พระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจการพัฒนาด้านต่าง ๆ ผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อความกินดีอยู่ดีของประชาชนในชนบท และมีส่วนสำคัญที่เข้าไปเสริมแผนงานต่าง ๆ ของรัฐบาล ซึ่งก่อเกิดประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศชาติ ในการปฏิบัตินั้น รัฐบาลได้จัดระบบการสนองพระราชดำริขึ้นในปี พ.ศ. 2524 โดยกำหนดให้มีองค์กรระดับชาติรับผิดชอบเรียกว่า “คณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” หรือเรียกโดยย่อว่า (กปร.)

นายปวัตร์ นวะมะรัตน เลขาธิการ กปร. เปิดเผยว่า ปัจจุบัน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั่วประเทศ รวมจำนวน 5,151 โครงการ แบ่งออกเป็น 8 ด้าน ได้แก่ โครงการพัฒนาด้านแหล่งน้ำ ด้านการเกษตร ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านส่งเสริมอาชีพ ด้านสาธารณสุข ด้านคมนาคม การสื่อสาร ด้านสวัสดิการสังคม การศึกษา และด้านบูรณาการ อื่น ๆ ซึ่งเป็นความร่วมมือจากหลากหลายหน่วยงานที่ร่วมกันดำเนินงานสนองพระราชดำริ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ในการดำเนินงานนอกจากจะเผยแพร่องค์ความรู้จากการพัฒนาตามแนวพระราชดำริไปสู่ประชาชนทุกกลุ่มแล้ว สำนักงาน กปร. ยังให้ความสำคัญกับกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ซึ่งจะเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศ จึงจัดโครงการค่ายเยาวชนรู้งานสืบสานพระราชดำริ (RDPB Camp) ขึ้นเป็นประจำมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันดำเนินการมาเป็นรุ่นที่ 13 แล้ว โดยนำเยาวชนในระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่า จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ร่วมเข้าค่ายเรียนรู้แนวพระราชดำริทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมทั้งยังจัดให้มีกิจกรรมการประกวดโครงการเพื่อชิงทุนการศึกษาและรางวัลต่อไป

นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดทำโครงการความร่วมมือเพื่อขยายผลองค์ความรู้การพัฒนาตามแนวพระราชดำริสู่เยาวชน ในรูปแบบสื่อดิจิทัล โดยมีการนำเสนอให้มีความน่าสนใจตามยุคสมัย ผ่านรถโมบาย (Mobile Unit) เพื่อเผยแพร่ขยายผลแนวพระราชดำริไปยังโรงเรียนบริเวณพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และในพื้นที่ห่างไกล ให้ได้รับความรู้อันก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต
และจากพระปฐมบรมราชโองการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 “เราจะสืบสาน รักษา ต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” จึงนำไปสู่การสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี ส่วนใหญ่เป็นเรื่องแหล่งน้ำประมาณ 70 - 80 % ของโครงการรวมทั้งหมด เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามพระปฐมบรมราชโองการ จึงมีการกำหนดแผนว่าจะทำอะไรบ้างตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เมื่อโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเป็นกลางน้ำ ต้นน้ำ คือ ป่าซึ่งเป็นต้นทุนให้กับอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนต่าง ๆ ให้มีน้ำสมบูรณ์ ปลายน้ำก็จะต่อยอดพัฒนาได้ ตั้งแต่เรื่องการเกษตร การพัฒนาอาชีพ การพัฒนาชุมชน การตลาด และพลังงานทดแทน และด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภูมิสังคม อันนี้คือภารกิจของ กปร. ที่สำคัญ โดยเรามีองค์ความรู้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตั้งแต่เรื่องของเกษตรทฤษฎีใหม่ เศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาอาชีพต่าง ๆ มีศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 6 แห่ง รวมถึงมีศูนย์สาขาและศูนย์เรียนรู้ในด้านต่าง ๆ กว่าร้อยแห่งทั่วประเทศ เหล่านี้เกิดจากการศึกษา ทดลอง วิจัย ที่สำเร็จแล้วก็นำผลสัมฤทธิ์เหล่านี้ไปต่อยอดในพื้นที่ปลายน้ำให้เกิดประโยชน์ อันนี้คือแนวทางที่สำนักงาน กปร. จะดำเนินการเพื่อสนองพระราชดำริในการสืบสาน รักษา ต่อยอดตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสครบรอบวันสถาปนา 42 ปี สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่ด้านการประสานงานกับส่วนงานที่ร่วมสนองงานพระราชดำริขอสืบสานพระราชดำริ เพื่อร่วมกันพัฒนาสร้างรากฐานชีวิตที่สมดุลให้แก่ประชาชนต่อไป” เลขาธิการ กปร. กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กปร. – มหาดไทย จับมือขับเคลื่อน “One Plan” บูรณาการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
สำนักงาน กปร. ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้วยระบบ “One Plan” มุ่งเน้นการวางแผนแบบจากล่างขึ้นบน Bottom-Up รับฟังปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่โดยตรง ลดการใช้งบประมาณที่ซ้ำซ้อน และเชื่อมโยงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความมั่นคงของประเทศอย่างยั่งยืน
กปร. เปิดคู่มือ One Plan ยกระดับโครงการพระราชดำริ 17 จังหวัดเหนือ
สำนักงาน กปร. เดินหน้ายกระดับการบริหารและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเชิงพื้นที่ เปิดตัว“คู่มือ One Plan” นำร่อง 3 จังหวัดภาคเหนือ น่าน พิษณุโลก และเชียงใหม่ มุ่งสร้างกลไกการทำงานแบบบูรณาการจากระดับพื้นที่ ลดความซ้ำซ้อน
พลิกดินแล้งเป็นสวนผลไม้ ต่อยอดการใช้ประโยชน์ โครงการฝายห้วยน้ำพร้าฯ ตำบลนางพญา อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์
สำนักงาน กปร.ร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินหน้าต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่งเสริมการปลูกที่เหมาะสมกับพื้นที่ สนับสนุนการรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแปลงใหญ่ ควบคู่ไปกับการ
จากพื้นที่แห้งแล้งสู่แหล่งเกษตรมั่นคง “ห้วยต่อน้อย” ต้นแบบความร่วมมือของราษฎร
ราษฎรตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ร่วมกันเสียสละพื้นที่สวนยางพารา เพื่อก่อสร้าง “อ่างเก็บน้ำบ้านห้วยต่อน้อยพร้อมระบบส่งน้ำ” ตามที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
“ฝายคลองใหญ่” เสริมชีวิต สร้างน้ำเปลี่ยนผืนดิน สู่สวนผสมผสานยั่งยืน
จากนาร้างไร้น้ำ สู่สวนผลไม้เขียวขจีตลอดปี ราษฎรบ้านยูงงาม และบ้านโหล๊ะคล้า ตำบลโพรงจระเข้ อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง พลิกฟื้นผืนนาแห้งแล้งกว่า 2,000 ไร่ ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง
เดินหน้าสร้างเครือข่ายขยายผลการพัฒนา “คน กปร ตัวคูณ “ ขยายผลนักพัฒนาตามแนวพระราชดำริ (พพร.) รุ่นที่ 12 ปี 2568
บุคลากร ภาครัฐ เอกชน ร่วมภารกิจ คน กปร.ตัวคูณ ในโครงการนักพัฒนาตามแนวพระราชดำริ (พพร.) เรียนรู้ประยุกต์ใช้ ขยายผลการพัฒนาตามแนวพระราชดําริกับบริบทการพัฒนาประเทศที่ท้าทายในปัจจุบัน สานต่อพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สืบสาน รักษา


