วันมาฆบูชา 2567 สสส.-มูลนิธิปลูกต้นไม้ปลูกธรรมะ ชวนพุทธศาสนิกชนเวียนเทียนยุคใหม่ด้วยต้นไม้ ณ วัดใกล้บ้าน 52 แห่งทั่วประเทศ มุ่งลดการเผา

วันมาฆบูชา 2567 สสส.-มูลนิธิปลูกต้นไม้ปลูกธรรมะ ชวนพุทธศาสนิกชนเวียนเทียนยุคใหม่ด้วยต้นไม้ ณ วัดใกล้บ้าน 52 แห่งทั่วประเทศ มุ่งลดการเผา หลังพบ ‘จุดธูป 1 ดอก = สูบบุหรี่ 1 มวน’ ต้นเหตุก่อวิกฤตฝุ่น PM2.5 เพิ่ม 10 เท่า ซ้ำ กระทบสุขภาพเสี่ยงป่วย NCDs ด้าน วัดอรุณฯ เริ่มกิจกรรมตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่ม

พระวชิรรัตนาภรณ์, ดร. ผู้รักษาการเจ้าคณะแขวงวัดอรุณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสและเลขานุการวัดอรุณราชวราราม กล่าวว่า วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี เป็นวันมาฆบูชา ถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ชาวพุทธร่วมกันทำบุญ ตักบาตร รักษาศีล เจริญภาวนา และเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ วัดอรุณฯ ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิปลูกต้นไม้ปลูกธรรมะ และกรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดงาน “เวียนเทียนด้วยต้นไม้ ในวันมาฆบูชา 2567” ซึ่งจะตรงกับวันเสาร์ที่ 24 ก.พ. เปิดให้เวียนเทียนตั้งแต่ 09.00-20.00 น. (พระสงฆ์นำ เวลา 19.00 น.) เชิญพุทธศาสนิกชนร่วมเวียนเทียนด้วยต้นไม้แทนการจุดธูปเทียน นอกจากเป็นการระลึกถึงบุญคุณของต้นไม้ ที่มีบทบาทสำคัญในพุทธประวัติ ทั้งเป็นสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ยังเป็นการทำบุญที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดมลพิษทางอากาศและขยะที่เกิดดอกไม้ ธูป เทียนเกินความจำเป็น ซึ่งดีต่อสุขภาพพระสงฆ์และประชาชน เพิ่มความสุขทางใจ ถือเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต

ดร.ชาติวุฒิ วังวล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สสส. กล่าวว่า ไทยกำลังเผชิญปัญหาวิกฤตฝุ่น PM 2.5 ในระดับที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ สาเหตุหลักเกิดจากการเผาไหม้ในที่โล่ง การจุดธูป เทียน จากข้อมูลควันธูปกับมะเร็ง โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า หากจุดธูป 1 ดอก จะทำให้ฝุ่น PM2.5 เพิ่มขึ้น 2-10 เท่าของฝุ่นที่มีอยู่แล้วในอากาศ ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมของสถานที่ ทำให้ผู้ที่จุดธูปได้รับผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง สอดคล้องกับข้อมูลของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ที่พบว่าจุดธูปเพียง 1 ดอก และสูดควันเข้าไป เท่ากับการสูบบุหรี่ 1 มวน ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญในการกระตุ้นให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs)

