ยินดีจั๊ดนัก!! รวมพลังสานสุข เมืองน่าน...น่าอยู่

น่าน..นับเป็นเมืองท่องเที่ยวยั่งยืน ที่มีรางวัล UNESCO การันตี และเป็นต้นแบบสุขภาพดีมีสุขทุกคนมีส่วนร่วม โดยการสนับสนุนของ สสส. หรือสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งขับเคลื่อนพันธกิจสร้างสุขภาวะทั่วไทยตามแนวนโยบายและปรัชญาของการก่อกำเนิดองค์กรมาอย่างต่อเนื่องจากวันนั้นจนถึงวันนี้

พื้นที่จังหวัดน่าน นับเป็นต้นแบบสำคัญของการมีส่วนร่วม โดยนำนวัตกรรม "ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค" ลงไปดำเนินการและปฏิบัติได้จริง ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 8 และคณะผู้บริหาร สสส. พร้อมสื่อมวลชนได้ลงพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ดูงาน “ยินดีจั๊ดนัก รวมพลังสานสุข” ที่ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค ณ โรงพยาบาลน่าน อ.เมืองน่าน จ.น่าน

นายระพีพันธุ์ สริวัฒน์ ที่ปรึกษากรรมการกองทุนสสส. ในฐานะรองประธานคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 8 สสส. เล่าว่า เริ่มแรกมา จ.น่านนั้นเต็มไปด้วยภูเขาหัวโล้น ขณะนี้เกิดความเปลี่ยนแปลงต้นไม้เขียวชอุ่ม ถนนหนทางดี ชุมชนร่มเย็นใจสบาย ใครไปใครมาเมืองน่านก็ประทับใจ สสส.สนับสนุนผลงานประสบความสำเร็จเป็นสุขภาวะ ยิ่งมีการรวมพลังกับ อสม.สุดยอดเชี่ยวชาญเรื่องสูตรอ่อนหวาน โรค NCDs ที่ติดอันดับคือเบาหวาน โดยเฉพาะผู้สูงอายุเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ส่วนปัญหาของเด็กและเยาวชนคือเหล้า บุหรี่ การพนัน ต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ

รพ.น่านเป็นโมเดลหนึ่งเดียวที่เห็นพลังในการทำงานร่วมกัน น่านเป็นจังหวัดเล็กๆ ทางภาคเหนือ เห็นผลงานควรต่อยอดด้วยการกระจายองค์ความรู้ให้เครือข่ายในจังหวัดอื่นๆ ด้วย สสส.เริ่มพัฒนา “ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค” มาตั้งแต่ปี 2558 ถือเป็นนวัตกรรมการเรียนรู้และส่งเสริมแนวทางการใช้ชีวิตที่มีสุขภาวะให้แก่ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งจากการดำเนินงานมากว่า 8 ปี ปัจจุบันมีศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาคทั้งสิ้น 18 แห่ง ครอบคลุม 13เขตบริการสุขภาพ ร่วมขยายผลองค์ความรู้สุขภาวะผ่านกลไกการทำงานร่วมกับหน่วยงาน/เครือข่ายในระดับพื้นที่ และมีการพัฒนา ต่อยอดองค์ความรู้ด้วยรูปแบบที่เหมาะสมกับบริบทของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่ โดยมีผู้ได้รับประโยชน์กว่า 7,000,000 คน และเกิดผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Change Agent) หรือนักสร้างเสริมการเรียนรู้ด้านสุขภาวะกว่า 3,000 คน

