77 จังหวัดของประเทศไทยเต็มไปด้วยอาหารอร่อย เมนูเด็ด ทั้งคาว หวาน และอาหารว่างกินเพลิน บางเมนูหาทานได้เฉพาะในจังหวัดนั้นๆ อาหารไทยจึงเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดทั้งชาวไทยและคนทั่วโลก เป็น Soft power ที่สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ
ปีนี้ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) จับมือภาคีภาครัฐ เอกชน ประชาสังคมขับเคลื่อน “ 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ประจำปี 2567 ยกระดับอาหารถิ่นสู่เมนูอาหารยอดนิยม เสริมภาคการท่องเที่ยว เพิ่มความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้ท้องถิ่น
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า วธ. โดย สวธ.ร่วมกับกาชาด 77 จังหวัดทั่วประเทศเฟ้นหา “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) “รสชาติ...ที่หายไป The Lost Taste” เมื่อปี 2566 ได้รับการตอบรับจากทุกภาคส่วน ประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวให้ความสนใจตามหาและชิมเมนูอาหารที่หารับประทานได้ยากของจังหวัดต่าง ๆ ในหลายเมนูได้รับการพัฒนาต่อยอดให้เป็นเมนูยอดนิยม กระตุ้นภาคการท่องเที่ยว นำมาซึ่งรายได้ให้ภาคอุตสาหกรรมอาหารในท้องถิ่นและจังหวัด
นางสาวสุดาวรรณ กล่าวต่อว่า อาหารเป็นหนึ่งในนโยบายขับเคลื่อน Soft power ของรัฐบาลตามยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ Thailand creative content agency (THACCA) กับ 11 กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ปีนี้ สวธ. จึงจัดโครงการด้านอาหารต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 บูรณาการหน่วยงานภาคี อาทิ กรมการแพทย์แผนไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม เพื่อเสริมสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการอาหารในพื้นที่
“ แต่ละจังหวัดจะเฟ้นหาเมนูอาหารถิ่นที่กำลังจะสูญหาย หาทานยาก มาสร้างสรรค์ พัฒนา ยกระดับให้เป็นอาหารยอดนิยม รู้จักแพร่หลาย รณรงค์ให้คนในพื้นที่เกิดความรัก ภาคภูมิใจ และปลูกฝังค่านิยมการบริโภคอาหารจากภูมิปัญญาพื้นบ้านแก่เยาวชนรุ่นใหม่ เพิ่มคุณค่าและมูลค่าให้อาหารไทยถิ่นเป็น Soft power ที่มีศักยภาพหนุนการท่องเที่ยว สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้ท้องถิ่นจนถึงระดับประเทศ ” รมว.วธ. กล่าว
แนวทางการขับเคลื่อน“1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ปีนี้ นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า สวธ. โดยคณะกรรมการของแต่ละจังหวัดที่ตั้งขึ้นจะดำเนินการคัดเลือกเมนูอาหารท้องถิ่นของตนเองตามหลักเกณฑ์การคัดเลือก 6 ด้าน ประกอบด้วย ด้านประวัติความเป็นมา ภูมิปัญญาด้านวิธีการปรุงเคล็ดลับ ด้านคุณค่าควรแก่การสืบสานและถ่ายทอด ด้านวัตถุดิบท้องถิ่นที่สำคัญของอาหาร ด้านการเผยแพร่และพัฒนาต่อยอดเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ด้านโภชนาการ และด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จะคัดเลือกใน 3 เมนูหลัก ได้แก่ อาหารคาว อาหารหวาน และอาหารว่าง
ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มต้นขั้นตอนการเปิดรับข้อมูลอาหาร การคัดเลือกเมนูอาหารถิ่นระดับจังหวัด หลังจากได้เมนูอาหารแล้ว แต่ละจังหวัดจะเปิดให้ประชาชนในพื้นที่โหวตสุดยอดเมนูอาหารถิ่นของจังหวัด จากนั้น สวธ. จะทำการประกาศเผยแพร่เมนูอาหารถิ่น ประจำปี 2567 ทั้ง 77 จังหวัด ภายในเดือนสิงหาคม2567 นี้
โอกาสนี้ วธ.เชิญชวนผู้ประกอบการและประชาชนมีส่วนร่วมค้นหาและเชิดชูอาหารของจังหวัดต่าง ๆ ที่หาทานยาก มีคุณค่าควรอนุรักษ์และต่อยอดด้วยการส่งข้อมูลเมนูอาหารคาว อาหารหวาน และอาหารว่าง เพื่อให้คัดเลือกเป็นเมนูอาหารถิ่นของจังหวัด ในส่วนภูมิภาคส่งได้ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศ กรุงเทพมหานครส่งได้ที่ กลุ่มสนับสนุนกิจการพิเศษ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม โทร 02 247 0013 ต่อ 1414 และ 1419 และติดตามข่าวสารได้ทาง Facebook อาหารไทยถิ่น Thailand Best Local Food
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บอร์ด ICH ขึ้นบัญชี 10 มรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรม ‘งานนมัสการพระธาตุพนม-เสื่อกกจันทบูร-ผ้าหม้อห้อม-ตำนานสุบินกุมาร‘
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมครั้งที่ 3/2567 พิจารณาเห็นชอบให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม
อาลัย ‘สันติ ลุนเผ่’ ศิลปินแห่งชาติ นักร้องเสียงทรงพลังอมตะ ผู้ขับร้องเพลงปลุกใจรักชาติ
10 ธ.ค.2567 - นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า ได้รับการประสานงานจากผู้ดูแลของเรือตรี สันติ ลุนเผ่ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล) พ.ศ.2558 ว่า เรือตรี สันติ ลุนเผ่ ถึงแก่กรรมอย่างสงบ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม
สิ้น'สันติ ลุนเผ่' ศิลปินแห่งชาติ นักร้องเสียงทรงพลัง
นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) โดยกองกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม ได้รับการประสานงานจากผู้ดูแลของเรือตรี สันติ ลุนเผ่ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล) พุทธศักราช 2558 ว่า เรือตรี สันติ ลุนเผ่ ถึงแก่กรรมอย่างสงบ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2567
ฉลอง'ต้มยำกุ้ง' กระหึ่มโลก ชวนลองเมนูมรดกวัฒนธรรม
โด่งดังก้องโลกกับเมนูต้มยำกุ้งของดีเมืองไทย กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จัดงานฉลองต้มยำกุ้งและเคบายา มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ในโอกาสที่ ยูเนสโก ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “ต้มยำกุ้ง” (Tomyum Kung) และ “เคบายา” เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Representative List
ลุ้น'ต้มยำกุ้ง'ขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรม
3 ธ.ค.2567 - นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก จะประชุมพิจารณาประกาศขึ้นทะเบียนอาหาร “ต้มยำกุ้ง” ของประเทศไทย และชุด “เคบายา” เสนอโดยสิงคโปร์ ร่วมกับไทย มาเลเซีย อินโ
แสดง'โขน-โนรา'สานสัมพันธ์ที่เขมร
25 พ.ย.2567 - นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มีนโยบายนำมิติทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมมาส่งเสริมความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทยในภูมิภาคอาเซียนและเวทีนานาชาติ