เปิดภารกิจ ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า สู่ผลงานที่ลงมือทำจริงของกลุ่มธุรกิจ TCP

ปี 2566 ที่กำลังจะผ่านไป เป็นปีที่องค์กรต่างๆ หันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืนหรือ Sustainability Development อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม และมีองค์กรจำนวนไม่น้อยที่ได้เริ่มทำงานด้านความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือกลุ่มธุรกิจ TCP ซึ่งหลังจากประกาศเป้าหมายใหม่ “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า” ได้เดินหน้าตามกลยุทธ์ “ปลุกพลังห่วงใยสิ่งแวดล้อม” ที่วางไว้ และตลอดปี 2566 นี้ มีการทำงานด้านความยั่งยืนหลากหลายมุมมองที่น่าสนใจและน่าติดตาม

ฟื้นฟูแหล่งน้ำ คืนน้ำสู่ธรรมชาติและชุมชนได้มากกว่า 17 ล้านลูกบาศก์เมตร

การพิชิตเป้าหมายคืนน้ำกลับสู่ธรรมชาติและชุมชน กลุ่มธุรกิจ TCP ได้ริเริ่มโครงการ TCP โอบอุ้มลุ่มน้ำไทย มุ่งเน้นการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำครบทุกมิติ ทั้งน้ำบนดิน และน้ำใต้ดิน ทั้ง 3 ลุ่มน้ำ (ลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำโขง และลุ่มน้ำบางปะกง) เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ต่างๆ สร้างความยั่งยืนและผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคม เพื่อให้ชุมชนมีแหล่งน้ำในการอุปโภค บริโภค และการเกษตรอย่างเพียงพอ อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของชุมชน สร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับเกษตรกร

ปัจจุบัน กลุ่มธุรกิจ TCP สามารถคืนน้ำได้แล้วมากกว่า 17 ล้านลูกบาศก์เมตร มีผู้รับประโยชน์กว่า 42,000 ครัวเรือน  (ตัวเลขสะสมระหว่างปี 2562-2566) นอกจากพัฒนาความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้ชุมชนและสังคมในเวลาเดียวกัน  

โดยปีนี้มีพื้นที่ที่มีผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม คือ พื้นที่ลุ่มน้ำยม จังหวัดแพร่ ที่ได้ฟื้นฟูแหล่งน้ำด้วยการบริหารจัดการน้ำบนดิน นำแนวทาง “ฟื้นฟูป่า-พัฒนาน้ำ-ทำเกษตรแบบ Smart Farmer” ซึ่งมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ เข้าไปช่วยให้เกิดการวิเคราะห์ข้อมูลที่แม่นยำ จนปัจจุบันสามารถพลิกฟื้นพื้นที่แห้งแล้งให้มีความอุดมสมบูรณ์ มีน้ำอุปโภคบริโภคมากกว่าต้นทุนน้ำที่ชุมชนต้องการ และทำการเกษตรอย่างมั่นคง เกิดการบริหารจัดการน้ำแบบพึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืน

พื้นที่ลุ่มน้ำยม จ. แพร่ ที่ได้รับการฟื้นฟูจนมีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำมากกว่าต้นทุนน้ำที่ชุมชนต้องการ

เมื่อมีน้ำ ชุมชนสามารถสร้างผลผลิตมีมูลค่าทางเศรษฐกิจเพื่อนำไปแปรรูปและเพิ่มมูลค่าได้อย่างต่อเนื่อง

อีกหนึ่งพื้นที่คือ ลุ่มน้ำบางปะกง ตำบลนนทรี จังหวัดปราจีนบุรี ที่ได้นำมิติการบริหารจัดการน้ำอย่างการเติมน้ำใต้ดินเข้ามาใช้ ซึ่งไม่เพียงแค่ทำการเกษตรได้ดีขึ้นจากการที่คนในชุมชนเปลี่ยนมาปลูกพืชที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง มีผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มมากขึ้น 7.57 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น แต่ยังปลุกพลังเศรษฐกิจชุมชน สร้างโอกาสและรายได้ที่มั่นคงอย่างยั่งยืน