“สสส.ร่วมมือกับ รพ.น่านพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้สุขภาวะภูมิภาค ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งโรงพยาบาลน่านถือเป็นหน่วยงานที่มีศักยภาพในด้านบุคลากรที่มีความรู้ด้านสุขภาพ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และทำงานเชิงรุกเพื่อสร้างการเรียนรู้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ แต่ยังขาดนวัตกรรมชุดความรู้ เครื่องมือในการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพให้แก่ประชาชน สสส.จึงได้สนับสนุนนวัตกรรมเครื่องมือสร้างการเรียนรู้สุขภาวะในประเด็นต่างๆ ทั้งในรูปแบบนิทรรศการ นิทรรศการเคลื่อนที่ (กระเป๋าสื่อการเรียนรู้ สสส.) พัฒนาทักษะบุคลากรในการสร้างสรรค์สื่อการเรียนรู้  และสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมการเรียนรู้ด้านสุขภาวะที่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง อาทิ การส่งเสริมสุขภาพด้วยหลัก 3 อ. 2 ส. การออกกำลังกาย “เก้าอี้ขยี้พุง” ส่งผลให้มีจำนวนผู้สูงอายุมีความรู้เรื่องการเลือกรับประทานอาหารและการออกกำลังกายเพิ่มขึ้นกว่า 95% และมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด” นายระพีพันธุ์กล่าว

นายระพีพันธุ์ยืนยันว่า สสส.เตรียมยกระดับให้ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะฯ โรงพยาบาลน่าน เป็นต้นแบบ “โรงพยาบาลอ่อนหวาน” มุ่งให้ความรู้และการจัดการโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) โดยเฉพาะประเด็นโรคเบาหวานและอาหารเพื่อสุขภาพให้สำเร็จภายในปี 2567 โดยมุ่งสร้างความร่วมมือจากทุกหน่วยงานในพื้นที่ รวมถึงพัฒนาศักยภาพ อสม.หมอคนที่ 1 เขตเทศบาลเมืองน่าน และเขต รพ.สต.บ้านบุปผาราม ร่วม 100 คนให้สามารถเป็นวิทยากรระดับตำบลได้ กลายเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงขยายผลองค์ความรู้สุขภาวะ สร้างความรอบรู้สุขภาพอย่างยั่งยืน

นพ.วสันต์ แก้ววี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน พูดถึงข้อมูลสุขภาพประชากร จ.น่าน ปี 2565 มีประชาชน 474,095 คน ในจำนวนนี้มีประชากรในเขตโรงพยาบาลน่าน (เขตเทศบาลเมืองน่าน) 17,452 คน เป็นผู้สูงอายุ 5,068 คน เป็นผู้ป่วยโรค NCDs อาทิ โรคความดันโลหิตสูง 3,568 คน เบาหวาน 1,390 คน  ไตเรื้อรัง 1,242 คน ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะฯ น่าน ได้นำนวัตกรรมนิทรรศการเคลื่อนที่ของ สสส. อาทิ ชุดการเรียนรู้ “FOOD & FIT” บอร์ดเกมเรื่องอาหารสุขภาพ “สุขสมวัย” ส่งเสริมสุขภาพจิต มาพัฒนาเป็นกระบวนการเรียนรู้เชิงรุกให้ประชาชนในพื้นที่

“การมีนวัตกรรมองค์ความรู้ใหม่ที่เหมาะสมกับพื้นที่ และมีรูปแบบที่หลากหลายจาก สสส. ช่วยให้เข้าถึงประชาชนได้มากขึ้น มีความรู้เกี่ยวกับสุขภาวะที่ถูกต้อง  อาทิ ชุดความรู้เรื่องสุขภาวะทางเพศที่ รพ.น่านได้ต่อยอดสู่การสร้างทักษะชีวิตในกลุ่มเด็กพิเศษให้แก่โรงเรียนน่านปัญญานุกูล ชุดบอร์ดเกม คลิปวิดีโอ กราฟิกสุขภาพ  กิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ที่โรงเรียนดรุณวิทยา เทศบาลเมืองน่าน (บ้านสวนตาล) ได้นำไปขยายผลสู่การปฏิบัติจริง โดยพัฒนานวัตกรรมต้นแบบอาหารกลางวันเพื่อสุขภาพ ลดภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนในโรงเรียน ทำให้ได้รับรางวัลระดับประเทศ อาทิ โรงเรียนรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health  Literate School) ปี 2565-2568 จากกระทรวงสาธารณสุข ชนะเลิศ "สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี" ระดับประถมศึกษาปี 2566 จากบริษัท เอไอเอ ประเทศไทย จำกัด ได้เป็นตัวแทนคนไทยเข้าแข่งขันในระดับเอเชีย-แปซิฟิกที่มาเลเซีย” นพ.วสันต์กล่าว

