่บ้าน สั่งช่วยเปิดทางแหล่งทุน ที่ทำมาหากิน ฟื้นฟูเศรษฐกิจ พัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้
วันที่ 13 ธันวาคม 2567 เวลา 13.30 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายภุชงค์ วรศรี ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ
ประกันสังคม เปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนเปลี่ยน รพ. ปี 68 ผ่าน 4 ช่องทาง เริ่ม 16 ธ.ค.67 นี้
นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน แจ้งว่า สำนักงานประกันสังคม แจ้งให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 สามารถเปลี่ยนสถานพยาบาลประจำปี 2568 ได้ ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568 ผ่าน 4 ช่องทาง คือ 1.
“พิพัฒน์” เอาจริง! ตั้งชุดเฉพาะกิจตรวจสอบการจ้างแรงงานต่างด้าว ป้องปรามแย่งอาชีพคนไทย ออกจับ ปรับส่งกลับประเทศ
วันที่ 11 ธันวาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบการจ้างงาน สภาพการจ้าง การบังคับใช้แรงงานหรือบริการ และการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย
“พิพัฒน์” ลุยช่วยพี่น้องสตูล ฟื้นฟูหลังน้ำลด ระดมทีมช่างภาคใต้ช่วยเหลือ เปิดศูนย์ซ่อม สร้าง สุข บริการฟรี สอนอาชีพเสริม ปักหลักมอบถุงยังชีพ 5 อำเภอสตูล
วันที่ 6 ธันวาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายภุชงค์ วรศรี ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารกระทรวงแรงงาน โดยมี นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวต้อนรับ
ช่วยใต้ต่อเนื่อง "พิพัฒน์-สิรภพ-อารี"เยียวยาช่วยน้ำท่วม มอบหลังละ 9,000 บาท เร่งงบฉุกเฉิน 50 ล้านระดมช่าง 300 คน ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าฟรี!! ผนึกเครือข่ายช่วยชาวใต้
วันที่ 5 ธันวาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
‘พิพัฒน์’ นำทีมแรงงาน มอบเครื่องอุปโภคบริโภค 7 คันรถ ช่วยน้ำท่วม 8 จังหวัดภาคใต้
วันที่ 4 ธันวาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประกันตน ลูกจ้าง นายจ้าง แรงงานนอกระบบ