“การเวียนเทียนด้วยต้นไม้ ถือเป็นนวัตกรรมแนวทางการทำบุญวิถีใหม่ที่ได้บุญ 2 ต่อ ช่วยประเทศแก้ไขปัญหาวิกฤตฝุ่นควัน PM 2.5 เพิ่มพื้นที่สีเขียว คืนลมหายใจสะอาดให้กับประชาชน ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค NCDs การจัดงานครั้งนี้ มีวัดเข้าร่วม 52 แห่งทั่วทุกภูมิภาค แจกกล้าไม้กว่า 1 หมื่นต้น ทั้งไม้ยืนต้น ไม้ดอก ไม้พุ่มที่ช่วยลดฝุ่น โดย กทม. ร่วมแจกกล้าไม้ 1,000 ต้น ที่สวนสาธารณะ 5 แห่ง 1.สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) 2.สวนเบญจกิติ 3.สวนจตุจักร 4.สวนธนบุรีรมย์ 5.สวนนวมินทร์ภิรมย์ เพื่อนำไปเวียนเทียนที่วัดใกล้บ้าน เป็นส่วนหนึ่งในโครงการปลูกต้นไม้ล้านต้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างค่านิยมประชาชนในการลดการจุดธูป เทียนภายในบริเวณวัด มุ่งเป้าขยายผลความร่วมมือเพื่อให้วัดจัดกิจกรรมเวียนเทียนด้วยต้นไม้ทุกวันสำคัญทางศาสนา” ดร.ชาติวุฒิ กล่าว

พล.ร.อ.ประพฤติพร อักษรมัต รองประธานกรรมการ มูลนิธิปลูกต้นไม้ปลูกธรรมะ กล่าวว่า มูลนิธิปลูกต้นไม้ปลูกธรรมะ มุ่งรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนทำบุญด้วยการปลูกต้นไม้ พร้อมดูแลอย่างต่อเนื่องจนต้นไม้เติบโต เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวให้เพิ่มขึ้นในสังคม จึงถือโอกาสวันสำคัญหรือประเพณีทำบุญรณรงค์ให้ปลูกต้นไม้ การเวียนเทียนด้วยต้นไม้ ผู้เวียนเทียนสามารถนำต้นไม้มาจากบ้าน หรือมารับในงาน เมื่อเวียนเทียนเสร็จสามารถนำกลับไปปลูกที่บ้านเพื่อเป็นสิริมงคล หรือมอบกล้าไม้ให้กับวัดใช้รีไซเคิล วนกลับมาใช้อีกครั้งก่อนนำไปปลูกบริเวณวัดหลังกิจกรรมเสร็จสิ้น ทั้งนี้ เข้าไปลงทะเบียนการปลูกต้นไม้ได้ที่ @bangkoktree และติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ “ปลูกต้นไม้ปลูกธรรมะ”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สสส. ปลื้ม ครบรอบ 4 ปี ThaiHealth Academy พัฒนานวัตกรรมหลักสูตรสุขภาวะ 82 หลักสูตร

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2567 ที่โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สถาบันการเรียนรู้การสร้างเสริมสุขภาพ หรือ ThaiHealth Academy

"ออมสุขภาพ” รับวัยเกษียณ เตรียมพร้อมสู่สังคมผู้สูงวัย

สังคมไทยเดินเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ขณะนี้มีผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 12 ล้านคน จากจำนวนคนไทย 66 ล้านคน และในอนาคตคืออีก 60 ปีข้างหน้า

เด็กไทย 1 ใน 10 น้ำหนัก/ส่วนสูงหลุดเกณฑ์ กระทบสมอง เสี่ยงปัญหาสุขภาพจิต ป่วย NCDs

นางเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากข้อมูลพัฒนาการเด็กปฐมวัยของไทย ปี 2566 โดยกรมอนามัย

วิจัยพบสังคมไทยเหลื่อมล้ำทุกมิติ สื่อสารในครอบครัวลดช่องว่างได้

ผลสำรวจเด็กและเยาวชนไทยปลอดภัยจากความรุนแรงออนไลน์ รั้งท้ายโลกเป็นอันดับที่ 29 เหนือกว่าอุรุกวัยเพียงประเทศเดียวเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบ 30 ประเทศทั่วโลกเมื่อปี 2022

กทม.เนรมิตเมือง 15 นาทีเป็นจริง สร้างพื้นที่สีเขียวอิ่มเอมใจทั่วกรุง

กทม.ทวีความรุนแรง เมืองจมฝุ่น การจราจรติดขัด ขาดแหล่งอาหาร สำรวจคนกรุงเผชิญรถติดเฉลี่ยวันละ 2 ชั่วโมง หรือใน 1 ปีชีวิตติดหนึบอยู่บนรถเท่ากับ