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ หรือหมอบอย  ผอ.สำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ สสส. (สำนัก 7) อดีตรอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.น่าน กล่าวถึง การนำสื่อต่างๆ ให้ความรู้มีเครือข่ายชุมชน รร.กศน.ขยายผลไปยังพื้นที่กลุ่มประชาชนในชุมชนได้ง่ายขึ้น ทีมงาน รพ.น่านทำงานส่งเสริมสุขภาพตำบล อสม.ขยายผลได้อย่างรวดเร็ว สสส.พัฒนาทักษะส่งเสริมบุคลากรเข้าถึงสื่อได้ง่ายขึ้น การเข้าถึงชุมชนเพื่อสานพลัง สสส.มีจุดแข็งในการร่วมมือทำงานอย่างมีบูรณาการ ความท้าทายในการทำงาน เนื่องจากน่านมีวัฒนธรรมการกินข้าวเหนียว มีโอกาสเกิดโรค NCDs เบาหวานได้สูงกว่าการรับประทานข้าวเจ้า โรคที่เกิดจาการประกอบอาชีพของเกษตรกร ฝุ่น PM2.5 ปัญหาสุขภาพจิต ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากผู้นำชุมชน อสม.ในพื้นที่ทำงานเรียนรู้ร่วมกัน ทีมวิทยากรวิชาชีพทางสื่อต่างๆ สนับสนุนงานที่ท้าทาย

ขณะนี้ผู้ชายน่านมีอายุเฉลี่ย 73 ปี ผู้หญิงน่านมีอายุเฉลี่ย 80 ปี หลายชุมชนร่วมกันควบคุมสารเสพติด เหล้า  บุหรี่ อุบัติเหตุ ขยายผลไปยังพื้นที่ต่างๆ ผู้ชายเสียชีวิตก่อนผู้หญิง ถ้าหากลดอบายมุข สารเสพติดลงได้ โรค NCDs ด้วยการควบคุมอาหารที่เป็นปัจจัยเสี่ยง สร้างความตระหนักรู้ มีโอกาสที่ผู้ชายจะอายุยืนขึ้นอีก ตั้งเป้าให้มีค่าอายุเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ในประเทศญี่ปุ่นอายุค่าเฉลี่ย 85-90 ปี เราต้องก้าวทีละก้าว ชุมชนเรียนรู้ที่จะดูแลผู้สูงวัยให้มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี สุขภาพที่ดีไม่ป่วยติดเตียง ไม่พิการ ดูแลตัวเองได้ “สสส.ช่วยติดอาวุธให้พัฒนาตัวเองในการทำงานร่วมกับ อสม. มีการสร้างนวัตกรรมเป็นจุดสำคัญในการสร้างสิ่งใหม่ๆ สื่อสารด้วยการใช้เกม เข้าใจ เรียนรู้เพื่อนำไปปฏิบัติได้ง่ายขึ้น”.

***

สุรพล เธียรสูตร

นายกเทศมนตรีเมืองน่าน จ.น่าน

ภาคภูมิใจที่เทศบาลเมืองน่านได้รับการรับรองให้เป็นชุมชนปลอดภัย จัดประชุมนานาชาติ 32 ประเทศเมื่อปี 2558 เราคาดหวังต่อไปอีกว่าน่านเป็นเมืองสะอาด ปลอดภัย น่าอยู่ อยู่แล้วมีความสุข สร้างเมืองแห่งโอกาส  เมืองแห่งคนอายุยืน สร้างเมืองคนดีมีจิตอาสาช่วยเหลือผู้อื่น และมีความซื่อสัตย์สุจริต การมีคลังสมองเป็นต้นทุนที่ดีโดยเฉพาะศิลปวัฒนธรรม เป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจากหลักหมื่นเพิ่มขึ้นเป็นหลักแสนหลักล้าน มีโรงแรมหลายแห่งรองรับ “ภายใน 10 ปีผมต้องการให้เมืองน่านน่าอยู่มากที่สุดในเมืองไทย เมืองแห่งคนอายุยืน Smart City ต้นทุนเมืองเก่ามีรายได้จากศิลปวัฒนธรรมที่นำมากินและขายได้ให้ชุมชน”