สระขั้นบันได หนึ่งในวิธีการเติมน้ำใต้ดิน เหมาะกับพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง มีน้ำหลากมาก สามารถกักเก็บน้ำได้มากและเติมน้ำได้อย่างรวดเร็ว

TCP Sustainability Forum ปลุกพลังลงมือปฏิบัติ เปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero

นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP แชร์วิสัยทัศน์ในการเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero คือการเปลี่ยน mindset เป็นตัวเราที่ดีกว่าเดิม

ไม่เพียงแต่การลงมือทำในด้านการลงพื้นที่ชุมชน แต่ในด้านการจัดงานประชุมด้านความยั่งยืน ก็เป็นอีกแพลตฟอร์มปลุกพลังที่กลุ่มธุรกิจ TCP ใช้ส่งแรงกระเพื่อมออกไป โดยปีนี้จัดงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สู่แนวคิด Net Zero Transition…From Commitment to Action หรือ การเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero จากพันธสัญญาสู่การปฏิบัติ เพื่อรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในอนาคต เน้นความสำคัญของการลงมือปฏิบัติในแต่ละภาคส่วน ทั้งนักธุรกิจ นักคิด และนักปฏิบัติที่มาร่วมระดมสมอง แบ่งปันข้อมูล เพื่อร่วมปลุกพลังอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ในงานนี้ นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP ฉายภาพวิสัยทัศน์ในการเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero คือการเปลี่ยน mindset เปลี่ยนวิธีทำธุรกิจ เป็นตัวเราที่ดีกว่าเดิม ทำให้ธุรกิจเติบโตควบคู่ไปกับการลดผลกระทบเชิงลบและเพิ่มผลกระทบเชิงบวกให้กับสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยสิ่งที่กลุ่มธุรกิจ TCP ได้ดำเนินการและมีความก้าวหน้าที่สำคัญ ได้แก่ การลดก๊าซเรือนกระจกได้ 4% เทียบเท่าคาร์บอนเมตริกตัน หรือประมาณ 2,300 ตัน การลดขนาดและน้ำหนักบรรจุภัณฑ์เพื่อใช้ทรัพยากรให้น้อยลง พร้อมทำงานร่วมกับพันธมิตรในการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์เข้าสู่ระบบรีไซเคิล การทำ Zero Discharge หรือการไม่ปล่อยน้ำที่เกิดขึ้นในโรงงานออกไปภายนอก แต่นำมา Recycle, Reduce, Reuse ให้เกิดประโยชน์ รวมถึงการออกสินค้าใหม่ โดยปัจจุบันมากกว่า 70% ของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธุรกิจ TCP เป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ

พันธมิตรของกลุ่มธุรกิจ TCP ยังได้มาร่วมแชร์มุมมองการทำงานด้านความยั่งยืน

นอกจากนี้ พันธมิตรของกลุ่มธุรกิจ TCP ยังได้มาร่วมแชร์มุมมองการทำงานด้านความยั่งยืน ที่วันนี้ทุกภาคส่วนของซัพพลายเชนธุรกิจต่างให้ความสำคัญในเรื่องนี้ โดยได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานเข้าฟังเป็นจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มธุรกิจ TCP เชื่อว่าเวทีนี้จะช่วยจุดประกายความคิด สร้างแรงบันดาลใจ ผลักดันให้ทุกภาคส่วนปรับตัวมองไปข้างหน้าด้วยอัตราเร่งมากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่วันที่ดีกว่าเดิม

“พลังธัญ - กล่องเติมพลังกาย พลังใจ” นวัตกรรมรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก

‘กล่องเติมพลังกาย พลังใจ’ ผลิตจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง ตามแนวคิด Circular Economy และ ‘พลังธัญ’ นวัตกรรมอาหารในรูปแบบเครื่องดื่มธัญญาหารสำเร็จรูป

