
วันที่ 27 มิถุนายน 2566 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ประชุมร่วมกับ นายคิม ย็อง - รก (Mr.Kim Yung - rok) ผู้ว่าราชการจังหวัดชอลลานัมแห่งสาธารณรัฐเกาหลี และคณะ เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือการขยายตลาดแรงงานไทยในจังหวัดชอลลานัม สาธารณรัฐเกาหลี ณ ห้องประชุมชั้น 31 โรงแรมล็อตเต โฮเทล โซล กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี
นายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายสำคัญในการส่งเสริมการมีงานทำให้แก่คนไทย เพื่อให้มีรายได้ที่มั่นคง ยกระดับฐานะของตนเองและครอบครัว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ในวันนี้ผมพร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ได้มาพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดชอลลานัมที่เกาหลีตามคำเชิญของผู้ว่าฯ เมื่อครั้งเดินทางไปพบผมที่กระทรวงแรงงานในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และในวันนี้จึงมาเจรจาความร่วมมือในการจัดส่งแรงงานไทยมาทำงานในภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดชอลลานัม ซึ่งจากการหารือพบว่า จังหวัดแห่งนี้เป็นพื้นที่เกษตรและอุตสาหกรรม ปัจจุบันประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากประชาชนย้ายออกไปอยู่กรุงโซลและปริมณฑล จึงต้องการจ้างแรงงานชาวต่างชาติจำนวนมากในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือ (วีซ่าทักษะฝีมือ E-7) เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์การสั่งซื้อเรือของทางการเกาหลีค่อนข้างดีขึ้น จึงส่งผลต่อความต้องการจ้างแรงงานในตำแหน่งช่างเชื่อมอู่ต่อเรือจำนวนประมาณ 500 คน โดยเฉพาะความต้องการจ้างแรงงานไทยในตำแหน่งช่างเชื่อมอู่ต่อเรือ นักเทคนิควิศกรไฟฟ้า นักเทคนิควิศวกรออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกในการผลิตและโรงงาน และช่างทาสีเรือ ทั้งนี้ ปัจจุบันมีแรงงานไทยทำงานในภาคอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือที่จังหวัดชอลลานัมในเกาหลีใต้ จำนวน 214 คน ส่วนความต้องการแรงงานภาคเกษตรตามฤดูกาลจำนวนประมาณ 6,000 คน ซึ่งจังหวัดชอลลานัมเป็นอีกจังหวัดที่กระทรวงแรงงานจะลงนามเอ็มโอยูด้านการจัดส่งแรงงานภาคเกษตรตามฤดูกาลหลังจากเมื่อวานนี้ได้ลงนามกับอำเภอจินอันแล้ว เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดชอลลานัมสามารถนำแรงงานไทยเข้ามาทำงานในอำเภอต่าง ๆ ในภาคอุตสาหกรรมผลิต การเกษตรต่อไปได้ ขณะเดียวกัน พบว่าจังหวัดชอลลานัมแห่งนี้
ถ้าแรงงานคนใดทำงานดีก็จะได้รับการต่อสัญญาไปอีก 3 เดือน รวมเป็น 8 เดือนด้วย

“ผลจากการเจรจาความร่วมมือขยายตลาดแรงงานในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่จะช่วยเพิ่มช่องทางให้แรงงานไทยมีตลาดแรงงานรองรับการไปทำงานในต่างประเทศได้มากขึ้น โดยเฉพาะเกาหลีใต้เป็นประเทศหนึ่งที่คนไทยต้องการมาทำงานในอันดับต้นๆ โดยผลจากการเจรจาในวันนี้ทั้งสองฝ่ายจะได้พูดคุยในรายละเอียด ซึ่งฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล จะได้ประสานงานกับผู้ว่าฯ เพื่อสำรวจข้อมูลความต้องการแรงงานของจังหวัดชอลลานัมและขับเคลื่อนการดำเนินงานต่อไป”นายสุชาติ กล่าวท้ายสุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สส.ปชน.' จี้ ก.แรงงาน ต้องไกล่เกลี่ยข้อพิพาท นายจ้างไดกิ้น 'ปิดงาน' หาข้อยุติโดยเร็ว
นายเซีย จำปาทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีเกิดข้อพิพาทระหว่างบริษัท ไดกิ้น กับสหภาพแรงงานฯ ว่า นายจ้างไดกิ้น “ปิดงาน” กระทรวงแรงงานต้องประสานไกล่เกลี่ยหาข้อยุติโดยเร็ว
M STUDIO จับมือค่ายหนังยักษ์เกาหลี SHOWBOX โคโปรดักชัน–ลงทุนร่วม นำภาพยนตร์ไทยบุกตลาดโลก
M STUDIO ประกาศความร่วมมือกับ SHOWBOX หนึ่งในสตูดิโอภาพยนตร์รายใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ผู้สร้างผลงานระดับบล็อกบัสเตอร์มากมายอย่าง Exhuma, The Host, ร่างทรง, The Thieves, A Taxi Driver, The Man Standing Next
ก.แรงงาน เคาะ 7 มาตรการเร่งด่วน เยียวยา 'สถานประกอบการ-ผู้ประกันตน' น้ำท่วม
รัฐบาลบูรณาการความร่วมมือทุกส่วนราชการเดินหน้า เร่งฟื้นฟู เยียวยาผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมภาคใต้
TSB จับมือ ก.แรงงาน มอบข้าวสาร - น้ำดื่ม ช่วยผู้ประสบอุทกภัยใต้
ไทย สมายล์ บัส มอบข้าวสาร 5,000 ถุง น้ำดื่ม 2,400 ขวด แก่กระทรวงแรงงาน ระดมความช่วยเหลือเพื่อผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้
‘สุชาติ’ กำชับ การช่วยเหลือประชาชนน้ำท่วมใต้ ต้องเป็นเอกภาพ .. สั่งศูนย์ฯ ทส. บูรณาการใกล้ชิดร่วมกองบัญชาการสั่งการ ค่ายเสนาณรงค์
นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่หาดใหญ่ จ.สงขลา และพื้นที่ภาคใต้
กรมป่าไม้ ส่งสิ่งของที่รับบริจาคถึง อ.หาดใหญ่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่แจกจ่ายให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัย
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า จากการที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แสดงความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และได้สั่งการให้ กรมป่าไม้จึงเร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือและยานพาหนะที่จำเป็นเร่งลงพื้นที่เพื่อเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทั้งในด้านการอพยพประชาชน การสนับสนุนด้านเสบียง และกำลังช่วยอย่างเต็มที่