“ผมเป็นคนริเริ่มแข่งเรือประเพณีปลอดเหล้าเบียร์ เอื้อให้อุบัติเหตุลดลง ประสบความสำเร็จจากความร่วมมือทุกฝ่าย คนน่านภาคภูมิใจแข่งเรือยิ่งใหญ่ไม่มีเหล้าไม่มีเบียร์  ทำมาแล้ว 18 ปี กลายเป็นสถานที่ดูงาน เมื่อไม่ดื่มเหล้าเบียร์ อัตราคนตีกัน อุบัติเหตุ บาดเจ็บเสียชีวิตก็ลดลงปี 65 มีผู้เสียชีวิต 84 ราย”

งานทั้งหมดนี้ไม่ได้สำเร็จได้ในชั่วข้ามคืน ต้องแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ขยายเครือข่ายสร้างสังคมคุณภาพ  อนามัยส่วนบุคคล การจัดการความรู้ ขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างถูกต้อง การมีส่วนร่วม เข้าใจ เข้าถึง พัฒนาจนเกิดปัญญา ขณะนี้คนน่านมีผู้สูงอายุ 30.18%  เด็กเติบโตอย่างมีอนาคต ได้รับรางวัลเมืองท่องเที่ยวสิ่งแวดล้อมสะอาดระดับอาเซียนจากประเทศบรูไน รางวัลกินรี 4 สมัย (Halls of Fame).

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สสส. ปลื้ม ครบรอบ 4 ปี ThaiHealth Academy พัฒนานวัตกรรมหลักสูตรสุขภาวะ 82 หลักสูตร

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2567 ที่โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สถาบันการเรียนรู้การสร้างเสริมสุขภาพ หรือ ThaiHealth Academy

"ออมสุขภาพ” รับวัยเกษียณ เตรียมพร้อมสู่สังคมผู้สูงวัย

สังคมไทยเดินเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ขณะนี้มีผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 12 ล้านคน จากจำนวนคนไทย 66 ล้านคน และในอนาคตคืออีก 60 ปีข้างหน้า

เด็กไทย 1 ใน 10 น้ำหนัก/ส่วนสูงหลุดเกณฑ์ กระทบสมอง เสี่ยงปัญหาสุขภาพจิต ป่วย NCDs

นางเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากข้อมูลพัฒนาการเด็กปฐมวัยของไทย ปี 2566 โดยกรมอนามัย

วิจัยพบสังคมไทยเหลื่อมล้ำทุกมิติ สื่อสารในครอบครัวลดช่องว่างได้

ผลสำรวจเด็กและเยาวชนไทยปลอดภัยจากความรุนแรงออนไลน์ รั้งท้ายโลกเป็นอันดับที่ 29 เหนือกว่าอุรุกวัยเพียงประเทศเดียวเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบ 30 ประเทศทั่วโลกเมื่อปี 2022

กทม.เนรมิตเมือง 15 นาทีเป็นจริง สร้างพื้นที่สีเขียวอิ่มเอมใจทั่วกรุง

กทม.ทวีความรุนแรง เมืองจมฝุ่น การจราจรติดขัด ขาดแหล่งอาหาร สำรวจคนกรุงเผชิญรถติดเฉลี่ยวันละ 2 ชั่วโมง หรือใน 1 ปีชีวิตติดหนึบอยู่บนรถเท่ากับ

ไขคำตอบ..ออกกำลังกายเป็นนิจ ตัวช่วยอายุยืนยาวห่างไกล NCDs

อุบัติการณ์โรคในยุคนี้ปรากฏว่า "โรคไม่ติดต่อ (NCDs)" กลายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 คิดเป็น 75% ของสาเหตุการเสียชีวิตทั้งหมด หรือเกือบ 4 แสนคนต่อปี