ด้วยความตั้งใจของกลุ่มธุรกิจ TCP ที่ต้องการช่วยเหลือคนไทยให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น จึงได้พัฒนาไอเดียในการออกแบบ “พลังธัญ” นวัตกรรมอาหารที่ออกแบบและผลิตโดยผู้เชี่ยวชาญจากทีม “นวัตกรรมอาหาร” ของกลุ่มธุรกิจ TCP ต่อยอดความเชี่ยวชาญในฐานะผู้นำด้านอาหารและเครื่องดื่ม มาในรูปแบบเครื่องดื่มธัญญาหารสำเร็จรูป ผสมผัก ผลไม้ สูตรโปรตีนและใยอาหารสูง จึงไม่เพียงแค่กินง่าย และเติมพลังให้อิ่มท้องเท่านั้น แต่ยังได้สารอาหารที่มีคุณประโยชน์ครบถ้วน บรรจุอยู่ใน “กล่องเติมพลังกาย พลังใจ” โดยร่วมมือกับ SCGC คิดค้นบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนภายใต้แนวคิด Circular Economy พัฒนานวัตกรรมกล่องรักษ์โลกที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง (High quality post-consumer recycled resin หรือ PCR resin) โดยนำพลาสติกเหลือใช้จากกระบวนการผลิตมาสร้างคุณค่าใหม่ ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ใช้ใส่ของจำเป็น ส่งความช่วยเหลือไปได้อย่างรวดเร็วเมื่อมีภัยพิบัติ เพื่อปลุกพลังกายและพลังใจให้กับทุกคน

ชวนอาสามาลงมือทำ สร้างแรงกระเพื่อมผ่าน TCP Spirit 

กิจกรรมอาสา TCP Spirit  คณะเศษสร้าง ปี 2 พาเรียนรู้โครงการพัฒนาดอยตุงฯ ต้นแบบการพัฒนาอย่างยั่งยืน

TCP Spirit  กิจกรรมอาสาที่ไม่ใช่เพียงได้เรียนรู้ ลงมือทำ แต่ยังส่งต่อแรงบันดาลใจให้เป็นแรงกระเพื่อมออกไปไม่สิ้นสุด จากความตั้งใจของกลุ่มธุรกิจ TCP ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 และในแต่ละปีจะกำหนดธีมของกิจกรรมที่สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืน โดยในปีนี้ใช้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน มาเป็นธีมในการจัดกิจกรรมภายใต้ชื่อคณะเศษสร้าง ปี 2 พาอาสา TCP Spirit ไป “แอ่วเหนือขึ้นดอย ตามรอยวิถีไร้ขยะ” มุ่งหน้าสู่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ ต้นแบบการพัฒนาอย่างยั่งยืน เรียนรู้การจัดการ “เศษ” ขยะและ “สร้าง” มูลค่าใหม่ผ่านการลงมือแบบครบวงจร พร้อมเรียนรู้ความเชื่อมโยงในระบบนิเวศ เพื่อเข้าใจต้นตอของปัญหาอย่างแท้จริง และแม้ว่ากิจกรรมเหล่านี้อาจจบลงไปแล้ว แต่เหล่าอาสาจะกลายเป็นอีกหนึ่งพลังดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมออกไปส่งพลังช่วยเหลือสังคมต่อไป

วิชากายวิภาคของ “เศษ” พาอาสาทำความเข้าใจการแยกขยะที่สามารถแยกได้ถึง 44 ประเภท และทุกประเภทนำไปใช้ประโยชน์ได้

นี่คือภารกิจปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า จากกลุ่มธุรกิจ TCP ที่ไม่เพียงลงมือทำตามแผนงานที่วางไว้ แต่ยังใช้แพลตฟอร์มที่บริษัทมี เข้ามาประยุกต์ใช้ในการทำงานด้านความยั่งยืนให้เกิดเป็นรูปธรรมได้อย่างน่าชื่นชม ไปพร้อมกับการขยายความร่วมมือสู่พันธมิตรและผู้คนมากมาย เพื่อรวมพลังการขับเคลื่อนไปสู่โลกที่ดีขึ้นสำหรับทุกคนไปด้วยกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘แมนซั่ม วิตามิน วอเตอร์’ ส่ง 2 สูตรใหม่ ตอบโจทย์ผู้ชายวัยทำงานที่ใส่ใจสุขภาพ

กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดตัว แมนซั่ม วิตามิน วอเตอร์ 2 สูตรใหม่ “แมนซั่ม วิตามิน วอเตอร์ ใบแปะก๊วย ชาเขียวและโสม” และ “แมนซั่ม วิตามิน วอเตอร์ แอล-กลูตาไธโอน ซีบัคธอร์น”