เทคนิคบิ้วอินห้องทำงาน อย่างมืออาชีพ

เพราะการทำงานในยุคปัจจุบันมีการแข่งขันสูง การทำงานแค่ในออฟฟิศจึงอาจไม่เพียงพอที่จะนำพาเราไปสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงานเหมือนกับที่ฝันไว้ ดังนั้นตั้งแต่พนักงานไปจนถึงระดับผู้บริหารหลายคน จึงให้ความสำคัญกับการบิ้วอินห้องทำงานภายในบ้าน เพื่อให้สามารถใช้เวลากับการนั่งหน้าโต๊ะผลักดันงานได้อย่างสุนทรีมากยิ่งขึ้น

แต่ถ้าหากยังไม่รู้ว่าจะเริ่มการบิ้วอินห้องทำงานอย่างไร เราก็มีข้อแนะนำเกี่ยวกับการบิ้วอินห้องทำงานที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย มาฝากให้นำไปใช้กัน โดยจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้นเราไปดูกันเลยดีกว่า

1.โทนสีสว่าง เรียบง่ายและใช้ง่าย

โทนสีในการบิ้วอินห้องทำงานของแต่ละคนก็มีแนวความคิดแตกต่างกันออกไป ทั้งการเลือกสีที่ชอบ , การตั้งใจเลือกสีคล้ายกับที่ทำงาน หรือตั้งใจเลือกสีที่แตกต่างกับออฟฟิศเพื่อไม่ต้องการให้มีบรรยากาศเหมือนกับเวลาไปออฟฟิศเลยก็มี แต่ถ้าหากคุณยังลังเลอยู่ว่าจะเลือกสีอะไร สีโทนสว่าง คือตัวเลือกที่เหมาะสมมากที่สุด อย่าง สีขาว สีครีม สีเหลืองอ่อน และสีฟ้าอ่อน เป็นต้น เพราะสีเหล่านี้ไม่ได้ช่วยแค่การสร้างความรู้สึกผ่อนคลายได้เพียงอย่างเดียว แต่ความสะอาดตาของสียังช่วยให้คุณหยิบจับใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้สะดวกขึ้นอีกด้วย

2.เฟอร์นิเจอร์ต้องสอดคล้องกับลักษณะงาน

เพราะลักษณะงานของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนมีงานต้องเก็บเอกสารเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องใช้เฟอร์นิเจอร์ที่รองรับการเก็บของได้เยอะ ๆ ตั้งแต่ ตู้เก็บของตั้งพื้น ตู้ลอยติดผนัง หรือ ชั้นวางของแนวสูงสำหรับเก็บแฟ้ม เป็นต้น

ในขณะที่บางคนมีความต้องการแค่พื้นที่สำหรับการทำงานอย่างการจดเขียนหรือใช้งานคอมพิวเตอร์ ดังนั้นเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้นอกจากโต๊ะและเก้าอี้แล้ว อาจใช้เพิ่มเพียงแค่ตู้เก็บของกับชั้นวางไม่กี่ชิ้น เพราะการบิ้วอินห้องทำงานจำเป็นต้องมีการคำนึงถึงพื้นที่ใช้สอยด้วย ซึ่งถ้าหากเฟอร์นิเจอร์เยอะเกินความจำเป็น มันก็หมายถึงพื้นที่ใช้สอยโดยปกติจะลดน้อยลงตามไปด้วย

3.เลือกโต๊ะตามขนาดพื้นที่ห้อง

หากพื้นที่บิ้วอินห้องทำงานของคุณมีพื้นที่กว้าง ก็สามารถเลือกใช้โต๊ะขนาดใหญ่แล้วนำไปวางในบริเวณกลางห้องได้เลย เพื่อให้สะดวกต่อการใช้สอย แต่ถ้าเป็นห้องแคบหรือมีพื้นที่น้อยก็แนะนำให้จัดตั้งโต๊ะในบริเวณมุมห้อง โดยใช้ตัวที่มีขนาดเล็กหรือโต๊ะแบบลอยติดกำแพง จะดูง่ายต้องการใช้งานมากกว่า

4.โต๊ะเคาน์เตอร์เล็ก ๆ สำหรับมุมจิบกาแฟ

ในกรณีที่คุณเป็นคนใช้เวลาในห้องทำงานมาก ไหน ๆ ก็จะบิ้วอินห้องทำงานแล้ว เราก็ขอแนะนำให้คุณทำมุมยอดฮิตในออฟฟิศ อย่างมุมกาน้ำร้อนสำหรับชงกาแฟหรือต้มมาม่า โดยติดตั้งชั้นลอยหรือโต๊ะเคาน์เตอร์สักตัว ก็จะเป็นอะไรที่สร้างความผ่อนคลายได้มากยิ่งขึ้น

5.เหลือพื้นที่ไว้สำหรับวางของประดับบ้างก็ดี

ของตกแต่งห้องอย่าง กรอบรูปภาพ ภาพวาด ตุ๊กตา แจกันดอกไม้ หรือกระถางต้นไม้ จะช่วยสร้างบรรยากาศให้ห้องดูไม่เคลียดจนเกินไป ฉะนั้นหากมีพื้นที่เหลือตรงบริเวณชั้นวาง โต๊ะทำงาน หรือมุมว่างในห้อง ก็แนะให้ใช้พื้นที่เหล่านั้นวางของประดับลงไปบ้างก็จะดีไม่น้อย อีกทั้งยังช่วยให้การบิ้วอินห้องทำงานดูสวยงามยิ่งขึ้นด้วย

6.เก้าอี้ออฟฟิศเพื่อสุขภาพ จะขาดไปไม่ได้

เก้าอี้ออฟฟิศเพื่อสุขภาพ ถือเป็นเฟอร์นิเจอร์คู่ใจของเหล่าบรรดาพนักงานออฟฟิศที่จะขาดไปไม่ได้เลย เพื่อหลีกเลี่ยงอาการออฟฟิศซินโดรมที่พบได้มากขึ้นในยุคปัจจุบัน โดยเก้าอี้ที่ดีจะต้องรองรับกระดูกสันหลัง สามารถวางแขนระนาบไปกับโต๊ะ และเมื่อนั่งจะต้องวางเท้ากับพื้นได้พอดี

จะเห็นได้ว่าแนวทางการบิ้วอินห้องทำงาน ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากเลย เนื่องจากเป็นห้องที่ใช้งานเพียงคนเดียว องค์ประกอบจึงไม่จำเป็นต้องมีอะไรซับซ้อนมาก ซึ่งนั้นหมายความว่าถึงไม่มีงบมาก เราก็สามารถบิ้วอินห้องทำงานเป็นมุมส่วนตัวของตัวเองได้ไม่ยาก

ขอบคุณข้อมูลจาก https://ofisu.co.th/built-in/